นิสัยที่พ่วงมาจากการทำงาน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่สั่ง ‘คัท’ ตัวเองออกจากงาน

ชเวยอง-แจคืออดีตบอดี้การ์ดของมุนแจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่จะสิ้นสุดวาระในเดือนมีนาคม 2022 นี้ ปัจจุบันเป็นช่างทำผมกล้ามโตและเป็นดาวดังในรายการเรียลิตี้โชว์เกี่ยวกับการฝึกทหาร

แม้เปลี่ยนงานมาหลายอาชีพแล้ว แต่นิสัยบอดี้การ์ดยังคงตามหลอกหลอน เวลาไปสถานที่นอกบ้านเขาจะมองหาป้าย EXIT เพื่อดูว่าทางออกฉุกเฉินอยู่ตรงไหน มองหาที่ตั้งของถังดับเพลิงเผื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เวลานั่งแท็กซี่ก็จะเสิร์ชแผนที่จากดาวเทียมและจดจำเส้นทางไว้ล่วงหน้า เผื่อว่าคนขับไปผิดเส้นทางหรือเลี้ยวพาไปที่ที่ดูไม่ชอบมากลจะได้ทักท้วงได้ทันที

เพื่อนร่วมอาชีพเก่าของคุณชเวรายหนึ่งเป็นบอดี้การ์ดหญิงคนแรกของ Blue House หรือทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แต่อนิจจาที่เธอยังคงทำพฤติกรรม ‘แปลกๆ’ แม้ว่าจะลาออกจากอาชีพอารักขาความปลอดภัยให้กับผู้นำประเทศแล้วก็ตาม

เวลาไปร้านอาหาร เธอจะนั่งกินอย่างไม่เป็นสุข เพราะมัวแต่นับจำนวนคนเข้า-คนออกร้านตลอดเวลา ออกนอกบ้านทีก็คอยสอดส่ายสายตามองหา ‘สถานการณ์ผิดปกติ’

แต่นิสัยที่สร้างความเหนื่อยหน่ายใจแก่เธอและสร้างความตื่นตกใจให้กับคนขับแท็กซี่เสมอก็คือ เมื่อใกล้ถึงที่หมาย รถเริ่มชะลอเตรียมชิดข้างทาง มือของเธอปลดล็อกประตู แล้วโดยไม่มีใครคาดคิด ภาพที่คนขับแท็กซี่มองเห็นจากกระจกหลังและคนใช้รถใช้ถนนได้ประจักษ์จากกระจกหน้าก็คือ ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งโดดลงจากแท็กซี่ก่อนที่รถจะจอดสนิท ซึ่งเธอทำพฤติกรรมนี้ทุกครั้งที่นั่งแท็กซี่ เพราะบอดี้การ์ดถูกฝึกให้โดดลงก่อนรถจอด เพื่อกราดตาตรวจสอบพื้นที่ก่อนที่ผู้นำจะลงจากรถ(ที่จอดสนิทแล้ว) แต่ในสายตาคนขับแท็กซี่คือ แม่ผู้โดยสารคนนี้จะชักดาบไม่จ่ายค่ารถ ถึงกับลงทุนโดดหนีทั้งๆที่รถยังวิ่งอยู่เลยเรอะ

หน้าที่ที่ทำจนเคยชินในอาชีพการงานซึ่งลามออกมาปะปนในชีวิตประจำวัน ตอนที่ดูจากรายการวาไรตี้เกาหลี Problem Child in House ก็ฟังดูขำดี แต่คนที่อยู่ในสถานการณ์นั้นบางทีก็อาจไม่เห็นขำ

Emmanuelle Alt อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้กปารีสเป็นคนที่เพื่อนไม่อยากไปช้อปปิ้งด้วย เพราะแฟชั่นสไตลิสต์มือทองคนนี้จะสอยของสวยๆไปก่อนใคร ซึ่งพฤติกรรมตาเหยี่ยวนี้ทำให้คนที่คลุกคลีกับแฟชั่นชอบสแกนการแต่งตัวของผู้คนแบบอัตโนมัติ มองหัวจรดเท้า เท้าจรดหัว 3 รอบภายใน 3 วินาทีแล้วรู้ทันทีว่าใครใส่แบรนด์อะไร เสื้อจากซีซั่นไหน สร้อยของแท้หรือปลอม

