อนิเมะฟีเวอร์! เมื่อแบรนด์ตบเท้าคอลแลบฯ กับการ์ตูนดัง งัดกลยุทธ์ฟาดฟันหวังจับใจเจนซี

ล่าสุดข่าวแมคโดนัลด์จับมือกับอนิเมะชื่อดัง มหาเวทย์ผนึกมาร เพื่อเปิดตัวซอสรสชาติใหม่ ขายเฉพาะในแอปพลิเคชันและวางจำหน่ายในช่วงเวลาจำกัด หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จกับแคมเปญ WcDonald’s เมื่ออนิเมชันหลายเรื่องบิดชื่อร้านจากตัวอักษร M เป็น W เพื่อเลี่ยงการพูดถึงตรงๆ และมุกล้อเลียนนี้แบรนด์เห็นดีเห็นงามจนคลอดสินค้าจากโลก WcDonald’s ออกมาให้แฟนๆ ในโลกจริงได้ชิมกัน ขณะที่ Coca-Cola พากระแสฮีโร่มาร์เวลกลับมาอีกครั้งเพื่อสนับสนุนภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine

ก่อนจะมีทอยอาร์ตให้แฟนๆ ได้สะสม พวกเราต่างประทับใจการคอลแลบฯ กับอนิเมะมาก่อน ขอย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 80 เมื่อการคอลแลบฯ เช่นนี้เชื้อเชิญให้เด็กๆ ควักเงินจ่ายได้ง่าย จากการ์ดสะสมของขนมโดเรมอน ไปจนถึงโมเดลตัวละคร Sanrio ที่แถมมาจากไอศกรีมเนสท์เล่ เหล่าฟิกเกอร์หุ่นยนต์ของบันได และสารพัดคอลเลกชันชุดแฮปปี้มีลที่แฟนๆ วัยเด็กต้องสะกิดแขนคุณพ่อคุณแม่ให้เลี้ยวเข้าร้านโดยทันที

แท้จริงแล้วการคอลแลบฯ กับอนิเมะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้ผลดีทุกครั้งไป ใครๆ ก็ชอบ

แมคโดนัลด์จับมือกับอนิเมะชื่อดัง มหาเวทย์ผนึกมาร เพื่อเปิดตัวซอสรสชาติใหม่ ขายเฉพาะในแอปพลิเคชัน

Photo: timesnownews.com

พัฒนาการตลอดเส้นทางคอลแลบฯ

การคอลแลบฯ กับอนิเมชันมีมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ในยุคแรกๆ เราจะเห็นสินค้าสำหรับเด็กเป็นหลัก จากนั้นเมื่อสู่ยุคเฟื่องฟู เราจึงได้เห็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีหลากหลายมากขึ้นและไม่ได้จำกัดสำหรับเด็กอีกต่อไป ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงสินค้าแฟชั่นและความงาม เป็นต้น เนื่องด้วยแบรนด์พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ตัวเองดูเด็กลง โดยหยิบจับกระแสอนิเมะฟีเวอร์เข้ามาร่วมด้วย เพราะสามารถกระตุ้นฐานแฟนคลับใหญ่ได้ง่ายและเป็นแฟนคลับกลุ่มใหญ่ที่มีกำลังซื้อ

Dolce&Gabbana x Jujutsu Kaisen คอลเลกชันเสื้อผ้าสไตล์ยูนิเซ็กซ์
Photo: Courtesy of Dolce&Gabbana

เมื่อ Dolce&Gabbana x Jujutsu Kaisen หยิบจับพลังคุณไสยของมหาเวทย์ผนึกมารมาบอกเล่าผ่านเสื้อผ้าและแฟชั่นไอเทมที่ใส่สบายสไตล์ยูนิเซ็กซ์ ในขณะที่ Loewe จับมือกับ Studio Ghibli ขนคอลเล็กชันเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าและของตกแต่งบ้าน นำเสนอลวดลายจาก Spirited Away, My Neighbor Totoro และ Howl’s Moving Castle หวังเอาใจแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม

LOEWE x Howl’s Moving Castle คอลเลกชันที่ LOEWE ร่วมมือกับ Studio Ghibli

Photo: Courtesy of LOEWE

Gucci เข็นคอลเลกชัน Doraemon x Gucci เป็นคอลเล็กชันที่ขนมาหมดตั้งแต่เคสโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย รวมถึงรองเท้าสนีกเกอร์ ภายใต้ลวดลาย GG Supreme ที่พิมพ์ลายโดราเอมอน

แบรนด์สปอร์ตแวร์อย่าง Adidas เลือกจับมือกับดราก้อนบอล Z ส่วน Uniqlo คอลแลบฯ กับดาบพิฆาตอสูรและวันพีช เข็นเสื้อยืด, เสื้อฮู้ด, เสื้อกันหนาว และของใช้ต่างๆ มาเอาใจแฟนๆ ชนิดที่ว่าขายดีราวกับแจกฟรี

