หากคิดถึงผลิตภัณฑ์จาก “คราม” ทุกคนอาจคิดถึง “ผ้าลายคราม” เป็นหลัก แต่วันนี้ The Optimized พาไปรู้จักแบรนด์ KHRAMER ที่กล้าฉีกครามออกจากโลกแฟชั่น และก้าวไปในตลาดใหม่ในหมวดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ
Photo: khramer.com
ความน่าสนใจของแบรนด์ KHRAMER อยู่ที่
- นำส่วนเหลือทิ้งจากกระบวนย้อมครามมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
- สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยทั้งในเรื่องเล่าของแบรนด์และในตัวของผลิตภัณฑ์
- เจาะตลาดความงามและ Personal Care ทั่วโลกด้วยโลโก้ “Made in Thailand”
Photo: khramer.com
สรรพสิ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่าในตัวเอง
ปักหมุดไปที่ จ. สกลนคร ดินแดนผ้าย้อมครามแห่งอีสาน คุณติงลี่-คมกฤช ภู่ทอง เล็งเห็นคุณค่าาของ “รากคราม” ซึ่งแต่เดิมเกษตรกรจะใช้ส่วนต่างๆ ของต้นครามมาหมักเป็น “น้ำคราม” ทั้งลำต้น กิ่งก้าน ใบ ยกเว้นเพียงรากที่ถูกทิ้งให้เป็นซากทางการเกษตร และลงท้ายด้วยการขุดถอนขึ้นมาเผาทิ้ง
คุณติงลี่จึงใช้องค์ความรู้ทางด้านเภสัชกรรมแพทย์แผนไทยที่ร่ำเรียนมา คิดต่อยอดว่า ทำอย่างไรเกษตรกรไทยจึงใช้ประโยชน์จากต้นครามได้อย่างสูงสุด และ นำเสนอสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
Photo: khramer.com
ผ้าย้อมครามมีวิจัยบ่งชี้ว่ามีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี เกษตรกรจึงนิยมสวมใส่เพื่อป้องกันผิวจากการไหม้แดด และสำหรับรากคราม คุณติงลี่พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นกว่าส่วนอื่นๆ ด้วยสรรพคุณป้องกันรังสียูวี สมานแผล ลดอาการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฯลฯ
ถึงเวลาที่รากครามจะเฉิดฉายในฐานะ “ปราการปกป้องผิว” และกระโดดลงสนามความงามและ Personal Care อย่างเต็มภาคภูมิ
Photo: khramer.com
เรื่องราวของปราการปกป้องผิว
แบรนด์ตั้งใจทำ “สกินแคร์จากรากคราม” โดยหยิบข้อเท็จจริงในงานวิจัยมาบอกเล่าเป็น Brand Storytelling แบบน่ารักๆ ว่า “KHRAMER เปรียบเสมือนผ้าย้อมครามที่ช่วยห่อหุ้มและปกป้องผิวของผู้ใช้ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์…ที่ผู้ใช้ทั้งคนไทยและต่างชาติได้ใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น”
ทำไมต้องเป็น KHRAMER (ครามเมอร์)?
ก็เพราะแบรนด์นำสิ่งสำคัญ 3 สิ่งที่เป็นหัวใจหลักมาสมาสกัน ได้แก่ Khram (คราม) + Farmer (เกษตรกร) + Charmer (คนมีเสน่ห์) ซึ่งคำที่ 3 นี้หมายถึงลูกค้า แบรนด์จึงพุ่งเป้าไปที่เจนวาย ผู้ใส่ใจกับคุณค่าของผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
Photo: khramer.com
สกินแคร์จากรากคราม
ในไลน์สกินแคร์ของ KHRAMER ประกอบไปด้วย
-
Natural Indigo Salts
ดอกเกลือออร์แกนิกที่ผลิตจากเกลือสินเธาว์ ผสานคุณค่าจากครามธรรมชาติ พร้อมผสมน้ำมันหอมระเหย 100% ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ ป้องกันแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิว และบำรุงผิวพรรณไปในตัว
-
Indigo Root Extract Facial Serum
เซรั่มเนื้อเอสเซนส์น้ำนม ที่อุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้นจากรากคราม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิว ปลอบประโลม ช่วยเพิ่มสมดุลและความแข็งแรงของผิว
-
Indigo Root Extract Facial Sunscreen SPF50 PA++++
ครีมกันแดดผิวหน้าที่ผสานคุณค่าสารสกัดจากรากคราม สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างยาวนาน พร้อมช่วยปลอบประโลมและลดการระคายเคือง
Photo: khramer.com
แบรนด์เครื่องสำอางไทยที่น่าจับตามอง
