7 วิธีมัดใจเจนซีของ Burger King ถึง ASTRO Stuffs ของไบร์ท วชิรวิชญ์

Gen Z หรือกลุ่มคนที่เกิดในปี 1997-2012 กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญกับตลาดแรงงาน และกลายเป็นผู้บริโภคที่มีกำลังซื้ออย่างเต็มตัว ดังนั้นเราจึงมีโอกาสได้เห็นแบรนด์น้อยใหญ่ปรับภาพลักษณ์ หรือรีแบรนด์เพื่อสื่อสารให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว

The Optimized สรุป 7 หัวข้อการตลาดที่แบรนด์มักหยิบมาใช้เพื่อตกหัวใจเหล่าเจนซี

Photo: Freepik

1. โฟกัสสื่อโซเชียลฯ ของคุณให้ดี

ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ สื่อโซเชียลฯ มีความสำคัญเสมอมาและยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป หากโฟกัสไปที่เรื่องปิดการขายกับกลุ่มผู้บริโภคเจนซีโดยเฉพาะนั้น  PYMNTS Intelligence ร่วมกับ Amazon Web Services เผยผลสำรวจพฤติกรรมการชำระเงินดิจิทัลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย พบว่า

  • 68% ของผู้บริโภคเจนซีนิยมค้นหาผลิตภัณฑ์ทางโซเชียลมีเดีย
  • 22% ซื้อสินค้าได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นอัตราการชอปปิงสูงที่สุดบนโซเชียลมีเดีย หากเทียบกับทุกเจเนอเรชันน

Photo: Freepik

แพลตฟอร์มไหนที่น่าจับตามอง

Instagram และ TikTok เป็นเครือข่ายโซเชียลฯ ที่ผู้บริโภคเสิร์ชหาและซื้อผลิตภัณฑ์จำนวนมากจำพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงสินค้าบิวตี้ ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด โดยผลสำรวจพบว่า

  • กลุ่มเจนซีกว่า 40% มักใช้อินสตาแกรมหรือติ๊กต่อกมากกว่า Google เพื่อสำรวจแบรนด์ต่างๆ
  • จับตามอง Pinterest เพราะกำลังมีบทบาทสำคัญหลังจากที่เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เกี่ยวกับการชอปปิง และแพลตฟอร์มกำลังหมายตาไปกลุ่มผู้บริโภคเจนซีอย่างใกล้ชิด
  • เจนซีเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดยซื้อสินค้าเฉลี่ย 4 รายการต่อครั้ง หากเทียบกับคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ซื้อ 6 รายการ แต่เจนซีกลับมีมูลค่าสูงกว่า ถึง 28.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อรายการ เทียบกับคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ใช้จ่ายเพียง 20.4 เหรียญ

ดังนั้นอย่าลืมอัดคอนเทนต์โปรโมตเมนูใหม่ โปรโมชันยั่วยวนหัวใจ ไปจนถึงคลิปบรรยากาศของร้าน ฯลฯ ผ่านอินสตาแกรมและติ๊กต่อก ตลอดจนพินเทอร์เรสต์ในสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าเดิม หากคุณอยากเล่นกับหัวใจของเจนซี

Photo: Solenfeyissa on Pixabay

2.กำหนดคุณค่าและพันธกิจให้ชัดเจน

เจนซีเชื่อว่าคุณค่าของแบรนด์สะท้อนแนวคิดของเจ้าของ และเชื่อว่าบริษัทควรมีส่วนร่วมในปรับปรุงสังคมให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงเกิดแรงขับเคลื่อนสังคมบางประการที่เจนซีแสดงออกถึงจุดยืนโดยมีตั้งแต่

  • สิทธิ LGBTQA+: 60% ของกลุ่มเจนซีมองว่าคู่รักเพศเดียวกันควรสามารถรับอุปการะบุตรบุญธรรมได้
  • การโอบอุ้มความหลากหลาย: 60% ของกลุ่มเจนซีมองว่าความหลากหลายทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์เป็นผลดีต่อสังคม
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม: 70% ของกลุ่มเจนซีพยายามซื้อสินค้าจากบริษัทที่พวกเขาเห็นว่ามีจริยธรรม