Gucci เข็นคอลเลกชัน Doraemon x Gucci ภายใต้ลวดลาย GG Supreme ที่พิมพ์ลายโดราเอมอน
Photo: Courtesy of Gucci

หมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยหน้า แบรนด์คอมพิวเตอร์สายเกมอย่าง Asus หยิบจับกลิ่นอายอนิเมชันเรื่องอีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา ปะทะลงในทุกไอเทมแรงร้อยม้าทั้งแลปท็อป, เมนบอร์ด, การ์ดจอ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในคอลเลกชัน ROG X Evangelion รวมถึงจับมือกับดาบพิฆาตอสูรในคอลเลกชันอุปกรณ์เสริม TUF GAMING X Demon Slayer อีกด้วย

Asus หยิบจับกลิ่นอายอนิเมชันเรื่องอีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษาลงในคอลเลกชัน ROG X Evangelion

Photo: Courtesy of ASUS

มาที่แวดวงความงาม SHU UEMURA ฉลองครอบรอบ 30 ปีเซเลอร์มูนด้วยการเข็นคอลเลกชัน SHU UEMURA x Pretty Guardian Sailor Moon Eternal Collection ที่แพกเกจน่ารักน่าสะสมถึงกับขาดตลาด เช่นเดียวกับ Maybelline ที่จับมือกับเซเลอร์มูนวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในญี่ปุ่น เป็นต้น

Pretty Guardian Sailor Moon Eternal เหล่าอัศวินเซเลอร์คนโปรดในดวงใจใครหลายคน

Photo: Courtesy of Toei Company, Ltd.

SHU UEMURA x Pretty Guardian Sailor Moon Eternal Collection ฉลองครอบรอบ 30 ปีเซเลอร์มูน

Photo: Courtesy of SHU UEMURA

ทำไมต้องเป็นอนิเมะ

มีวิจัยและผลสำรวจมากมายที่ช่วยยืนยันว่าการตลาดคอลแลบฯ กับอนิเมะนั้นถูกที่ถูกทาง โดยรายงานของ Exactitude Consultancy คาดการณ์ว่าขนาดตลาดแอนิเมชันทั่วโลกจะเติบโตจาก 179.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เป็น 410.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 และผลสำรวจของ Crunchyroll ยังยืนยันว่าอนิเมะมีฐานแฟนคลับทั่วโลกมีมากกว่า 300 ล้านคน

ผลสำรวจของ Statista นำเสนออีกว่าอนิเมะเป็นสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน 11 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สหรัฐอเมริกา บราซิล เม็กซิโก รัสเซีย และอินเดีย อีกด้วย

Uniqlo คอลแลบฯ กับดาบพิฆาตอสูร

Courtesy of Uniqlo

เจนซี ฉันเลือกนาย!

ปัจจุบันหลายแบรนด์กำลังพุ่งความสนใจไปที่เจนซี แม้ว่าปัจจุบันเจนซียังไม่เป็นเจนที่มีกำลังซื้อสูงสุด แต่ไม่นานในอนาคตอันใกล้พวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มประชากรที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 2,400 ล้านคนทั่วโลกในปี 2025 และใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากกว่าวัตถุ

ข้อมูลของ Crunchyroll  ยังพบอีกว่า 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามเจนซีดูอนิเมะเป็นประจำ โดย 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามเจนซีระบุว่าพวกเขา “คลั่งไคล้” อนิเมะ

ในรายงานปี 2023 ของ Nielsen พบว่า เจนซี ในสหรัฐอเมริกาดูวิดีโอเฉลี่ย 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยอนิเมะเป็นประเภทวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันดับสองสำหรับเจนซี

ในรายงานยังพบว่าเจนซีมีแนวโน้มที่จะดูอนิเมชั่นบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงมากกว่าโทรทัศน์ และอนิเมะยอดนิยมสำหรับ เจนซีได้แก่ผ่าพิภพไททัน, ดาบพิฆาตอสูร, มายฮีโร่ อคาเดเมีย และวันพีช

Dolce&Gabbana x Jujutsu Kaisen ที่เข็นมาเอาใจแฟนๆ มหาเวทย์ผนึกมาร
Photo: Courtesy of Dolce&Gabbana

การคอลแลบฯ กับอนิเมะสร้างผลกระทบกับเจนซีอย่างไรบ้าง
1.มีแนวโน้มที่จะสร้างการรับรู้มากขึ้น

