‘100 เหตุผลที่จะไม่ทำ vs. 1 เหตุผลที่จะทำ’ แนวคิดจาก Cute Things from Japan ร้านเครื่องเขียนดังในญี่ปุ่น

หน้าร้านกว้างไม่เกิน 3 เมตรกั้นระหว่างโลกภายนอกอันสงบนิ่งกับจักรวาลเครื่องเขียน ตั้งแต่เทปกาว ชุดกระดาษเขียนจดหมายและซอง ไปจนถึงตรายางแกะสลักลายต่างๆ น้ำหมึก ปากกา ดินสอ ฯลฯ ที่ล้วนเป็นฝีมือศิลปินญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ ซึ่งทำให้เหล่าคนรักเครื่องเขียนจากทั่วโลกยกให้ Cute Things from Japan เป็นหนึ่งในร้านเครื่องเขียนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น

ภายใน Cute Things from Japan ร้านเครื่องเขียนเล็กๆในแขวงโอตะ กรุงโตเกียว Photos: Courtesy of Cute Things from Japan

เลือกสินค้าที่แตกต่างจากร้านอื่น

บุนกุ หรือเครื่องเขียนในญี่ปุ่นนั้นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คน ดังที่ ‘อายาโกะ’ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน Cute Things from Japan กล่าวว่าคนญี่ปุ่นมักไปซื้อเครื่องเขียนที่ร้านกันเป็นปกติช่วงหลังเลิกเรียน เลิกงาน หรือวันหยุดสัปดาห์

อายาโกะเองก็เป็นหนึ่งในคนรักเครื่องเขียน แต่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะเป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียน มิพักต้องพูดถึงความฝันที่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียนมีชื่อและดีที่สุดร้านหนึ่งในญี่ปุ่น

ในยุค 90s ที่อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งแปลกปลอมของยุคสมัย อายาโกะเริ่มเขียนจดหมายหาคนต่างชาติ สาวญี่ปุ่นมีมี Pen Pal หรือเพื่อนทางจดหมายกับคนในฟินแลนด์เพื่อจะฝึกภาษาอังกฤษ

ชุดสติ๊กเกอร์ Bear’s Coffee Shop 15 แบบ คอลเล็กชันพิเศษของทางร้านร่วมกับศิลปิน momoro Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

เธอจึงเริ่มสะสมกระดาษเขียนจดหมาย ซองจดหมาย สติ๊กเกอร์ เทปน่ารักๆ จากซานริโอ เฮลโหลคิตตี้ จนกลายเป็นของสะสมที่มีหลากหลายสไตล์มาก เป็นแนวมินิมัลลิสม์ก็มี แนวคิกขุแบบซานริโอก็มี เพราะมีทั้งแบบที่ตัวเองชอบ และแบบที่ Pen Pal ชอบ ซึ่งเธอเองก็บอกไม่ได้ว่าสไตล์ของตัวเองเป็นอย่างไร กระทั่งในเวลาต่อมาที่เปิดร้านเครื่องเขียนเอง ของในร้านก็ยังเป็นสไตล์ยำรวมแบบนี้ จนลูกค้าเรียกว่า ‘สไตล์อายาโกะ’

ยางลบแกะสลักลายเส้นการ์ตูนเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน nonnlala Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

เปลี่ยนปัญหาเป็นทางออก

ในปี 2011 ที่ญี่ปุ่นเกิดสึนามิและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในเวลานั้นอายาโกะเป็นพนักงานออฟฟิศในใจกลางโตเกียว กระนั้นเธอยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดิวไหวในภูมิภาคโทโฮคุที่อยู่ห่างออกไปถึง 500 กิโลเมตร ผู้คนในโตเกียวตื่นกลัวกันมาก รถไฟใต้ดินปิดทำการ บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเดิน 5-6 ชั่วโมงจากที่ทำงานเพื่อไปรับลูกที่โรงเรียน

