เล่นเกมเถิดจะเกิดผล วิจัยชี้เกมดังช่วยบำบัดจิตใจ โรคซึมเศร้าและอาการวิตก

‘ลูกฉันเป็นคนดี…เพียงแต่เกมต่างหากที่ทำให้เขาเป็นฆาตกร’ บ่อยครั้งที่ ‘เกม’ ตกเป็นจำเลยในเรื่องของความรุนแรง ตามที่สื่อมักหยิบยกมานำเสนอ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาคนรักเกมที่มองว่าพฤติกรรมด้านลบอยู่ที่ตัวบุคคลและวิจารณญาณต่างๆ มากกว่า

แท้จริงแล้วเกมส่งผลต่อปัญหาอาชญากรรมและความรุนแรงหรือไม่? ยังไม่มีข้อพิสูจน์อย่างชัดเจน แต่ในทางกลับกันเกมกลับทำหน้าที่ช่วยบำบัดผู้ป่วยซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล และปัญหาสุขภาพจิตต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และมีผลวิจัยรองรับเป็นเรื่องเป็นราว

วันนี้ The Optimized หยิบยกประเด็นนี้มานำเสนอเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับวงการเกม ในฐานะคนชอบเล่นเกมหนีผี ยิงผีและชีวิตยังปกติดี จิตใจแจ่มใส

Photo: Nintendo.com

ยกให้เป็น MVP

ผู้เขียนเป็นคนขับรถไม่เก่งเลยค่ะ เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการใช้ประสาทสัมผัสทางกายภาพพร้อมๆ กัน จนมาเล่นเกม ROV ซึ่งฮีโร่ตัวเมนที่รับบทเป็นนักเวทย์สาวที่สั่งสายฟ้าฝ่าหัวคู่ต่อสู้ได้ นั่นหมายความว่านิ้วมือต้องกดสกิล กะจังหวะคอมโบดีๆ และสายตาจะต้องมองจอหลักและมองจอเรดาร์เล็กๆ เพื่อคอยกะจังหวะโจมตีด้วยสายฟ้า

จากนั้นผู้เขียนสังเกตว่าตัวเองใช้ประสาทสัมผัสได้ดีขึ้น สายตา แขน ขาสัมพันธ์กันจนทักษะการขับรถดีขึ้นไปด้วย ซึ่งคาดว่าเกมมีส่วนพัฒนาทักษะต่างๆ เหล่านี้ไม่มากก็น้อยซึ่งนั่นเป็นเรื่องทักษะทางกายภาพ กลับมาที่ประโยชน์ของเกมต่อด้านสุขภาพจิตกัน วารสาร JMIR Serious Games เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของวิดีโอเกมต่อภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวลและปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ โดยพบว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ยืนยันว่าเกมส่งผลลัพธ์ด้านบวกต่อสุขภาพจิต

Photo: Nintendo.com

และเกมที่บทความพูดถึงนี้ หาใช่เกมที่ถูกสร้างมาเพื่อการบำบัดโดยเฉพาะไม่ แต่เป็นเกมทั่วไป เกมเชิงพาณิชย์ที่พวกเราเล่นกันในชีวิตประจำวัน นั่นหมายถึง เหล่าเกมเมอร์  2,700 ล้านคนทั่วโลกมีโอกาสได้รับประโยชน์ด้านนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาเนื่องจากข้อจำกัดด้านการเงินหรือสถานที่ เป็นต้น

Minecraft, Animal Crossing และ New Horizons ช่วยเชื่อมโยงทางสังคม

นักวิจัยจาก Lero ศูนย์วิจัยซอฟต์แวร์ของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ไอร์แลนด์ ได้ทบทวนงานวิจัยเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างเกมและการบำบัดสุขภาพจิตโดยเฉพาะโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล พบว่ามีหลักฐานว่าวิดีโอเกมอาจช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ โดยเฉพาะเกมอย่าง Minecraft และ Animal Crossing: New Horizons ที่สามารถส่งเสริมการเชื่อมโยงทางสังคมและลดความเหงา