ซงจี-อา ผู้ร่วมรายการเรียลิตี้โชว์หาคู่เดทบนเกาะนรก Single’s Inferno ที่เจิดจ้าอลังการกว่าใครจากลุคสาวสวยรวยแพงจากของแบรนด์เนมบนตัวเธอ หลังจากรายการดังใน Netflix จบลง เธอถูกคว้าตัวไปออกรายการบิ๊กเนมของเกาหลีใต้ตามกระแสความดัง แต่ไม่กี่วันก่อนที่รายการเหล่านี้จะออนแอร์ บรรดาโปรดิวเซอร์ก็ต้องเอาเทปไปตัดต่อใหม่เพื่อหั่นช่วงเวลาออกอากาศของจี-อาให้หน้าเธอไปโผล่ในทีวีน้อยที่สุด บางรายการก็ตัดสินใจถอดเอพิโซดของเธอออกไปเลย เป็นเพราะในโซเชียลมีเดียของเกาหลีใต้กระหึ่มไปด้วยคำทักถามว่า ทำไมเนื้อผ้าของเสื้อ Chanel ที่จี-อาใส่มันหนาๆพิกล ไฉนเครื่องประดับ Van Cleef & Arpels ที่เธอสวมดูจี้มันใหญ่ๆดูแหม่งๆ และเริ่มตั้งข้อสงสัยกับข้าวของทุกชิ้นที่เธอใช้   แล้วความจริงก็เปิดเผยว่าของแบรนด์เนมที่เธอใส่ออกรายการ Single’s Inferno และใส่ถ่ายเซลฟี่ลงอินสตาแกรมนั้น บางส่วนเป็นของปลอม ซึ่งคนเกาหลีใต้ซีเรียสมากกับของละเมิดลิขสิทธิ์ ยิ่งเป็นคนดังใส่ของก็อปโชว์ในโซเชียลและรายการดังบนแพล็ตฟอร์มนานาชาติด้วยแล้ว จึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในที่สุดสุดท้ายซงจี-อาต้องลบโสพต์ในไอจีและยูทูบจนเหี้ยน เหลือแค่คลิปวิดีโอที่เธอโพสต์ใหม่เพื่อกล่าวขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การโดดลงก่อนรถจอดสนิทของคุณบอดี้การ์ดหญิง การมองหาทางออกฉุกเฉินและถังดับเพลิงในทุกที่ๆไปของคุณชเวยอง-แจ ไปจนถึงการสร้างลุคสวยหรูดูแพงของซงจี-อา อาจเรียกได้ว่าเป็นนิสัยที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (Work-Related Habits)

ถ้าเป็นอาชีพอื่นๆ นิสัยก็จะแปรเปลี่ยนกันไป เช่น ช่างภาพก็อาจจะเห็นอะไรเป็นเฟรมไปหมด นักเขียนบทอ่านข่าวก็แต่งเรื่องราวต่อในหัวโดยอัตโนมัติ เซลส์รับสายโทรศัพท์ด้วยคำพูดติดปากว่า ‘มีอะไรให้รับใช้คะ’ หรือพนักงานขายได้ยินเสียงประตูเปิดจะพูดทันทีทั้งที่อยู่บ้านว่า ‘ยินดีต้อนรับครับ’

นิสัยจากอาชีพอาจพ่วงมาด้วยโรคจากการทำงาน (Work Related Diseases) ตามนิยามขององค์การอนามัยโรคหรือ WHO ที่บอกว่าส่งผลกระกบต่อคนทำงานได้ทั้งทางกายภาพไปจนถึงสภาพจิตใจ

ยกตัวอย่างอาชีพยอดฮิตแห่งยุคอย่างอินฟลูเอนเซอร์ (เช่น คุณซงจี-อา) มีผลการศึกษาเป็นชิ้นเป็นอันที่บอกว่า อินฟลูเอนเซอร์มีอาการเบิร์นเอาท์ อาการล้าเรื้อรังและโรควิตกกังวลกันมาก เพราะต้องคอยคิดคอนเทนต์ใหม่ๆไม่ให้คนลืม ต้องนำเสนอภาพชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบและเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอด ซึ่งก็จะเห็น ‘คนอื่น’ ที่มีฟอลโลเวอร์เยอะกว่า สวยกว่า ดีกว่า รวยกว่า งานเยอะกว่า ชีวิตดีกว่า ฯลฯ อยู่ร่ำไป

นิสัยที่ติดตัวมาจากอาชีพการงานที่ทำ ถ้าใช้ในจังหวะที่ถูกก็จะเป็นการเกื้อกูลส่งเสริม แต่กลับกันนิสัยบางอย่างเมื่อใช้ในบางเวลาก็กลับจะสร้างปัญหา คุณชเวยอง-แจบอกว่าอาชีพบอดี้การ์ดเครียดพีคตอนท่านผู้นำไปพบปะประชนที่ตลาดนี่แหละ เพราะชาวบ้านจะเข้ามาจับมือหรือกอด เข้าถึงเนื้อถึงตัวผู้นำได้ง่าย ถ้าเป็นตลาดปลายิ่งอันตรายเพราะเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ขายที่มีมีดคมปลาบอยู่ในมือ แต่ก็ทำให้เป็นคนมีแผนสำรองหลายอย่าง เพราะคิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ในทุกๆทางล่วงหน้าจนเป็นนิสัย ‘Work-Life Balance’ เห็นทีจะไม่ใช่แค่คำสวยหรูดูดี แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ให้เป็นนิสัย ก่อนที่จะทำนิสัยจากอาชีพในด้านอื่นๆของชีวิต…จนเป็นนิสัย   

you might like

Scroll to Top