มึน เบลอ สมองอ๊องตอนทำงาน พฤติกรรมทำร้ายสมองโดยไม่รู้ตัวว

เบลอ มึน ตึ้บ คิดอะไรไม่ค่อยออก บางครั้งอาจเป็นเพราะสมองเรากำลังอ่อนล้า ปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพของสมองเราลดลงบางครั้งอาจจะเป็นพฤติกรรมเคยชินที่เราเผลอทำร้ายสมองโดยไม่รู้ตัว ลองไปดูสิว่าทำพฤติกรรมใดบ้างใน 10 ข้อดังต่อไปนี้

ลืมรับประทานอาหารเช้า

คุณมีพฤติกรรมไม่รับประทานอาหารเช้าหรือไม่ เนื่องจากอาหารเช้าเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงสำคัญให้กับร่างกาย การงดรับประทานจึงทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายพัง ก่อให้เกิดการเนือย ไร้เรี่ยวแรง ความดันโลหิตต่ำกว่าปกติ และเป็นทำลายสมองอย่างช้าๆ ระบบการประมวลผลข้อมูลต่างๆ จึงทำได้ไม่ดี ทำให้คิดช้าหรือมึนงงซึ่งส่งผลโดยตรงกับการทำงาน ดังนั้นหันมารับประทานอาหารเช้าในทุกๆ วัน หากไม่มีเวลาก็เลือกเป็นเมนูเบาๆ  แต่ให้ครบ 5 หมู่

นอนน้อย

เปรียบร่างกายเราเป็นแบตเตอรีมือถือและการนอนหลับเป็นการชาร์จแบต เมื่อร่างกายเราแบตหมดก็จำเป็นต้องเสียบชาร์จแบตให้เต็ม การนอนหลับที่ดีในช่วงเวลา 7-8 ชั่วโมงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตรงกันข้ามหากคุณนอนน้อยสามารถก่อให้เกิดผลกระทบกับกระบวนการคิดและความทรงจำที่แย่ลง อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวลได้ง่ายไปจนถึงก่อให้เกิดความผิดปกติของสมองอย่างโรคอัลไซเมอร์ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าตั้งแค่นาฬิกาปลุก ควรตั้งนาฬิกาในเวลาที่ควรนอนไว้ด้วย

เปิดเพลงดัง ฟังหูแตก

บางทีก็มัน ผู้เขียนเข้าใจ บ่อยครั้งเราไถฟีดโซเชียลฯ ไปเจอเพลงโปรดก็เผลอโยกตัวพร้อมเร่งเสียงให้ดังขึ้น ทั้งๆ ที่มือถือขึ้นแจ้งเตือนว่า “คุณกำลังฟังเสียงที่ดังในระดับที่เกินควร” ก็หาได้สนใจไม่ แต่การฟังเพลงเสียงดังทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลง วิจัยพบว่าการเปิดเพลงเสียงดังสามารถทำให้สูญเสียการได้ยินและก่อให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อสมองในผู้สูงอายุได้ ทั้งนี้ยังส่งผลกับกระบวนการคิด การใช้เหตุผลและความจำของบุคคลทั่วไปอีกด้วย แนะนำว่าให้คุณเปิดเพลงเบาๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฟังเพลงแนวร็อก แนวฮาร์ดฮอร์ไม่ได้ เพียงแต่เปิดในระดับที่เหมาะสม

กระดกกาแฟมากเกินไป

มีช่วงหนึ่งที่ผู้เขียนทำงานเยอะและก็ติดซีรีส์ไปพร้อมๆ กัน เมื่อนอนน้อยตื่นเช้ามาทำงานก็ง่วง ง่วงเสร็จก็อัดกาแฟต่อ บ่ายๆ กลับรู้สึกเหนื่อยล้า ปวดหัว จึงอัดกาแฟเข้าไปอีก และทำเป็นวังวนคนบ้างานอยู่แบบนี้ แต่ความแปลกคือประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ดีขึ้น รู้สึก มึนๆ งงๆ คิดงานไม่ค่อยออก

ผู้คนมักดื่มกาแฟจำนวนมากเพื่อให้มีพลังงานทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ซึ่งช่วยได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ทุกครั้งที่เราดื่มกาแฟเข้าไปร่างกายจะผลิตตัวรับอะดีโนซีน (Adenosine Receptor) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองมากขึ้น เมื่อร่างกายรับคาเฟอีนในปริมาณและความถี่มากขึ้น จะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้ากลายเป็นภาวะดื้อคาเฟอีน ส่งผลให้ปวดหัว กระสับกระส่าย และกระบวนการคิดแย่ลง เป็นต้น

