หลังเลิกงานไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน
ประชันลูกคอกับหัวหน้าหรือลูกค้า
ดูนักการเมืองร้องเพลงในรายการเล่าข่าวยามเช้า ฯลฯ
ดูเหมือนการร้องเพลงจะติดตามมนุษย์ไปทุกที่ ทำหน้าที่เป็นเครื่องปลดปล่อยความเครียด เป็นตัวผูกโยงสายสัมพันธ์เข้าด้วยกัน หรือเป็นตัวสร้างความบันเทิง
ทว่า การร้องเพลงเกิดมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก ระดับเป็นฮีโร่ช่วยกอบกู้มนุษยชาติได้เลยทีเดียว
ทีมนักวิจัยจากคณะวิจิตรศิลป์และดนตรีจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ร่วมกับหน่วยงานหลายๆ แห่งทำการศึกษาคุณค่าของการร้องเพลงจากมุมมองด้านวัฒนธรรม ความรู้สึก สังคม และสุขภาพมาเป็นระยะเวลานาน 10 ปี
และผลการศึกษาสรุปประโยชน์ 5 ข้อของการร้องเพลง ดังนี้
1.การร้องเพลงอยู่กับคนเรามาตั้งแต่เกิด
หลายๆ คนเจอกับบทเพลงมาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยง แม่นม แม่ ย่ายาย หรือใครก็ตามที่ร้องเพลงกล่อมเด็กให้เบบี๋ฟัง คลอไปกับการเคาะจังหวะและส่งเสียงฮัมในคอเบาๆ ล้วนทำให้ทั้งคนร้องและคนฟังผ่อนคลายได้ทั้งคู่ รวมถึงสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคนร้องและคนฟังที่ยืนยาวไปจนตลอดชีวิต
เพราะการร้องเพลงช่วยเพิ่มออกซีโทซิน ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สร้างสายสัมพันธ์ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด พอได้ร้องเพลง เราจึงรู้สึกเครียดลดลง ผ่อนคลายมากขึ้น รู้สึกถึงอัตลักษณ์ในตนเองมากขึ้น และช่วยเสริมความทรงจำระยะสั้นและระยะยาวให้ดีขึ้น
2.การร้องเพลงช่วยสร้างวัฒนธรรม
การร้องเพลงยังช่วยพัฒนาความคิดและภาษา ซึ่งสุดท้ายจะช่วยสร้างอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิตและโอกาสต่างๆ ให้เราได้
ผลการศึกษาพบว่า เด็กวัย 5 ขวบที่รู้จักเพลงประมาณหนึ่ง เพลงจะช่วยให้เด็กให้มีความรู้ทางวัฒนธรรมได้ เช่น มารยาททางสังคม ธรรมเนียมปฏิบัติที่สำคัญ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชีวิตและวิถีการใช้ชีวิต รวมไปถึงทักษะต่างๆ เช่น การนับจำนวนวิธีประดิษฐ์และทำสิ่งต่างๆ ฯลฯ
หรือกล่าวได้ว่า คนเราเรียนรู้สิ่งต่างๆ และจดจำได้ง่ายขึ้นผ่านบทเพลง หรือเพลงเป็น Edutainment บันเทิงที่ได้สาระแบบไม่รู้ตัว เนื่องจากแบบแผนของเพลงคือ ใช้ทำนองและจังหวะซ้ำๆ ที่สอดรับไปกับเนื้อเพลง ซึ่งเป็นเทคนิคช่วยจำ (Mnemonic วิธีการช่วยให้เราจดจำข้อมูลมากมายได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ) ที่ทรงประสิทธิภาพมาก เพลงจึงช่วยส่งต่อความรู้และบันทึกประวัติศาสตร์ได้
การร้องเพลงช่วยให้เราเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม เรื่องราวต่างๆ ในบทเพลงช่วยให้เราประกอบสร้างตัวตนและสร้างความหมายให้กับสังคม ผลการศึกษาพบว่า ชาวอะบอริจินใช้การร้องเพลงเป็นเครื่องมือบ่มเพาะความรู้ภายในชุมชน และยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางการเมืองและความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของตนเองได้อีกด้วย
Photo: Freepik
3.การร้องเพลงสร้างสุข แม้ในช่วงทุกข์ที่สุด
ช่วงที่เกิดโควิด 19 ระลอดแรกตอนต้นปี 2020 การร้องเพลงกลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตที่ประสบความสำเร็จมากในการช่วยมนุษย์ฆ่าเวลาและเชื่อมต่อกับมนุษย์คนอื่นๆ ที่ไม่อาจเจอกันได้ในช่วงนั้น มีกิจกรรมร้องเพลงประสานเสียงทางออนไลน์หรือเวอร์ชวลคอนเสิร์ตที่ดึงคนนับล้านเข้าด้วยกัน