Photo: Freepik

แบรนด์ควรทำความเข้าใจแนวคิดดังกล่าวและสื่อสารพันธกิจที่ชัดเจนไปสู่กลุ่มผู้บริโภค และไม่ใช่แค่ผลประโยชน์เท่านั้น แบรนด์ควรคำนึงถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมอย่างแท้จริง

ยกตัวอย่างการทำการตลาดในยุค 90 ถึง 2,000 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลใต้วงแขนกดดันให้ผู้หญิงเกิด Pain Point ในเรื่องของผิวที่ไม่เรียบเนียน (ซึ่งแบรนด์ใช้คำว่า ผิวหนังไก่) ค่านิยมของผู้หญิงยุคนั้นคือต้องมีผิวใต้วงแขนที่ขาว เรียบเนียน ปราศจากเส้นขนใดๆ

Photo: IG @wearhuha

แต่การนำเสนอคอนเทนต์ในยุคนี้กลับเคารพในเรือนร่างและธรรมชาติของมนุษย์มากขึ้น อย่างแบรนด์ชุดชั้นใน Huha ที่ส่งเสริมความมั่นใจของผู้หญิงด้วยการชี้ให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนเรือนร่าง เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ความงามตามธรรมชาติ นับว่าเป็นแนวคิดที่ขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความเข้าใจในความงามและสุขภาพอย่างแท้จริง

3.การตลาดแบบยั่งยืน

รายงาน The Deloitte Global 2022 Gen Z and Millennial Survey: Striving of Balance, Advocating for Change (1) ที่ได้ทำการสำรวจกลุ่มมิลเลนเนียลและเจนซีพบว่า

  • ผู้ตอบแบบสอบถาม 90% พยายามมีส่วนช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
  • โดยเจนซีกว่า 64% ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่ส่งผลต่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม

จึงไม่แปลกใจที่แบรนด์ต่างๆ หันมาใส่ใจโลกมากขึ้นเพื่อสร้างผลกระทบในระยะยาว ยกตัวอย่างแบรนด์ ASTRO stuffs แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ของพระเอกซีอีโอ ตัวแทนเจนซีอย่าง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชิวอารี ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องการสร้างไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับของตัวเองผ่านแฟชั่นที่มีจุดตั้งต้นอย่างวัสดุยั่งยืน ที่ลดการสร้างอันตรายกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนการใช้ซ้ำ วัสดุนำกลับมาใช้ใหม่ และวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจุดยืนดังกล่าวของแบรนด์สามารถตกหัวใจทั้งกลุ่มแฟนคลับและกลุ่มเจนซีที่รักสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

ASTRO stuffs แบรนด์แฟชั่นยั่งยืนของ ไบร์ท-วชิรวิชญ์

Photo: IG @astrostuffs

4.มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้

แม้กระทั่งบทความนี้ยังอ้างอิงถึงข้อมูลการวิจัยและผลการศึกษามากมายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้อ่าน แต่สำหรับ เจนซีแล้ว กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อในงานวิจัยและผลสำรวจเท่ากับคนเจเนอเรชันก่อนหน้า

ดังนั้นข้อความโฆษณาอย่างเช่น “ผู้หญิงร้อยละ 90 รู้สึกว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น” จะกลายเป็นการสื่อสารที่ล้มเหลวทันทีกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว พวกเขาจะขุดลึกเข้าไปในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของแบรนด์ เพื่อดูรีวิว ปัญหา วิธีการรับผิดชอบ ตลอดจนการสื่อสารที่มีความชัดเจนตรงไปตรงมาแบบไม่หมกเม็ด

ดังนั้นการทุ่มงบไปที่เหล่าอินฟลูฯ หรือครีเอเตอร์ที่ไม่ได้เป็น Real User อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกจับต้องยากมากขึ้น แบรนด์อาจต้องค้นหาวิธีการสื่อสารที่จริงใจมากขึ้น