เครียดจากงาน

เมื่อเราเครียด สมองของคนเราจะทำงานต่างๆ ได้ไม่ดี เพราะสมองจะใช้พลังงานส่วนหนึ่งเพื่อจัดการกับฮอร์โมนแห่งความเครียดคอร์ติซอล ที่หลั่งออกมาจำนวนมาก จึงรบกวนการทำงานของสมองทั้งในส่วนของความจำ การเรียนรู้และกระบวนการจัดการข้อมูล อีกทั้งความเครียดส่งผลให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เข้าสังคมน้อยไป

การอยู่กับตัวเองเพื่อโอบรับช่วงเวลาแห่งความสุขเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเราไม่ติดต่อพูดคุยกับใครเป็นเวลานานๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความคิดได้ เนื่องจากมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการสังคมและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การอยู่กับตัวเองนานๆ สามารถก่อให้เกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ แต่ไม่ได้ความว่าคุณต้องออกไปปาร์ตี้ทุกๆ สัปดาห์ เพียงแค่โทรหา พูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นเหล่านี้จะช่วยทำให้กระตุ้นเซลล์ประสาทของสมอง ทำให้คงประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ดี

ดื่มน้ำน้อย

ความตลกร้ายของพวกเราคือเราสามารถดื่มชานมไข่มุกได้แบบไม่รู้อิ่ม แต่พอเป็นน้ำเปล่าเรากลับไม่สนใจ แท้จริงแล้วน้ำเปล่าสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นองค์ประกอบที่มากที่สุดถึง 75% ในร่างกาย เมื่อเราดื่มน้ำไม่พอจะส่งผลให้ร่างกายรวมถึงสมองขาดน้ำ และหากสมองขาดน้ำก็จะเกิดปัญหาเนื้อเยื่อสมองหดตัวส่งผลโดยตรงโดยกระบวนการรับรู้และการใช้เหตุผลของมนุษย์ ทำให้การตัดสินใจแย่ลง บกพร่องทางความคิดและไม่มีสมาธิในการทำงาน เป็นต้น ดังนั้นอย่าลืมพกกระบอกน้ำติดตัวและจิบเป็นระยะเสมอ

บุหรี่ศัตรูของสมอง

จริงๆ หัวข้อนี้ไม่ต้องพูดเยอะ ทุกคนก็ทราบกันอยู่แล้วว่าบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ในส่วนของสมอง บุหรี่สามารถทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง กระบวนการคิดและสมาธิในการทำงานน้อยลง จนนำไปสู่การหลงลืมเป็นประจำ และภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น

อย่าลืมออกกำลังกายสมอง

บางครั้งการเบลอ หลงลืม ไม่มีสมาธิในการทำงานอาจเกิดจากการที่สมองไม่ได้รับการออกกำลังกาย เช่นเดียวกับร่างกาย หากคุณอยากให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่ตลอดเวลาคุณก็ต้องคาร์ดิโอหรือเวทเทรนนิง แต่การออกกำลังเพื่อให้สมองฟิตทำอย่างไร วิธีง่ายๆ ก็คือ พาตัวเองไปทำกิจกรรมใหม่ๆ ท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ หรืองานอดิเรกที่คุณอยากลองแต่ไม่เคยทำ ซึ่งจะทำให้สมองของคุณกระตือรือร้น พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา

ชอบนอนคลุมศีรษะหรือไม่

ทำไมเมื่อนอนเต็มอิ่มก็จริง แต่ร่างกายยังอ่อนล้าและสมองยังคงมึนงง บางครั้งคุณอาจจะเผลอนอนคลุมศีรษะเป็นเวลานาน ที่ไม่ว่าจะเป็นคลุมด้วยผ้าห่ม หมอน หรือแม้กระทั่งมือของตัวเอง การนอนท่านี้จะส่งผลให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในสมองเพิ่มขึ้น ทำให้หายใจไม่ออก ปวดและเวียนศีรษะ ทำให้ตื่นมามึนงง เหนื่อยล้า คิดอะไรไม่ออกได้

เมื่อทราบแล้วว่าพฤติกรรมเคยชินดังกล่าวนี้ทำร้ายสมองได้มากกว่าที่คุณคิด ดังนั้นค่อยๆ ปรับทีละเล็กทีน้อยเพื่อคงประสิทธิภาพของสมองได้อย่างยาวนาน เมื่อสมองแล่น งานก็ลื่นไหล คุณทำได้ไม่ยาก!

Words: Valentina S.

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top