KHRAMER กลายเป็นที่น่าจับตามองในฐานะสกินแคร์จากธรรมชาติที่มีศักยภาพในเวทีส่งออก เป็น 1 ใน 30 แบรนด์ ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ คัดเลือกไปร่วมนิทรรศการ “ต่อยอดแบรนด์ไทยสู่ตลาดสากล หรือ Ready Set Go” ในปี 2565 ในฐานะกลุ่มแบรนด์ไทยที่สร้างความแข็งแกร่งในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ หมวดกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม (Health and Beauty Products) เพื่อเตรียมบ่มเพาะและพัฒนาในเวทีส่งออกต่อไปในอนาคต
Photo: khramer.com
โครงการพุ่งเป้าไปที่แบรนด์ที่มีศักยภาพในการเลือกสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การบอกเล่าเรื่องราวธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้สินค้าและบริการไทยเป็นที่รับรู้และจดจำแก่ผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ
ล่าสุด KHRAMER กลายเป็น 1 ใน 22 สินค้าสำคัญที่ปรากฏในงาน Naturally Good Expo ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย งานแสดงสินค้าด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติออร์แกนิก และสอดรับวิถีชีวิตแบบยั่งยืนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้รักสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของออสเตรเลีย
Photo: khramer.com
โอกาสของสกินแคร์จากธรรมชาติในตลาดต่างประเทศ
เส้นทางของ KHRAMER ส่องสว่างแค่ไหนในตลาดความงามและ Personal Care ทั่วโลก
คุณเกตุมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย เผยว่า แม้วงการเครื่องสำอางมีการแข่งขันรุนแรง ง มีต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้น แต่คาดการณ์ว่า ปี 2024 วงการธุรกิจเครื่องสำอางไทยน่าจะมีมูลค่าถึง 3.40 แสนล้านบาท ขยายตัวสูงขึ้น 9.5%
เจ้าของธุรกิจจึงควรรักษาคุณภาพของสินค้า ตลอดจนกำกับในโลโก้ผลิตภัณฑ์ว่า “Made in Thailand” เพราะเครื่องสำอางไทยยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนานาชาติ
Photo: khramer.com
กลุ่มเครื่องสำอางที่มาแรง ได้แก่
- กลุ่ม Anti-Aging
- กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและแต่งหน้าจากธรรมชาติ และไม่มีส่วนผสมจำนวนมาก
- ผลิตภัณฑ์เน้นความงามจากภายในจากภายนอก
- กลุ่มเครื่องสำอางที่เน้นบำรุงให้ผิวฉ่ำน้ำ ดูมีสุขภาพ
ในมุมมองตลาดโลก คุณแพทริก จีโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา เผยว่า ตลาดความงามและ Personal Care ในประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ เติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคและของโลก
- ในปี 2566 ตลาดความงามและ Personal Care ทั่วโลกโต 8% ตลาดของไทยโตกว่า 12%
- ในปี 2567 ตลาดความงามและ Personal Care ทั่วโลกโต 4-5% ตลาดของไทยโตกว่า 8%
Photo: khramer.com
เนื่องจาก พฤติกรรมของผู้บริโภคในไทยไกล้เคียงกับตลาดใหญ่ของโลก อย่างยุโรปหรืออเมริกา ที่คนสนใจการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการใช้สกินแคร์ จึงคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 จะมีฐานผู้บริโภคมากกว่า 50 ล้านคน คาดว่าตลาดความงามและ Personal Care จะเติบโตได้เช่นกัน
Photo: khramer.com
การฉีกกฎ คราม = สินค้าแฟชั่น มาลงสนามตลาดความงามและ Personal Care จึงเป็นสิ่งที่ KHRAMER กาข้อสอบถูกแบบไม่มีข้อกังขา และยิ่งเป็นสกินแคร์ที่รังสรรค์จากธรรมชาติโดยส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยอย่างชัดเจน จึงไม่แปลกใจว่าเส้นทางของ “รากคราม” KHRAMER จะขุดจากดินในสกลนคร แล้วปั้นเป็นดาวในตลาดโลกต่อไปได้อย่างสวยงาม
Words: Varichviralya Srisai
ข้อมูลจาก
- https://www.facebook.com/khramer.th
- https://www.khramer.com/
- https://mgronline.com/business/detail/9650000079076
- https://www.youtube.com/watch?v=5I41qVA_6Oc
- https://drive.ditp.go.th/th-th/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/activityid/14256
- https://www.facebook.com/ThaiTradeSydney/