หมูเด้งเอย น้องหอมแดง-ฮิปโปศรีเกษเอย ล่าสุด ชาวไทยมีสัตว์ไอดอลตัวใหม่ให้ไถฟีดกันอีกแล้ว ‘เอวา’ เสือโคร่งสีทองแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งแม้ตัวน้องจะบิ๊ก อุ้งเท้าจะใหญ่ชนิดตะปบคนตายได้ แต่ใบหน้าของเอวาได้สร้างความตระหนกแก่นุดว่า “จะดุกี่โมงงงง” เพราะน้องคือแมวที่ตัวใหญ่มากๆ เท่านั้นเอง
ทำไมมนุษย์ที่หลากหลายทั้งเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ จึงเชื่อตรงกันว่า หน้าตาแบบหมูเด้ง หอมแดง หรือเอวานี่แหละ ‘น่ารัก’
Makenzie O’Neil และ Michelle Shiota อาจารย์ด้านจิตวิทยาลองเอาคลิปวิดีโอเด็กน้อยและลูกสัตว์ต่างๆ ให้คนดู ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่จะทำหน้า 2 แบบที่ต่างไปจากการแสดงอารมณ์เชิงบวกอื่นๆ คุณเองเคยทำหน้าแบบนี้หรือเปล่า?
นักจิตวิทยาพบว่า เมื่อคนทำหน้าแบบนี้ คือหรี่ตา จือปาก ทำเสียง ‘ง่อววว’ ก็หมายความว่า เห็นอะไรน่ารักๆ เข้าแล้ว และในการทดลองยังพบด้วยว่า ไม่ว่าคนจะมาจากวัฒนธรรมหรือประเทศใด จะเป็นชาวอเมริกัน ตะวันออกกลาง เอเชีย หรืออเมริกาใต้ ก็ล้วนทำหน้าตาแบบนี้เหมือนกันเมื่อเห็นเด็กน้อย ลูกสัตว์ หรือตุ๊กตา
แล้วรูปลักษณ์แบบไหนที่เรียกว่า ‘น่ารัก’
ก่อนจะถามคำถามนี้ เราอาจต้องถามคำถามนี้ก่อนว่า อะไรที่ทำให้สิ่งๆ หนึ่ง ‘น่ารัก’
“สิ่งที่ดูนุ่มนิ่ม กลมๆ เล็กๆ ปากนิดจมูกหน่อย หน้าผากกว้าง แก้มยุ้ม ตาโต แขนขาสั้น ท่าทางโก๊ะๆ ซุกซน เอื้อมไปหยิบจับอะไรไม่ถึง”
นี่คือลักษณะทั้งหมดที่ทำให้ให้เรารับรู้ว่าอะไรหรือใครที่ ‘น่ารัก’ ดังนั้น เมื่อเราเห็นเด็ก ทารก ลูกหมา ลูกแมว ลูกฮิปโป เสือเด็ก ลาบูบู้ เบบี้โยดา ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีองค์ประกอบของ kinderschema หรือ baby schema หรือความน่ารักแบบเด็กๆ
Photo: FB เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari
ความน่ารักสำคัญอย่างไร
เมื่อเราเห็นว่าอะไรบางอย่างน่ารัก สิ่งนั้นจะไปเปิดโหมดพ่อแม่ในตัวเราให้เราอยากช่วยเหลือ ปกป้องและทะนุถนอมสิ่งนั้น เพื่อให้ลูกๆ ของเรามีชีวิตอยู่รอดได้ จนกระทั่งวิวัฒนาการได้เขียนโปรแกรมตอบสนองต่อสิ่งน่ารักไว้ในพันธุกรรมของมนุษย์ จึงมองอีกมุมหนึ่งก็ได้ว่าความน่ารักก็คือพลังวิเศษของเด็กๆ (หรือลูกสัตว์) ที่ช่วยให้พวกเขาได้รับการปกป้อง อาหาร และทรัพยากรต่างๆ จากผู้ดูแล
การตอบสนองต่อความน่ารักได้ขยายกลายเป็นแนวโน้มทางพฤติกรรมและจิตวิทยาที่เรียกว่า ‘ระบบการดูแลลูกของพ่อแม่’ ซึ่งมีงานวิจัยที่ศึกษาผู้คน 15,000 คนใน 42 ประเทศและพบว่า โหมดพ่อแม่นี้เป็นสิ่งที่คนในแทบทุกวัฒนธรรมล้วนมีเหมือนๆ กัน เช่นเดียวกับพฤติกรรมรังเกียจเชื้อโรค ไต่เต้าสถานะทางสังคมหรือหาคู่
โหมดสัญชาตญาณพ่อแม่ในตัวมนุษย์ยังเป็นสาเหตุให้เรามีพฤติกรรมต่างๆ เช่น หลีกเลี่ยงไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยง ไม่เชื่อใจคนแปลกหน้า และแสวงหาคู่นอนคืนเดียวน้อยลง ก็เพื่อที่เราจะได้ทุ่มเทดูแลลูกๆ ของเราให้มากขึ้นนั่นเอง
เอวากับพี่เลี้ยง
ลูน่า พี่สาวของยัยน้อนเอวา สักขอบจมูกและขอบปากเข้มคมคาย