หนึ่งปีต่อมาอายาโกะได้พบกับสามี และเธอก็รู้สึกไม่ปลอดภัยนักหากต้องมาทำงานที่ใจกลางโตเกียวต่อไป จึงเริ่มคิดถึงงานที่ทำได้ที่บ้านหรือในละแวกบ้าน เพื่อนจากออสเตรเลียที่ทำงานในโตเกียวแนะนำว่า ทำไมไม่ลองเปิดร้านเครื่องเขียนในเว็บไซต์ Etsy ดูล่ะ

Etsy หรือ? คืออะไรน่ะ อายาโกะไม่เคยได้ยินชื่อเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งขายงานฝีมือมาก่อนด้วยซ้ำ

เพื่อนซึ่งเป็นแฟนตัวยงของร้านเครื่องเขียนญี่ปุ่นบอกว่า จริงๆแล้วหาร้านเครื่องเขียนนอกโตเกียวได้ยากมาก ทำไมเธอไม่เป็นร้านนั้นให้กับคนรักเครื่องเขียนจากทั่วโลกดูล่ะ…

อายาโกะครุ่นคิดหนักมาก เพราะเธอเองก็ไม่เคยเป็นเจ้าของกิจการ แต่เกิดวาบความคิดถึงไปถึงตอนที่เริ่มเขียนจดหมายหา Pen Pal ในยุค 90s เพื่อนต่างชาติมักบ่นว่าหาร้านเครื่องเขียนที่มีของน่ารักๆยากมาก แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังยากอยู่ หากระดาษเขียนจดหมายน่ารักๆยากมา 20 ปีแล้ว เจอแบบที่ถูกใจน้อยมาก

ในปี 2014 อายาโกะจึงเปิดร้าน Cute Things from Japan ในเว็บไซต์ Etsy ด้วยความคิดที่ว่าขอเริ่มจากธุรกิจที่เล็กมากๆ ก่อน เพียงขายขุดกระดาษเขียนจดหมายน่ารักๆได้สัก 20 ชิ้นก็นับว่าพอใจแล้ว

สมุดจดไซซ์ A5 Kotorimachi ลาย Boutique จากศิลปิน Mind Wave Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

‘100 เหตุผลที่จะไม่ทำ’ กับ ‘1 เหตุผลที่จะทำ’

ในปี 2018 เมื่อลูกสาวเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว เธออยากมีหน้าร้านเล็กๆแถวโรงเรียนลูกสาว เพื่อจะเปิดขายไม่กี่ชั่วโมงระหว่างที่ลูกไปโรงเรียน

แต่สองพี่น้องต้องปิดความคิดที่อยากมีหน้าร้านจากคุณสามี ซึ่งคงได้ลมจับหากรู้ว่าภรรยาอยากจะเสียค่าเช่าที่แพงมหาโหดในโตเกียว

สองพี่น้องหมดเวลาไปกับการคิดหา ‘100 เหตุผลที่จะไม่ทำ’ และตั้งคำถามใหม่ว่า ‘1 เหตุผลที่จะทำ’ คืออะไร พวกเธอมีคำตอบชัดเจนว่า “อยากมีหน้าร้านเพื่อจะได้พบกับลูกค้าตัวเป็นๆ”  

ทั้งสองเจอร้านให้เช่าที่อยู่ห่างโรงเรียนลูกแค่ 5 นาที แต่ร้านนี้ไม่ได้อยู่ในย่านจอแจ ไม่มีถนนช้อปปิงพาดผ่าน เรียกว่าแทบไม่มีคนเดินผ่านเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเจ้าของที่ให้เช่าร้านก็คิดว่าผู้หญิงสองคนนี้บ้ามากๆที่มาเช่าร้านในถนนอันเงียบเหงานี้ แล้วเปิดขายวันละไม่กี่ชั่วโมงตอน 10 โมงเช้าถึงบ่ายสอง แต่เจ้าของที่หารู้ไม่ว่า อายาโกะและจุงโกะ น้องสาวซึ่งเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ธุรกิจด้วยมีฐานแฟนคลับใหญ่มากในออนไลน์  

ตลับหมึกประกายมุขของ Shachihata จากคอลเล็กชัน Iromoyo ให้สีใสเคลียร์สมชื่อ mizu iro ที่แปลว่าสีน้ำ Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

