JBL เครื่องเสียง 78 ปีที่ยังฮิปและคูล แถมโตจากพันล้านเป็นแบรนด์หมื่นล้าน

JBL อยู่คู่วงการเครื่องเสียงมาถึง 78 ปี แต่นับวัน JBL ยิ่งฮิป คูล และรักษาตลาด Top 3 ของวงการได้ The Optimized ชวนอ่านเรื่องราวของแบรนด์เครื่องเสียงวัยคุณปู่ที่ครองใจคนรักเสียงเพลงวัยเจนซี

JBL มาจากชื่อของ James Bullough Lansing วิศวกรเสียงและนักออกแบบลำโพงที่ก่อตั้งบริษัทขึ้นในลอสแองเจลิสในปี 1946 ผลงานชิ้นแรกคือ D130 ลำโพง 15 นิ้วที่ออกแบบให้ใช้ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งพัฒนาไปเป็น Model 4425 ลำโพงฮอร์นแบบ Bi-Radial Horn ให้เสียงแหลมและเสียงกลางที่มีมิติเสียงกว้างใหญ่ เสียงมีรายละเอียด ฟังผ่อนคลาย

ลำโพง JBL จึงกลายเป็นแบรนด์คู่ขวัญโรงภาพยนตร์ สตูดิโออัดเสียง และสถานที่คอนเสิร์ตทั่วโลก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นลำโพงเสียงดีคุณภาพสูง ทำให้ศิลปินดังแห่งยุคเลือกใช้ JBL ไม่ว่าจะเป็น Elvis Presley หรือ Frank Sinatra

ในปี 1969 JBL ถูกซื้อกิจการไปโดย Harman International Industries บริษัทที่กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์การฟังที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลาต่อมา เมื่ออยู่ภายใต้บริษัทใหม่ JBL ยังคงได้อิสระคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เปิดตัวเทคโนโลยีลำโพงและขยายตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง

5 ปีก่อนถึงยุค 2000 JBL มีรายได้หลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐต้นๆ

ปี 1996 มีรายได้ $0.83 B

ปี 1997 มีรายได้ $1.09 B

ปี 1998 มีรายได้ $1.45 B

ปี 1999 มีรายได้ $2.36 B

ปี 2000 มีรายได้ $3.99 B

JBL Clip 5
Photo: JBL

จนเมื่อปี 2016 Harman International ถูกซื้อกิจการไปโดย Samsung Electronics ในช่วงที่ JBL เติบโตเป็นบริษัทระดับ 18.25 พันล้านเหรียญ ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่มีลำโพง เครื่องเสียง และอุปกรณ์การฟังสำหรับคนทั่วไปและมืออาชีพด้านเสียงให้เลือกหลากหลาย เรียกว่านึกถึงเครื่องเสียง นึกถึง JBL ที่ทำตั้งแต่โฮมเธียเตอร์ ระบบเสียงในรถ เครื่องเสียงในคอนเสิร์ต ไปจนถึงลำโพงในห้องอัด

จุดแข็งที่ทำให้ JBL ยังเติบโตได้ในยุคเจนซีคือการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมและความชอบของผู้บริโภค ทำให้ JBL คือชื่อที่อยู่คู่กับอุปกรณ์ไร้สายที่พกพาไปไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังและลำโพงบลูทูธที่ใช้งานง่ายดีไซน์สดใส

นอกจาก JBL ยังเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ใช้แกดเจตคล่องมือด้วยการเป็นผู้สนับสนุนเทศกาลและอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรีโคเชลล่าไปจนถึงการแข่งขันเอ็นบีเอออล-สตาร์ รวมทั้งคอลแลบกับคนดังขวัญใจเจนซี ไม่ว่าจะเป็น Doja Cat แรปเปอร์ชาวอเมริกัน หรือ Jay Park แรปเปอร์จากเกาหลีใต้ที่เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ JBL

ด้วยกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่อยู่เรื่อยๆ นี้ทำให้ JBL ก้าวไปเป็นแบรนด์ระดับ 3 หมื่นล้านเหรียญ หรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทได้ 4 ปีติดต่อกัน
ปี 2021 มีรายได้ $30.01 B

ปี 2022 มีรายได้ $34.54 B

ปี 2023 มีรายได้ $33.45 B

คาดว่าปี 2024 จะทำรายได้ $30.37 B

JBL Xtreme 4

Photo: JBL

เหตุผลที่ลำโพง JBL คือ Hero Product
1.คุณภาพเสียง

แบรนด์ที่ก่อตั้งมาจากลำโพง ทำลำโพงมา 78 ปี ถ้าไม่ทำลำโพงได้ดีที่สุดแล้วแบรนด์จะมีที่ยืนตรงไหนได้อีก เสียงจาก JBL ใสเคลียร์แม้เพิ่มวอลุ่มดังสุด ลื่นหูได้กับเพลงทุกสไตล์ ตั้งแต่ป๊อป ร็อก บัลลาด แจ๊ซ ฯลฯ

2.พลังเบส

คนที่รักเสียงเบสหนักแน่น ลำโพง JBL คือคำตอบที่ใช่ คนที่อยากหาเครื่องเสียงติดรถจึงปันใจให้ JBL เสมอ ด้วยการออกแบบซับวูฟเฟอร์ที่แตกต่าง จึงสร้างลำโพงสร้างความถี่ต่ำ ให้เสียงเบสแน่น เสียงเต็มอิ่มกว่าลำโพงมาตรฐานทั่วไป และทำให้เสียงที่ออกมาสมจริงมากขึ้น

