At Flower ธุรกิจดอกไม้กินได้ จาก ‘สวน’ สู่ ‘จาน’ ที่เบ่งบานในใจทั้งคนปลูกและคนกิน

สำหรับผู้บริโภคอย่างเราดอกไม้เล็กๆ ที่จัดวางอยู่บนเบเกอรีหรือจานอาหารคงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความน่าสนใจอยู่เบื้องหลังความพิถีพิถันเหล่านี้กลับเบ่งบานในเส้นทางธุรกิจ ห้างโมเดิร์นเทรดหลายแห่งวาง “ดอกไม้กินได้” ให้เป็นอีกหนึ่งสินค้าไฮไลต์ในชั้นวางเดียวกับผักและผลไม้ รวมถึงห้องอาหารในโรงแรมดังต่างสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

วันนี้ The Optimized จึงพาผู้อ่านไปทำความรู้จัก At Flower สตาร์ตอัปจำหน่ายดอกไม้กินได้ระดับพรีเมียม ดีกรีรางวัล The Best High Potential Entrepreneur Award RMUTT 2022 ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ดอกไม้กินได้สนับสนุนรัฐวิสาหกิจชุมชนและเกษตรยั่งยืน

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

บ่มเพาะเมล็ด

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ At Flower เริ่มมาจากไอเดียดอกไม้กินได้ของ ออมสิน – ชนัญธิดา ทะพลี และเบนซ์ -นายธนธร อำไพกูล ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้รับคัดเลือกเป็น The Best High Potential Entrepreneur Award RMUTT 2022 จากการประกวดผลงาน RMUTT Startup – Prototype Pitching 2022 ของทางมหาวิทยาลัย

เมื่อเห็นความตั้งมั่นและโอกาสทางธุรกิจ คุณณิชชา สารพุทธิเดชา หนึ่งในคณะกรรมการในโครงการฯ จึงได้มอบทุนสนับสนุน และกลายเป็น CEO หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง บจก.แอท ฟลาวเวอร์ เพื่อเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ภายใต้จุดขายสำคัญอย่าง “ความพรีเมียม” และ “ความยั่งยืน”

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

เบ่งบานอย่างสง่างาม

At Flower เบ่งบานท่ามกลางธุรกิจดอกไม้กินได้เจ้าอื่นๆ ที่มาช่วยแก้ปัญหา Pain Point ของลูกค้า หลังพบว่าดอกไม้เป็นสินค้าที่มีความบอบบาง ลูกค้าที่ซื้อไปจะใช้ได้เพียงไม่กี่ดอก บางครั้งเหลือใช้เพียง 5% ของสินค้าเท่านั้นเนื่องจากคุณภาพดอกไม้ลดทอนลง บางดอกเหี่ยวเฉาไม่สามารถนำไปกินหรือประดับตกแต่งได้ สินค้าโดยทั่วไปเก็บได้ไม่เกิน 7 วันก็เน่าเสีย แต่แบรนด์ดอกไม้ At Flower มีอายุนานกว่า 2 เท่าหรือประมาณ 15 วัน และสามารถใช้สินค้าได้มากกว่า 95% นั่นจึงเป็นที่มาว่าแบรนด์ตั้งมั่นในความเป็น “ดอกไม้กินได้เกรดพรีเมียม” โดยตั้งราคาสูงกว่าในท้องตลาด ซึ่งโดยทั่วไปราคาท้องตลาดจะอยู่ที่ 80-90 บาท แต่สินค้าตั้งราคาขายอยู่ที่ 180 บาท

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

เสียงตอบรับจากลูกค้า

แม้ว่าปัจจัยทางด้านราคาจะสูงกว่าท้องตลาดถึง 2 เท่า แต่ลูกค้ากลับยินดีจ่ายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า เชฟเอ๋ – อนุพงษ์ นวลฉวี เซเลบฯ เชฟ หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี (Cluster Executive Pastry Chef) ประจำโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ, อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท และโรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ หนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์กล่าวว่า “การที่ได้ดอกไม้มาแล้วสามารถอยู่ได้นานแทบจะไม่มีแบรนด์ไหนทําได้ ดอกไม้ที่ซื้อมา 3 วันก็จะเริ่มเฉา บางทีระหว่างการขนส่งดอกไม้ช้ำหมดแล้ว ซึ่งพอถึงวันงานเราไม่สามารถใช้ได้ แต่ At Flower มีเทคโนโลยีที่ทําให้ดอกไม้ยังคงความสดอยู่ได้นาน เพราะก่อนวันงานเราจะต้องนําของมาสต๊อกไว้ก่อนเพราะไม่สามารถนําของเข้ามาในวันนั้นแล้วใช้วันนั้น เพราะว่ามันคือความเสี่ยง ดังนั้นต้องสั่งล่วงหน้าและ At Flower เป็นอะไรที่ตอบโจทย์”