Photo: FB เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari
ความน่ารักเพิ่มความเมตตา
ผลการวิเคราะห์งานวิจัยเรื่องความน่ารักโดยคณาจารย์จาก Oxford University ยังสรุปด้วยว่า ความน่ารักช่วยเปิดโหมดความเข้าอกเข้าใจและความเมตตาต่อผู้อื่น จึงกลายเป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจหรือทำแคมเปญต่างๆ ได้ เช่น ภาพสัตว์หรือเด็กน่ารักจะกระตุ้นให้เราอยากบริจาคเงินมากขึ้นได้
เพราะเมื่อเราเจออะไรน่ารักๆ เซลล์ประสาทของเราจะทำงานอย่างรวดเร็วในสมองส่วนต่างๆ เช่น orbitofrontal cortex สมองกลีบหน้าผากที่ทำงานเชื่อมต่อกับสมองส่วนอารมณ์และความยินดี ซึ่งจะมีตอบสนองต่อความน่ารักเร็วมาก 140 มิลลิวินาที และทำให้เรามีอคติมากขึ้นด้วย ทารกหรือลูกสัตว์น่ารักๆ จึงได้อภิสิทธิ์เข้าไปสู่พื้นที่ความตระหนักรู้ตัวในสมองของเรามากกว่าสิ่งอื่นๆ เราจึงรีบกดเข้าไปดูคลิปน้องเสือแบ๊วเอวา ในขณะที่คลิปอื่นๆ ไว้ค่อยดูทีหลัง เป็นต้น
ผลวิจัยยังบอกด้วยว่า คนชอบดูหน้าเด็กหรือลูกสัตว์น่ารักๆ มากกว่าจะดูหน้าผู้ใหญ่ เราอยากจะให้ของเล่นกับเด็กหน้าตาน่ารักมากกว่าเด็กที่เรามองว่า ‘น่ารักน้อยกว่า’ หรือ ‘ไม่น่ารัก’ ซึ่งความน่ารักจู่โจมคนได้ทุกเพศทุกวัยต่อให้ไม่ได้เป็นพ่อแม่ก็ตาม
ผลวิจัยเรื่องความน่ารักยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาความสัมพันธ์ของพ่อแม่และเด็กได้มากขึ้นด้วย เช่น ปัญหาภาวะซึมเศร้าของคุณแม่หลังคลอด หรือทารกที่เกิดมาพร้อมอาการปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งภาวะทั้งสองนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านพัฒนาการของทารก โดยภาวะซึมเศร้าของคุณแม่หลังคลอดส่งผลต่อพ่อแม่ในประเทศรายได้สูง 10-15% และเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในประเทศรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ
ส่วนอาการปากแหว่งเพดานโหว่พบในทารกแรกคลอด 1 ใน 700 คนในสหราชอาณาจักร ส่วนในไทยมีอัตราการเกิดความผิดปกติดังกล่าวอยู่ที่ 1.01-2.68 ต่อทารกแรกคลอด 1,000 ราย ซึ่งมีแพทย์ที่พยายามพัฒนาระบบที่ช่วยให้พ่อแม่ตีความการใช้เสียงและสีหน้าของเด็ก ทำให้เด็กที่เคยถูกมองว่าไม่ค่อยน่ารักในสายตาพ่อแม่ กลายเป็นดูน่ารักมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น
เอวาจะเป็นเสือกี่โมง ลู้กกก
Photo: FB เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari
ถ้าเห็นว่าน่ารักก็ช่วยกันปกป้อง
ความน่ารักไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา แต่อาจมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กคนหนึ่งหรือสัตว์สักตัวได้เลยทีเดียว
อย่างในกรณีของหมูเด้ง ซึ่งคนทั่วโลกเห็นตรงกันว่าน่ารัก ก็ทำให้เกิดการแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับฮิปโปแคระมากขึ้น จากที่แต่ก่อนคนเข้าใจว่าเป็นชนิดเดียวกับฮิปโปโปเตมัส แต่ความน่ารักของหมูเด้งทำให้เรารู้ว่าฮิปโปแคระเป็นสัตว์หายากที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และทำให้ตระหนักถึงความสำคัญและบทบาทหน้าที่ของสวนสัตว์ในการอนุรักษ์สัตว์ต่างๆ ด้วย