งนั้น การตัดสินใจของพวกเธอจึงไม่ใช่ความคิดหุนหันพลันแล่น หรือมุ่งตามแพสชันโดยไม่มองความเป็นจริง แต่เพราะตระหนักว่ากิจการของตนมีฐานลูกค้าที่มากพอ และการมีหน้าร้านไม่ใช่ liability หรือเป็นภาระ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางการขาย และได้ทำการตลาดให้ร้านในรูปแบบที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคเครื่องเขียนในญี่ปุ่นที่ชอบไปเลือกซื้อขอลองเครื่องเขียนในร้านจริงๆ

นั่นทำให้คนรักเครื่องเขียนสายญี่ปุ่น ไม่มีใครไม่รู้จัก Cute Things from Japan ร้านที่คัดสรรเครื่องเขียนจากศิลปินญี่ปุ่น ทำให้ของที่ขายร้านส่วนใหญ่เป็นลิมิเต็ดอิดิชันหรือคอลเล็กชันพิเศษ แต่ละชิ้นมีดีไซน์และลวดลายมีเอกลักษณ์เฉพาะของศิลปิน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น ‘ของน่ารักๆจากญี่ปุ่น’ สมชื่อร้าน

เทปกระดาษวาชิลายสวย คอลเล็กชันพิเศษที่ทางร้านร่วมงานกับ Aiya Bungu ร้านเครื่องเขียนจากไต้หวัน Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

ธุรกิจค้าปลีก+แหล่งท่องเที่ยว

ทว่าเมื่อมีหน้าร้านได้ไม่นานก็เกิดโรคระบาดโควิด-19 จนต้องปิดร้าน และโฟกัสที่การขายออนไลน์เป็นหลัก ก่อนจะกลับมาเปิดร้านได้ไม่นานนี้เอง

แต่ด้วยชื่อเสียงและฐานลูกค้าแน่น กิจการจึงฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว ทุกวันนี้เมื่อนักท่องเที่ยวไปโตเกียว มีจำนวนไม่น้อยที่จัดทัวร์ร้านเครื่องเขียนทั่วโตเกียว และ Cute Things from Japan ก็มักเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนรักเครื่องเขียนต้องไปในโตเกียว แม้ว่าร้านจะเล็กมาก แต่ก็ยินดีเปิดรับคนรักเครื่องเขียนจากต่างชาติที่มากันที 15 คนก็แทบไม่มีที่จะเดินแล้วก็ตาม เพราะนั่นคือเหตุผลที่สองพี่น้องเปิดร้านนี้ขึ้นมา เพื่อจะเป็น ‘จุดนับพบของคนรักเครื่องเขียนจากทั่วโลก’  

มุมเครื่องเขียนภายในร้าน Cute Things from Japan ในแขวงโอตะ กรุงโตเกียว สามารถเดินไปถึงร้านได้จากสถานีรถไฟโตเกียว Photos: Courtesy of Cute Things from Japan

เป็นต้นว่า วันหนึ่งมีผู้หญิงยืนรอที่หน้าร้านก่อนถึงเวลาร้านเปิด เธอผู้นี้นั่งรถไฟชินคันเซนมาจากนีงาตะเพื่อมาร้าน Cute Things from Japan โดยเฉพาะ อายาโกะถึงกับร้องฮ้า และรีบเปิดร้านให้ทันที เพราะเมืองนีงาตะอยู่ห่างจากโตเกียว 318.8 กิโลเมตร คุณลูกค้าต้องนั่งชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความเป็นแฟนตัวยงของร้านนี้

ทางร้านแทบไม่โปรโมตทางโซเชียลมีเดียเลย เพราะดังที่บอกว่าในญี่ปุ่น คนไปซื้อเครื่องเขียนกันที่ร้านอยู่แล้ว เป็นเหมือนกิจกรรมที่ทำเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาเข้าไปในร้าน ลูกค้าแทบไม่รู้เลยว่าชิ้นไหนเป็นสินค้าใหม่ สองพี่น้องจึงคิดทำเจอร์นัลในบล็อกของเว็บไซต์ https://cutethingsfromjapan.com/ เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ขึ้นมา คนที่เข้ามาในร้านไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือในร้านออนไลน์จะรู้สึกเหมือนได้เจอสมบัติชิ้นใหม่