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

นอกจากเสียงของผู้ใช้จริงแล้ว At Flower มีทั้งลูกค้าคาเฟ่และโรงแรมดังโดยคงกำลังการผลิตถึง 300 กล่องต่อวัน หลายครั้งลูกค้าสั่งสินค้าไปตกแต่งจานสำหรับใช้ออกอีเวนต์ใหญ่ รับรองแขกวีไอพี ทั้งลูกค้าไทยและชาวเกาหลี ล่าสุดแบรนด์รุกตลาดส่งออกประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ที่ธุรกิจคาเฟ่กำลังเติบโต

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

นวัตกรรมทางการเกษตรและความยั่งยืน

ทั้งนี้อะไรที่ช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แบรนด์ดอกไม้กินได้หลายเจ้าอาจจะหันไปพึ่งหาสารเคมี แต่ At Flower ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเนื่องจากตั้งมั่นในวิสัยทัศน์ว่าจะต้องเป็น “แบรนด์ดอกไม้กินได้ที่ยั่งยืน” ตลอดกระบวนการณ์จึงเป็นการทำเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดสารเคมี เนื่องจากแบรนด์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยเอาใจใส่ตั้งแต่เรื่องการเตรียมดินในการเพาะปลูกที่ปราศจากสารเคมีตกค้าง การพิถีพิถันเลือกเมล็ดภัณฑ์ออร์แกนิกโดยเฉพาะมาเพาะแล้วนำกล้าลงดิน ในส่วนของน้ำ แบรนด์ที่มีบ่อพักห่างไกลจากแหล่งสารเคมี ก่อนที่สวนจะเติบโตเป็นรูปร่างและได้รับตราเกษตรอินทรีย์แบรนด์ใช้เวลาบ่มเพาะไม่น้อยกว่า 6 ปีทีเดียว

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

สำหรับการยืดอายุสินค้า แบรนด์ได้รับความร่วมมือจากที่ปรึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศเทคโนโลยีชีวภาพ-นาโนและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อนำเทคโนโลยีเฉพาะมาใช้ยืดอายุเก็บรักษาดอกไม้ได้สำเร็จ จึงเป็นการยืดอายุที่ปราศจากสารเคมีอย่างสิ้นเชิง

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

สนับสนุนเกษตรและรัฐวิสาหกิจชุมชน

At Flower ไม่ใช่แบรนด์ที่มุ่งเน้นการแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แบรนด์นำเสนอวิสัยทัศน์อันแข็งแกร่ง จัดอบรมให้ความรู้ในเชิงเกษตรกับเกษตรเสมอ ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ในการปลูกดอกไม้ การพัฒนาฟาร์มดอกไม้ และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการเกษตรต่างๆ

อย่างกิจกรรมล่าสุดที่ได้รับกระแสตอบรับเชิงบวกคือการร่วมมือกับสหกรณ์นิคมพัฒนา จัด Workshop สอนอาชีพเกษตรกรกว่า 200 ท่าน สำหรับเกษตรทั่วประเทศไทยที่มีที่ดินแต่ยังไม่มีอาชีพ หรือยังไม่เชี่ยวชาญด้านการผลิตสินค้า เป็นต้น

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

ในเรื่องการกระจายรายได้สู่ชุมชน At Flower ฝึกอบรมกลุ่มเกษตรกรที่สนใจให้มีความรู้ความสามารถในการทำเกษตรอินทรีย์ที่ถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนปลูก เพาะเมล็ดและเก็บเกี่ยว เพื่อสนับสนุนรัฐวิสาหกิจชุมชนให้พร้อมเติบโตไปพร้อมแบรนด์ ให้พวกเขาปลูกดอกไม้และแบรนด์รับซื้อกลับมาในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดเล็กน้อยอีกด้วย

Photo: Facebook At Flower-Edible Flower Farm

โมเดลธุรกิจของ At Flower นับว่าเป็นเส้นทางที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ต่างๆ ที่มอบให้กับเกษตรกร การเอาใจใส่ผู้บริโภค และการบ่มเพาะแบรนด์ ที่ทั้งหมดทั้งมวลจะเบ่งบานไปด้วยกันราวกับดอกไม้สีสันสดใสทั้งหมด 28 ชนิดของ At Flower

Words: Varichviralya Srisai

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top