ส่วนในกรณีของซุป’ตาร์ตัวล่าสุด น้องเอวา เสือแบ๊วแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งทางเพจให้ข้อมูลว่า เอวาเป็นเสือโคร่งสีทอง หรือเสือโคร่งสตรอเบอรี่ น้องจะมีสีที่หาได้ยาก ซึ่งเกิดขึ้นจากยีนด้อยที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสีของขนบนร่างกาย เช่นเดียวกับเสือสีขาว แต่โอกาสที่จะเกิดเสือโคร่งสีทองเช่นนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งมีไม่ถึง 50-100 ตัวในโลก
แต่โชคร้ายที่ญาติๆ ของน้องเอวาเหลืออยู่น้อยมากจนน่าใจหาย ประชากรเสือโคร่งทั่วโลกหายไปกว่า 97% เหลือแค่ประมาณ 4,000 กว่าตัวเท่านั้นใน 13 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย (สุมาตรา) ลาว มาเลเซีย เมียนมา เนปาล รัสเซีย เวียดนาม และไทย (ส่วนเกาหลีเหนือพบไม่กี่ตัว)
ประเทศไทยมีเสือโคร่งจำนวน 160 ตัว และมี ID ทุกตัว แบ่งเป็นพื้นที่อาศัย 100 ตัวในโซนพื้นที่ป่าตะวันตก โดยเฉพาะ ห้วยขาแข้งประมาณ 70 ตัว และอีก 30 ตัวในโซนทุ่งใหญ่นเรศวรทั้งตะวันออกและตะวันตก สลักพระ และแม่วงก์ ขณะที่อีก 60 ตัวอยู่ในพื้นที่ดงพญาเย็น แก่งกระจาน และในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรฯ
สุดเขต เสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊วแห่ง Tiger Park พัทยา
Photo: FB Tiger PARK Pattaya
ภัยคุกคามเสือโคร่งมาจากกลุ่มพรานป่าที่ได้รับเงินสนับสนุนจากนายทุน โดยมีทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา มีกลุ่มพรานล่าเสือโคร่งล่าไปจนเกือบหมด มูลค่าเสือโคร่ง 1 ตัวมีราคาหลายแสนบาทและทุกส่วนของเสือโคร่งเป็นที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนัง เนื้อ เท้า หรือกระดูก
แม้ภาพลักษณ์ของเสือจะดูดุร้ายและเป็นผู้ล่าที่อยู่ยอดสุดในระบบห่วงโซ่อาหาร ทว่า การมีอยู่ของเสือคือดัชนีบ่งชี้ความสมบูรณ์ของป่า เพราะเสือจะเป็นตัวช่วยจัดสมดุลธรรมชาติ กำจัดผู้อ่อนแอหรือเจ็บป่วยที่ดูแลไม่ได้ พื้นที่ใดมีเสืออยู่แสดงว่าระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ดีมากเกือบเต็มร้อย ในประเทศไทยมีอยู่ไม่กี่ที่ที่สามารถเป็นที่อยู่ของเสือได้ เช่น กลุ่มป่าตะวันตก ดงพญาเย็น เขาใหญ่ แก่งกระจาน ภูเขียว-น้ำหนาว เป็นต้น
ดังนั้น หากเห็นว่าน่ารัก ก็ช่วยกันอนุรักษ์ญาติพี่น้องเสือโคร่งของยัยน้องเอวากันด้วยนะ นุด
Words: Sritala Supapong
ข้อมูลจาก
- https://www.ox.ac.uk/research/how-cute-things-hijack-our-brains-and-drive-behaviour
- https://www.psychologytoday.com/intl/blog/unserious-psychology/202212/whats-cute-and-why-it-matters
- https://www.psychologs.com/the-psychology-behind-cuteness/#:~:text=Psychologically%20speaking%2C%20the%20reason%20individuals,large%20eyes%20and%20little%20features.
- https://www.thecoverage.info/news/content/5973
- https://www.thairath.co.th/scoop/infographic/2707438