Men’s Jewelry เครื่องประดับผู้ชายมีส่วนแบ่งยอดขายในแบรนด์ต่างๆ มากขึ้นทุกที โดยไม่จำเป็นต้องดีไซน์จิวเวลรี่ใหม่ให้ดู ‘แมน’ ขึ้นแต่อย่างใด ดังเช่น Tubogas สายเกลียวในตำนานของ Bvlgari ซึ่งเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ‘ทอง’ แบบตรงตามตัวอักษรจริงๆ
ว่ากันว่า วิกฤตคือแหล่งกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยม เมื่อสถานการณ์อันบีบคั้นจะรีดเค้นเอานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาจากจินตนาการของมนุษย์ได้อย่างเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ Tubogas หนึ่งในดีไซน์สุดไอคอนิกที่เห็นเพียงสายเกลียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น Bvlgari
ในยุค 1940s เกิดวิกฤตขาดแคลนแพลตินัม วัสดุสำคัญที่ใช้ในการทำเครื่องประดับและงานดีไซน์ต่างๆ ด้วยเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 จำเป็นต้องใช้แพลตินัมจำนวนมหาศาลไปกับการสร้างอาวุธ ระเบิด ชิ้นส่วนเครื่องยนต์รบ ไปจนถึงปืนไรเฟิล เพราะกฎหมายห้ามใช้แพลตินัมนี้เองทำให้วงการจิวเวลรี่ต้องหันไปหาวัสดุอื่นมาทดแทน และหวยก็ไปออกที่ ‘เยลโลว์โกลด์’
นอกจากนี้ภาพรถถังและศาสตราอาวุธอันแข็งแรงบึกบึนต่างๆ ยังพบเห็นได้ง่ายทุกเมื่อเชื่อวัน จึงส่งผลต่อดีไซน์ให้กลายเป็นเส้นสายรูปทรงแข็งเฉียบคม และทำให้สไตล์อาร์ตเดโคที่เน้นรูปทรงเรขาคณิตเฟื่องฟูขึ้นมา
ในปี 1948 Bvlgari แบรนด์เครื่องประดับจากอิตาลีก็ได้เปิดตัวดีไซน์ใหม่เป็นนาฬิกาสายโลหะเกลียวที่ยืดหดได้เหมือนสปริง โดยใช้ทองหรือโลหะพันรอบแท่งไม้หรือแท่งทองแดง แล้วดึงแท่งไม้ออก เหลือแต่ขดทองไร้รอยเชื่อมต่อสวยงามเรียกว่าเทคนิค Tubogas ซึ่งต้นแบบไม่ได้มาจากตำนานเทพปกรณัมกรีกตามต้นกำเนิดของ Sotirio Bulgari ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวกรีก หรือใช้แรงบันดาลใจจากโรมันอันรุ่มรวย ‘Bvlgari Tubogas’ มาจากท่อส่งและลำเลียงก๊าซอัดในยุค 1920s นับแต่นั้นมา เทคนิค Tubogas ก็ได้สร้างสรรค์ดีไซน์สายเกลียวที่ช่วยให้ Bvlgari เป็นที่จดจำได้ไปทั่วโลก
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา Bvlgari จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่นเครื่องประดับอัญมณีใหม่ บุลการี ทูโบกาส (Bvlgari Tubogas) ในงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่กรุงเทพฯ หลังเปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ที่มหานครนิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเปิดตัว 16 ผลงานสร้างสรรค์ใหม่ที่ตีความเยลโลว์โกลด์ที่ขึ้นรูปด้วยเทคนิคทูโบกาสให้เป็นสายเกลียว มีทั้งชิ้นงานอันเรียบง่ายจนถึงดีไซน์วิจิตรประดับอัญมณีสี
งานครั้งนี้พิเศษสุดตรงที่รวมพลคีย์สำคัญของเมซงจากโรมันไว้ที่เมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ฌอง-คริสตอฟ บาแบง (Jean-Christophe Babin) ซีอีโอบุลการี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก พร้อมด้วย มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of The House ที่สวมดีไซน์ Tubogas ขึ้นไปเล่นกีตาร์โซโล่ในงาน
นอกจากมายแล้ว Bvlgari Tubogas ยังขับแสงให้กับเหล่าหนุ่มๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น สกาย วงศ์รวี นทีธร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ และ ภีม-วสุพล พรพนานุรักษ์ จาก BUS
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ผู้ชายได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อยอดขายเครื่องประดับไปทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเป็นเหตุผลที่ Bvlgari Tubogas มาจัดงานยิ่งใหญ่ในเมืองไทย
ตลาดเครื่องประดับผู้ชายมีมูลค่าราวๆ 34,335.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และเติบโตขึ้นสู่ตัวเลข 35,953.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 71,809.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2032
มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of The House
ยอดขายในตลาดไฮจิวเวลรี่หรือเครื่องประดับชั้นสูง ผู้ชายก็ช่วยขยับตัวเลขได้ดีไม่แพ้กัน โดยในปี 2023 ไฮจิวเวลรี่ผู้ชายมียอดขาย 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเซกเมนต์ผู้หญิง แต่ตัวเลขการเติบโตจิวเวลรี่ผู้ชายอยู่ที่ 7.3% ขณะที่เซกเมนต์ผู้หญิงเติบโตที่ 4.6% จากข้อมูลของ Euromonitor เรียกว่าในระยะยาว แบรนด์ต่างๆ จะหันมาทุ่มเททำการตลาดเอาใจผู้ชายสายจิวเวลรี่มากขึ้นอย่างแน่นอน
สิ่งที่ดันยอดขายเครื่องประดับในหมู่ผู้ชายให้เติบโตพรวดพราดขนาดนี้มาจากมุมมองต่อความเป็นชายที่เปลี่ยนไปในสังคม ผู้ชายหันมาสนใจแฟชั่นและเครื่องประดับมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นลุคทำงาน ไปสังสรรค์ ทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ หรือพักผ่อนก็ต้องมีพรอพที่เป๊ะสำหรับทุกโอกาส
สกาย-นานิ
ภีม BUS
กระแสสังคมที่แปรเปลี่ยนนี้ทำให้แบรนด์ต่างๆ เพิ่มตัวเลือกมากขึ้นเพื่อดึงดูดใจลูกค้าผู้ชาย หรือปรับดีไซน์ให้เป็น Gender Neutrality มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีผู้ชายบางกลุ่มที่แคร์รี่สร้อย แหวน กำไล ต่างหูที่หยดย้อยและเยอะได้แบบก้าวข้ามความเป็นเพศไปเลย เพราะฉันชอบดีไซน์แบบนี้ ฉันก็จะใส่ โดยไม่สนใจว่าเป็นสร้อยผู้หญิง แหวนผู้ชาย กำไลไร้เพศ ฯลฯ โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย ฯลฯ ได้ก้าวขึ้นมาครองส่วนแบ่งถึง 53% ในตลาดจิวเวลรี่ผู้ชายในปี 2023
Bvlgari Tubogas บนตัวมาย สกาย นานิและภีม จึงสะท้อนภาพใหญ่ของวงการเครื่องประดับระดับภูมิภาคและระดับโลกที่วงโคจรหันเหมาหาหนุ่มๆ ผู้ที่วันนี้เดินมาไกลมากแล้วการใส่แค่แหวนแต่งงานกับคัฟลิงค์
Words: Sritala Supapong
Photos: Courtesy of Bvlgari
ข้อมูลจาก