ผลการศึกษาพบว่า ไม่ต้องร้องเพลงเอง แต่เราก็ได้ประโยชน์แบบเดียวกันได้จากการฟังเพลง ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกแรงกล้าจากการอินไปกับบทเพลงนั่นเอง
4.การร้องเพลงช่วยพัฒนาสุขภาพร่างกาย
นักวิจัยด้านดนตรีบำบัดพบว่า การร้องเพลงช่วยฟื้นฟูอาการเสื่อมทางกายหลายๆ อย่าง เช่น คนที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน พบว่าการใช้เสียงและอารมณ์ดีขึ้นหลังจากรับการบำบัดด้วยการร้องเพลงที่นักวิจัยคิดค้นขึ้นมา
ส่วนคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมพบว่า การร้องเพลงช่วยเพิ่มสมาธิ ความเพลิดเพลินและความมีชีวิตชีวาขึ้นได้
ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet พบว่า การร้องเพลงประสานเสียงช่วยลดอาการซึมเศร้าและอาการของโรคสมองเสื่อม โดยเฉพาะในรายที่มีอาการสมองเสื่อมขั้นรุนแรง ซึ่งหากมองในมุมมองด้านพฤติกรรม การรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันอย่างการร้องเพลงช่วยเพิ่มความสนุกสนาน ลดการสนใจแต่เรื่องตัวเอง และเพิ่มผลลัพธ์ทางบวกให้กับคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมได้
5.การร้องเพลงดึงผู้คนเข้าหากัน
การร้องเพลงยังเพิ่มความรู้สึกเข้าอกเข้าใจผู้อื่น และสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทางสังคมได้ การร้องเพลงจึงเป็นเครื่องมือรวมผู้คนที่ได้ผลดีเยี่ยมโดยเฉพาะในสังคมพหุวัฒนธรรมและชุมชนที่ต้องการการฟื้นฟู
มีโครงการหนึ่งที่ทีมนักวิจัยร่วมมือกับผู้ใหญ่วัยทำงานในองค์กรพหุวัฒนธรรม เพื่อจะศึกษาว่าการร้องเพลงประสานเสียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางวัฒนธรรมและส่งผลด้านบวกต่ออารมณ์อย่างไร ทีมวิจัยให้ผู้เข้าร่วมการทดลองร้องเพลงกล่อมเด็กเพื่อปลุกสายสัมพันธ์ทางดนตรีที่มีมาแต่แรกเกิดในตัวเราทุกคน
ผลการศึกษาพบว่าการร้องเพลงช่วยทำให้สายสัมพันธ์ทางสังคมกระชับแน่นแฟ้นขึ้น เพราะการร้องเพลงทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสร้างความเข้าใจ ขณะเดียวกันก็ทำให้คนได้แสดงออกถึงตัวตนที่มีความหลากหลาย ทำให้คนได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้คนในวัฒนธรรม สังคมและภาษาต่างๆ มากขึ้น
Photo: Freepik
การร้องเพลงยังช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจ ความโศกเศร้า และการสูญเสีย ไม่ว่าจะเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ ฯลฯ การร้องเพลงทำให้เราได้แบ่งปันอารมณ์ความรู้สึกและเยียวยากันและกันไปในตัว
ผลการศึกษาเหล่านี้บอกเราว่า การร้องเพลงช่วยประคับประคองมนุษยชาติเอาไว้ทางกาย ใจ สังคม วัฒนธรรมและการเมือง ไม่ว่าเราจะร้องเพลงตอนอาบน้ำ ฮัมเพลงตอนขับรถ มือถือไมค์ไฟส่องหน้าบนเวที หรือกอดคอกันร้องคาราโอเกะไปด้วยกัน
เลือกมาสักเพลงแล้วร้องมันออกมา ดูซิว่าคุณรู้สึกอย่างไร จะเป็นอย่างที่ผลการศึกษานับทศวรรษสรุปไว้หรือไม่ว่า การร้องเพลงยังไงก็ให้ผลดี (ตราบใดที่ไม่กวนใจใคร)
Words: Sritala Supapong
ข้อมูลจาก
- https://pursuit.unimelb.edu.au/articles/5-ways-singing-helps-humanity
- https://singking.com/blog/why-we-sing-the-hidden-health-benefits-to-karaoke/