คุณเป็นคนทำงานแบบไหน ทำงานเสร็จ หรือ ทำงานสำเร็จ

ทำงาน ‘เสร็จ’ หรือ ทำงาน ‘สำเร็จ’ มาดูความแตกต่างของคนทำงานสองแบบนี้ แล้วค่อยตัดสินใจเลือกว่า  คุณ(จะ)เป็นคนทำงานแบบไหน? ส่วนหัวหน้ามองคุณอย่างไร นั่นอีกเรื่อง

ในการประชุมออนไลน์ผ่านซูม มีผู้ที่ต้องเข้าร่วมวงทั้งหมด 6 คน พอถึงเวลานัด ก็เริ่มมีคนทยอยล็อกอินเข้ามา จนเวลาล่วงเลยไป 10 นาที ปรากฏว่ายังขาดสมาชิกอีกหนึ่งคน ซีอีโอถามเลขาฯ ว่า ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ยังไม่เข้ามาหรือ ซึ่งได้รับคำตอบว่า “ส่งลิงค์ซูมไปให้แล้วค่ะ พร้อมกับที่ส่งให้ทุกคน”

บทสนทนานี้ฟังผ่านๆ คงไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ซีอีโอพูดเรียบๆ แต่เสียงเย็นมากว่า

“คุณแค่ทำงานเสร็จ แต่ไม่ได้ทำงานสำเร็จนะ”

ประโยคนี้ติดตรึงในความทรงจำของทุกคนที่เข้าประชุมในวันนั้นไปนานแสนนาน มันทำให้ทุกคนกลับไปใคร่ครวญวิธีการทำงานของตัวเองว่า ที่แล้วๆ มาและที่จะทำต่อๆ ไปนี่ เรียกว่าเราทำงานเสร็จหรือทำงานสำเร็จกันแน่?

เหตุการณ์ประชุมซูมข้างต้นนี้ เลขาฯ ทำงานของตนเสร็จคือ ซีอีโอบอกให้นัดประชุม มีใครบ้างที่ต้องเข้า เลขาฯ ก็ส่งลิงค์ซูมและส่งข้อความแจ้งไปตามนั้น

แต่ ถ้าเลขาฯ ไล่ถามแต่ละคนว่า ได้รับข้อความนัดประชุมและลิงค์เรียบร้อยแล้วหรือยัง และสามารถเข้าประชุมในวันและเวลาดังกล่าวได้หรือไม่ ไล่เก็บคำตอบรับของแต่ละคนมาให้ครบ และก่อนประชุม 1 วัน หรือสัก 1 ชั่วโมง โทรคอนเฟิร์มอีกที หากมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขทัน เช่น บางคนติดนัดอื่น ขอให้เลื่อนเวลาหรือเลื่อนวันได้ไหม ฯลฯ

นั่นจึงเรียกว่า ทำงานสำเร็จ

สิ่งที่เลขาฯ ทำคือทำงานเสร็จ ซีอีโอบอกให้นัดประชุมก็นัด แต่ไม่รู้ว่าใครมาได้หรือไม่ได้ เหมือนแค่แจ้งให้ทราบเฉยๆ ไม่ได้เอาคำตอบ

Photo: Freepik

เมื่อหัวหน้าแผนกย้ายมาใหม่พร้อมข่าวลือว่าดุ เนี้ยบ เป๊ะ และได้ฉายาว่าเป็นราชินีน้ำแข็ง นางไม่เคยขึ้นเสียง ไม่เคยชักสีหน้า และไม่ยอมรับเด็ดขาดกับคำว่า ‘ไม่ได้’ จากทีม

ครั้งหนึ่ง ทีมต้องจัดงานรวมตัวพ่อตัวแม่ยุค 90 หลังจากเสนอรายชื่อผ่านและหัวหน้าเคาะแล้ว 5 คน (แบบเลือดตาแทบกระเด็น) พวกเราแยกกันตามดาราคิวเทพทั้งหลาย ผ่านไป 2 วัน หัวหน้าเรียกมาถามความคืบหน้า ปรากฏว่าทีมได้คิวดารา 3 คน อีก 1 รอคอนเฟิร์มบ่ายนี้ อีกคนติดต่อไม่ได้

พอได้ยินคำว่า ‘ไม่ได้’ เท่านั้นแหละ หัวหน้าหรี่ตาเล็กน้อย ทีมคนที่ติดต่อรีบอธิบายว่า เพราะพี่คนนั้นออกจากวงการไปนานแล้ว ไล่หาคอนแท็กจากคนเยอะมากก็ไม่มีใครมี เสิร์ชในโซเชียลก็ไม่เจอ ก่อนจะแนะว่า “เราลองหาคนอื่นแทนดีไหม”