เจนซีเติบโตมากับสื่อดิจิทัล และมีแนวโน้มที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย การที่แบรนด์ดังร่วมมือกับอนิเมะที่พวกเขาชื่นชอบสามารถดึงดูดความสนใจ กระตุ้นให้พวกเขาค้นหาข้อมูล และติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์มากขึ้น

2.มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น

เจนซีให้ความสำคัญกับความรู้สึก อารมณ์ และประสบการณ์เป็นอย่างมาก การที่แบรนด์ดังร่วมมือกับอนิเมะ สร้างคอลเลกชันสินค้าที่มีสื่อถึงเรื่องราวหรือตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบ จะเป็นการกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น

3.มีแนวโน้มที่จะบอกต่อและแชร์ข้อมูลกับผู้อื่น

เจนซีชอบแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์ และความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย การที่พวกเขาได้ใช้สินค้าจากคอลเลกชันพิเศษจะกระตุ้นให้พวกเขาถ่ายรูป รีวิว และบอกต่อเพื่อนฝูงบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น

Uniqlo คอลแลบฯ กับวันพีช

Courtesy of Uniqlo

คิดแบบแบรนด์

การทำการตลาดโดยการคอลแลบฯ กับอนิเมชันต่างๆ ควรเริ่มพิจารณาตามหัวข้อดังต่อไปนี้

1.กำหนดเป้าหมาย

กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการเข้าถึง วิเคราะห์ข้อมูลประชากร พฤติกรรม ความสนใจ ตลอดจนไลฟ์สไตล์ต่างๆ  รวมถึงกำหนดเป้าหมายทางการตลาดให้ชัดเจน เช่น ต้องการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ต้องการกระตุ้นยอดขาย ต้องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์หรือต้องการสร้างฐานลูกค้าใหม่ เป็นต้น

2.เลือกอนิเมะให้เหมาะสม

ปัจจัยแรกเลือกให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งตรงกับกลุ่มแฟนคลับของอนิเมะ โดยที่เนื้อเรื่องและธีมของอนิเมะต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์สินค้าและบริการของแบรนด์ ปัจจัยต่อมาคือเลือกตามความนิยม อนิเมะที่มีความนิยมจะได้รับการพูดถึงและบอกกล่าวจากกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ทั้งนี้ทั้งสองปัจจัยควรพิจารณาคู่กัน ดังนั้นการที่แบรนด์เครื่องสำอางหันมาจับมือกับเซเลอร์มูนแทนผ่าพิภพไททันก็สืบเนื่องมาจากสินค้าเพื่อความสวยงามเหมาะสมกับอัศวินเซเลอร์หน้าตาสะสวย

คอลเลกชัน Adidas x Dragon Ball Z ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ
Photo: Courtesy of Adidas

3.ออกแบบกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้อง

สร้างการกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น ไปจนถึงการโฆษณา กิจกรรมพิเศษต่างๆ โดยให้แฟนๆ เข้าถึงได้โดยง่ายและหลายช่องทาง เช่นงานฉายภาพยนตร์ หรืองานแฟนมีตติง เป็นต้น

4.สร้างเนื้อหาที่สร้างสรรค์

หลังจากที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายทั้งความสนใจ ความชอบ และพฤติกรรมต่างๆ แล้ว ถึงคราวที่แบรนด์ต้องสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดใจสอดคล้องกับธีมของอนิเมะ โดยนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายทั้งบทความ ภาพ หรืออินโฟกราฟิก โดยเน้นการกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้แฟนคลับมีส่วนร่วมกับเนื้อหา เช่น การแชร์ การกดไลก์ หรือการแสดงความคิดเห็น อย่างที่ McDonald’s เล่าเรื่อง WcDonald’s ในมิติของอนิเมะให้ออกมาจับต้องได้ในโลกจริง ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้แฟนๆ อยากไปสัมผัสประสบการณ์

SHU UEMURA x Pretty Guardian Sailor Moon Eternal Collection ที่ขายหมดในเวลาอันสั้น

Photo: Courtesy of SHU UEMURA

Adidas x Dragon Ball Z สร้างปรากฎการณ์ฮือฮาในโซเชียลฯ ส่วน Uniqlo x Demon Slayer และ One Piece รวมถึง SHU UEMURA x Pretty Guardian Sailor Moon Eternal Collection ขายดีแบบเทน้ำเทท่า ทั้งนี้เพราะการตลาดคอลแลบฯ กับอนิเมะยังคงทรงพลัง เราในฐานะแฟนด้อมแค่เห็นคำว่าลิมิเต็ดอิดิชันแปะคู่กับอนิเมะเรื่องโปรด ยังไงกระเป๋าตังก็สั่นรัวๆ อยู่แล้ว

Words: Varichviralya Srisai

ข้อมูลจาก:

you might like

Scroll to Top