3.แบตเตอรีถึกทน

ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องเชื่อมต่อแกดเจ็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ถ้าลำโพงบลูทูธจะมาแบตหมดใส่เอาง่ายๆ รับรองว่ายี่ห้อนี้เจนซีไม่ซื้อ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของ JBL ที่อายุการใช้งานแบตเตอรียาวนาน 20 ชั่วโมง และมีระบบเตือนให้ชาร์จแบตด้วย

4.เชื่อมต่อง่ายดาย

ลำโพงบลูทูธที่ให้เสียงราบรื่น ไม่กระตุก ไม่ขาดๆ หายๆ ด้วยระบะเชื่อมต่อไร้สายชั้นเลิศจาก JBL ที่เชื่อมต่อกับแกดแจ็ตได้จากระยะไกล บางรุ่นยังมีระบบเชื่อมต่อกับไว-ไฟอีกต่างหาก

5.ลำโพงไม่กลัวน้ำ

ลำโพง JBL เกือบทุกรุ่นคุยโวได้เลยว่าได้เรตติ้งกันน้ำ IPX7 ซึ่งสามารถป้องกันการแทรกซึมของน้ำจากการแช่ตัวอุปกรณ์ในน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลาสูงสุด 30 นาที

JBL Partylight Stick

Photo: JBL

ล่าสุด JBL เปิดตัวโปรดักต์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่และดึงพลังเอนเกจเมนต์จากอินฟลูเอนเซอร์เจนซี เทศน์ เฮนรี ไมรอน มาเทสต์พลังของ JBL PartyLight Stick หลอดไฟปาร์ตี้ที่เชื่อมต่อกับลำโพง JBL PartyBox ได้ทุกรุ่น สร้างบรรยากาศงานปาร์ตี้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ด้วยแสง LED 360 องศาที่สว่างสดใสพร้อมอัลกอริทึม (Algorithm) การตรวจจับเสียงเพลงที่สามารถทำให้หลอดไฟกระพริบตามจังหวะของเพลง ปรับระดับการเคลื่อนไหว ความเร็ว และความเข้มของแสงได้ผ่านแอปพลิเคชัน JBL PartyBox มีฟังก์ชั่นกันน้ำระดับ IPX4 ที่ใช้เวลาติดตั้งได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที พร้อมแบตเตอรีแบบชาร์จไฟไร้สายที่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง

JBL Partylight Beam

Photo: JBL

JBL PartyLight Beam ไฟบีมที่เชื่อมต่อลำโพง JBL PartyBox ได้ พร้อมลำแสงไฟขนาดใหญ่ครอบคลุมห้อง ผนัง และเพดานได้ ปรับแสงสีให้เข้ากับรูปแบบของงานปาร์ตี้และจังหวะเพลง ควบคุมการเคลื่อนไหว ความเร็ว และความเข้มของแสงผ่านแอปพลิเคชัน JBL PartyBox

JBL Live Beam 3

Photo: JBL

JBL Live 3 Series หูฟังไร้สาย 3 รุ่น ได้แก่ JBL Live Bud 3 หูฟังแบบ In-ear ที่สวมใส่พอดีในหู เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตัดเสียงรบกวนแบบพอดี, JBL Live Beam 3 หูฟังแบบ In-ear ที่มีก้านและต้องการเสียงเบสที่หนักแน่น และ JBL Live Flex 3 หูฟังแบบ Open-ear (Earbuds) สวมใส่สบาย ไม่ต้องสอดเข้าไปในหู ทุกรุ่นมีไมโครโฟนถึง 6 ตัว ที่รับประกันคุณภาพเสียงแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงดัง กันน้ำ กันฝุ่น และมีอายุการใช้งานแบตเตอรียาวนานตั้งแต่ 40 – 50 ชั่วโมง

เทศน์ ไมรอน ในงานเปิดตัวลำโพงและไฟปาร์ตี้ JBL PartyBox

Photo: JBL

เทศน์ ไมรอน พูดถึงไลฟ์สไตล์การฟังเพลงของตนเองว่า “ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบฟังเพลงเป็นประจำ เพราะทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวัน อย่างช่วงนี้ชอบฟังเพลง EDM ที่มีเบสหนักๆ ฟังสนุก ส่วนศิลปินที่ชอบคือ Playboi Carti เพราะเพลงของเขามีบีตหนักเข้ากับการร้องแรปเป็นอย่างมาก จริงๆ แล้วเราก็ชอบฟังเพลงได้ทุกแนว โดยเฉพาะจากวง The Strokes, Arctic Monkeys และ The 1975

เทศน์กับ JBL Clip 5
Photo: JBL

“ด้วยความที่เป็นคนชอบฟังเพลงการเลือกเครื่องเสียงจึงเป็นสิ่งสำคัญกับเรามาก โดยจะเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและคุณภาพเสียงที่คมชัด เสียงเบสหนักแน่น และที่ขาดไม่ได้คือดีไซน์ที่สวย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สามารถวางตกแต่งห้องหรือพกพาเป็นแอ็กเซสเซอรีส์ได้”

 

Words: Sritala Supapong

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top