Photo: Minecraft.com

ดร. เกล็นน์ แพลตต์ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอุบัติใหม่และผู้อำนวยการโครงการการศึกษาสื่อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบที่มหาวิทยาลัยไมอามีในรัฐโอไฮโอกล่าวว่า “วิดีโอเกมทำให้ผู้คนเชื่อมโยงกันซึ่งเป็นส่วนสัมพันธ์ของสุขภาพจิต ทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ผู้คนมีความคิดเหมือนกัน มีส่วนร่วมและแบ่งปันสิ่งที่ต้องการในเกม”

Mario Kart และ Plants vs. Zombies ไม่น้อยหน้า

นอกจากนี้เกมยังช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากอารมณ์ด้านลบ ลดการวิตก ลดคิดฟุ้งซ่าน และช่วยควบคุมอารมณ์อีกด้วย วิจัยพบว่าวัยรุ่นที่เล่นเกม “Mario Kart” จะมีทักษะการควบคุมอารมณ์ดีกว่าเพื่อนที่ไม่ได้เล่นเกมดังกล่าว

Photo: Courtesy of Electronic Arts

วิจัยยังพบอีกว่าเมื่อทดลองให้ผู้ที่มีอาการวิตกกังวลซึ่งเล่นเกม “Plants vs. Zombies” 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้นกว่าผู้ที่ใช้วิธีรักษาด้วยการทานยาเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับเกม Max and the Magic Marker” ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในเด็กอีกด้วย

Photo: Courtesy of Electronic Arts

เกมเชิงพาณิชย์ ปะทะ เกมเชิงบำบัด

อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่าบทความเลือกที่จะโฟกัสไปยังเกมเชิงพาณิชย์ หรือเกมทั่วๆ ไป แทนที่เกมที่ถูกสร้างมาเพื่อบำบัดโดยเฉพาะ ทั้งนี้ดร. เกล็นน์ แพลตต์ ให้ความเห็นว่า “เกมที่ออกแบบมาเพื่อฝึกฝนโดยเฉพาะ (เช่น ‘เกมฝึกสมอง’) เกมเหล่านี้ไม่ใช่เกมจริงๆ เมื่อคุณถูกสั่งให้คลิกทำสิ่งต่างๆ เพื่อผลลัพธ์ในการพัฒนาสุขภาพจิต นั่นคือการบำบัด นั่นไม่ใช่เกม”

แพลตต์ให้มุมมองเกี่ยวกับเกมที่ดีว่า “คุณสมบัติที่สำคัญของเกม หรือสิ่งที่ทำให้เกมคือเกม ก็คือผู้เล่นต้องเล่นโดยสมัครใจ วิจัยได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแรงจูงใจภายในนั้นสำคัญนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพ และสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ คือวิดีโอเกมนั้นมอบความสนุกสนาน

Photo: Nintendo.com

ใช้เสริม ไม่ใช่แทนที่

ไมเคิล แอล ไบรน์บาม กรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้ช่วยศาสตราจารย์จากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ Feinstein Institutes for Medical Research และผู้อำนวยการโครงการ Early Treatment Program (โปรแกรมเฉพาะทางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีอาการทางจิตเป็นครั้งแรก) แห่งเครือข่ายการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ Northwell Health ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “วิดีโอเกมช่วยทำให้เข้าถึงการบำบัดเสริมได้ดีกว่า เนื่องจากสามารถเล่นได้ที่บ้านและเล่นเมื่อใดก็ได้ ต่างจากการบำบัดเสริมแบบเดิมๆ ที่เข้าถึงได้ยากกว่าและมีค่าใช้จ่ายสูง” อย่างไรก็ตาม ไมเคิลชี้ว่าวิดีโอเกมไม่สามารถเข้ามาแทนที่การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เช่นกัน

Photo: Nintendo.com

Photo: Minecraft.com

ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ประโยชน์อย่างไร อย่างเช่นเกมที่สามารถสร้างความสนุกสนาน ช่วยเชื่อมโยงทางสังคม ตลอดจนช่วยบำบัดจิตใจ หากคุณยังคิดว่าเกมต่อสู้ดุเดือดจะทำให้คุณฮึกเหิมเกินไป ลองเลือกเล่นเกมสบายๆ ที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร บางทีเกมอาจจะเป็นเซฟโซนในจิตใจที่ช่วยปลอบประโลมคุณ

Words: Varichviralya Srisai

ข้อมูลจาก:

you might like

Scroll to Top