 “ไปเอามาให้ได้” หัวหน้ากล่าวเรียบๆ ทีมกลืนน้ำลายเอื๊อกและรีบสลายตัวไปตามคิวต่อทันที เพราะนั่นคือคำอาญาสิทธิ์ว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ต้องพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินยากเย็นแค่ไหน เราต้องทำงานนี้ให้ ‘สำเร็จ’ เพราะถ้าแค่ตามคิวตามที่ได้รับมอบหมาย ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง นั่นแปลว่าเราแค่ทำงาน ‘เสร็จ’

สุดท้าย ทีมงานคนหนึ่งต้องนั่งระลึกชาติอยู่เป็นนาน ก่อนจะจำได้ว่า น้องสาวของดาราคนนี้เคยทำงานที่เดียวกันที่บริษัทที่ลาออกมา 8 ปีก่อน ต้องไล่หาคอนแท็กเพื่อนที่ทำงานเก่านี้ซึ่งขาดการติดต่อกันไปเป็นชาติกว่าจะได้คอนแท็กเพื่อนที่เคยทำงานแผนกเดียวกับน้องสาวของดารา แล้วจึงทักไปแนะนำตัวหลังจากแค่เคยเดินผ่านกันเมื่อ 8 ปีก่อน ก่อนจะได้รับคำตอบว่า “โหย ไม่ได้ติดต่อแอนมานานแล้วดิ” แอนคือน้องสาวดารารายที่ว่า คำพูดนี้เหมือนเป็นการออกตัวกลายๆ ว่าไม่อยากเป็นธุระกับเรื่องนี้

รบเร้าอยู่สักพัก ก่อนจะได้รับคำตอบว่า “เดี๋ยวลองทักไปหาแอนให้ละกัน แต่ไม่รู้ยังใช้ไลน์เดิมหรือเปล่านะ แอนไม่เล่นโซเชียลด้วย”

หลังจากเพียรส่งข้อความไปถามว่า ได้คอนแท็กแอนหรือยัง วันละสามเวลาหลังอาหารทั้งที่สุดแสนจะเกรงใจ ล่วงเข้าวันที่สาม ไลน์ก็เด้งมาสั้นๆ ว่า “เบอร์แอน xxxxxxxxxx”

ไม่น่าเชื่อว่า ตัวเลขไม่กี่ตัวนี้จะทำให้ทั้งออฟฟิศไชโยโห่ร้องอย่างกับทีมชาติไทยได้ไปบอลโลก

Photo: Freepik

เพราะหลังจากนั้น แอนติดต่อพี่สาว อดีตดาราดังระดับนางเอกให้ทันที ซึ่งพี่สาวก็ตกลงรับงานนี้อย่างง่ายดาย (แม้ต่อมานางจะขอเปลี่ยนช่างหน้าช่างผมไป 2 คน และเลือกชุดใหม่ไป 3 รอบ)

ทีมโกยอ้าวไปแจ้งข่าวดีนี้กับหัวหน้า ซึ่งพูดว่า “ใช้ได้” และพยักหน้าน้อยมากๆ จนแทบไม่สังเกตเห็นว่ารับรู้ข่าวดีระดับโลกแตกนี้

ยังไม่นับเหตุการณ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการควานหาตัวนักเรียนมัธยม 1 คนจากทั้งหมด 2,000 คนมาเล่นซีรีส์ตามที่ผู้กำกับเขาอยากได้ตามโจทย์ว่า “มันบอกไม่ได้ว่าต้องเป็นแบบไหน แต่ถ้าเห็นจะรู้เลยว่าต้องเป็นคนนี้” โอ๊ย…

หรือติดต่อสตูดิโออนิเมชันชื่อดังในอเมริกา เพื่อขอใช้คลิปจากหนังอนิเมชันของเขามาใส่ในโฆษณา ซึ่งติดต่อกันยากรากเลือด 3 เดือน แต่ผู้กำกับตัดไปใช้จริงแค่ 2 วินาที T T

หลายๆ ครั้ง เราถามตัวเองว่าพยายามขนาดนี้ไปเพื่ออะไร

หลายปีต่อมาหลังจากลาออกจากบริษัทเก่า เราได้เจอกับหัวหน้าราชินีน้ำแข็งอีกครั้ง และเราก็หาญกล้าถามว่าเธอคิดเห็นอย่างไรกับลูกน้องอย่างเรา

“เธอเป็นคนทำงานที่ดี” หัวหน้าให้คำตอบสั้นมากเช่นเคย

แต่ก็เป็นหัวหน้าที่ว่าเย็นชาเหมือนน้ำแข็งคนนี้แหละที่เขียน Recommendation letter ให้เมื่อเราไปทำงานที่บริษัทใหม่

เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั้งกับตัวเราและเพื่อนร่วมงานมากกว่าที่คิด หากลองย้อนกลับไปดู

ทำงานเสร็จ หรือ ทำงานสำเร็จ

คุณเป็นคนทำงานแบบไหน?

Words: Sritala Supapong

you might like

Scroll to Top