สติ๊กเกอร์คอลเล็กชันพิเศษของทางร้านร่วมกับ eric ศิลปินญี่ปุ่นที่นำจัดแสดงที่งาน Pen Show 2023 ที่ซานฟรานซิสโก Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

เติมเต็มความโหยหาสัมผัสมนุษย์ในยุคเอไอ

ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญวิกฤตต่างๆอย่างไม่คาดฝัน ต้องอยู่กับความไม่แน่นอนในแต่ละวัน ทำให้เทรนด์ย้อนยุค โดยเฉพาะยุค Y2K อันเป็นช่วงเวลาวัยรุ่นวัยเยาว์ของชาวเจนวายที่กลายเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้กลายเป็นที่นิยมขึ้นมา ผู้คนอยากกลับไปหวนระลึกถึงความสุขเล็กๆอันเรียบง่าย กลับไปสู่โลกที่เงียบและเนิบช้ากว่านี้ของยุคอนาล็อก

การใช้เครื่องเขียนเป็นดั่งไทม์แมชชีน หรือช่วงเวลาหนึ่งที่ได้ละสายตาจากหน้าตา หลุดออกจากโลกโซเชียมีเดียก็ช่วยให้คนหลุดไปในภวังค์ระหว่างจดบันทึกบนหน้ากระดาษ เขียนการ์ด ติดสติ๊กเกอร์ เลือกกระดาษเขียนจดหมายสวยๆ จ่าหน้าซอง ติดแสตมป์ ปิดผนึกด้วยเทปกาวลายน่ารัก ทำให้จุดจบของเครื่องเขียนอาจจะยังมาไม่ถึงเร็วนัก

แบรนด์เครื่องเขียนต่างๆก็ปรับตัวด้วยการจับมือกับศิลปินต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์เครื่องเขียนที่สัมผัสและความคิดสร้างสรรค์ของคนในยุคที่เอไอเข้ามาแทนที่มนุษย์ ซึ่งงาน collaboration เหล่านี้เป็นคอลเล็กชั่นพิเศษที่ชวนซื้อน่าสะสมยิ่งขึ้นด้วย

อย่างร้าน Cute Things from Japan ช่วงหลังโควิดก็เริ่มทำคอลเล็กชันพิเศษของทางร้านกับศิลปินต่างๆทั้งศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินชาติอื่นๆ อาทิ Aiya Bungu ร้านเครื่องเขียนสุดนิชจากไต้หวัน หรือพาร้านไปร่วมงานระดับสากล เช่น งาน Pen Show ที่ซานฟรานซิสโก

เทปกระดาษวาชิออกแบบลายโดย Lin Chia Ning ศิลปินไต้หวันในคอลเล็กชันพิเศษที่ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องเขียนญี่ปุ่น Papier Platz Photo: Courtesy of Cute Things from Japan

ตัวเจ้าของร้านเอง แม้จะเห็นเครื่องเขียนจากแคตาล็อกมาหมดแล้วก็ตาม แต่เวลาไปเจอของจริงที่สตูดิโอของศิลปินหรือในสำนักงานขายเครื่องเขียนต่างๆก็ยังตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ร้องวี้ดว้าย ‘อันนั้นก็น่ารัก อันนี้ก็สวย’ อยู่เสมอ

นี่เองที่อาจเป็นเหตุผลที่เครื่องเขียนได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น และทำให้มีผู้คนที่หลงรักเครื่องเขียนไม่เสื่อมคลายอยู่ทั่วโลก เพราะผู้คนเสพติดความปิติที่ได้จากเห็นเครื่องเขียนน่ารักๆ ที่กลายมาเป็นชื่อที่ตรงตัวของร้านว่า Cute Things from Japan

 

Words: Suphakdipa Poolsap

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top