Photo: Freepik

5. บุคลิกชัดเจน สนุกสนาน และติดตลก

ขอให้ภาพลักษณ์งดงามสมบูรณ์แบบหยุดไว้ที่เจนวาย (หรือชาวมิลเลนเนียล) ส่วนเจนซีเรียกร้องสิ่งที่จับต้องได้และชัดเจน ข้อดีคือแบรนด์สามารถโปรโมตอะไรที่ง่ายๆ สบายๆ แต่คนดูต้องจำได้ว่านี่คือตัวคุณ เช่นเดียวกับการเล่าเรื่อง และการสื่อสารที่สนุกสนานจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าหันเหความสนใจและวอกแวกได้ง่ายให้คงอยู่กับเนื้อหาที่คุณต้องการสื่อสารตั้งแต่ต้นจนจบ

อย่างที่ Burger King Thailand ชูความสนุกสนานปนยียวนเล็กๆ ด้วยผุดคอนเทนต์ที่นำเมนูของ Burger King มาใส่จินตนาการเล่าเรื่องผ่านกลยุทธ์ Story Telling พร้อมเสริมด้วยอารมณ์ขันของแอดมิน จึงส่งผลให้แบรนด์จับต้องได้ เสมือนเพื่อนคุยกับเพื่อน และกระตุ้นเอนเกจเมนต์ได้อย่างต่อเนื่อง

 

Burger King Thailand กับกลยุทธ์การเล่าเรื่องสนุกสนานผ่านคอนเทนต์

Photos: Burger King Thailand

6. ประสบการณ์เสมือนจริง

เจนซีเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและมีแนวโน้มว่าชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่จำเจ ดังนั้นแบรนด์หลากหลายจึงหันมาสร้างประสบการณ์ผ่าน Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) กันมากขึ้น

เช่น American Express ที่เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการแข่งขันเทนนิส US Open เคยผุดกิจกรรมเกม “You vs. Sharapova” เกมที่ใช้เทคโนโลยี VR ที่ให้แฟน ๆ ได้แข่งขันเทนนิสเสมือนจริงกับนักเทนนิสชื่อดัง Maria Sharapova

หรืออย่าง IKEA ที่คลอด IKEA Place แอปพลิเคชันที่ร่วมมือกับ Apple ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางเฟอร์นิเจอร์เสมือนจริงภายในบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ ลูกค้าจะได้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่พวกเขาต้องการเหมาะสมจริงๆ ก่อนสั่งซื้อ และก็ได้กระแสตอบรับอันน่าประทับใจกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

Photo: Freepik

7.สร้างคอมมูนิตี้

ผลสำรวจของ Cigna ในอเมริกาพบว่ากลุ่มเจนซีมีแนวโน้มว่าเป็นกลุ่มคนที่โดดเดี่ยวที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่พวกเขามองหาการมีส่วนร่วมและพยายามเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่มีแนวคิดเหมือนกัน ดังนั้นหากแบรนด์ช่วยอำนวยความสะดวกให้พวกเขาได้พบกลุ่มผู้นำทางความคิด ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีอิทธิพลในเครือข่ายที่พวกเขาหลงใหล ก็จะทำให้ ผู้บริโภครู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดี และแบรนด์สามารถเข้าถึง Insight ลูกค้าที่เป็นผู้ใช้งานจริงทั้งฟีดแบกในแง่บวกและลบ เพื่อนำไปพัฒนาในด้านต่างๆ เป็นต้น

Photo: Freepik

หากคุณกำลังมองว่าเจนซีคือขุมพลังสำคัญ ลองนำแนวคิด 7 ข้อหลักข้างต้นนี้ ที่ไปต่อยอดไอเดียเพื่อเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค แบรนด์ดังต่างๆ ได้พิสูจน์แล้ว เหลือแค่คุณลองแล้วละ เราเอาใจช่วย

Words: Varichviralya Srisai

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top