เมื่อ ‘เพื่อน’ ไม่ใช่พื้นที่สบายใจ ผิดไหมที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว

“พี่บอกหนูได้ไหมทำไมถึงรู้จักคนเยอะแยะไปหมด” ผู้เขียนพูดโพล่งขึ้นหลังการประชุมโปรเจกต์สิ้นสุด ซึ่งประโยคดังกล่าวปราศจากการประชดใดๆ แต่กำลังรู้สึกมหัศจรรย์ว่าต้องทำอย่างไรถึงมีคนมารุมล้อม

แม้กระทั่งแฟนของผู้เขียนที่ก่อนออกจากบ้าน จำเป็นต้องโบกมือบ๊ายบายให้คนจำนวนมากตั้งแต่ต้นซอยยันจุดหมายปลายทาง

ตัดภาพมาที่ผู้เขียนที่นอกจากแมวแล้ว วันหนึ่งๆ คุยกับสิ่งมีชีวิตน้อยมาก อันที่จริงผู้เขียนมีเพื่อนคบค่ะ ทั้งมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานที่พูดคุยแล้วรู้สึกดีจำนวนหนึ่ง มีหลายครั้งพวกเขาชวนผู้เขียนไปพบปะสังสรรค์ แต่ก็ปฏิเสธไปต่างๆ นานา ทั้งนี้ไม่ใช่ไม่คิดถึงหรือไม่อยากเจอนะคะ แต่ ‘การอยู่กับตัวเองดันมีความสุขมากๆ’ และความคิดนี้มีพลังเสียจนรั้งขาไว้ไม่ให้ไปหาใครๆ จนเป็นที่มาของบทความนี้ ‘เมื่อชีวิตเลือกที่จะไม่มีเพื่อน’

Photo: Freepik

เพื่อน (ไม่) สนิท

 

 

ฟังดูผู้เขียนเป็นอินโทรเวิร์ตที่ชอบหมกตัวอยู่ในบ้านไม่คุยกับใครใช่ไหมคะ? คิดผิดค่ะ ผู้เขียนชอบการออกไปชมโลกมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ชมวัฒนธรรมและวิถีชีวิต และก็ชอบพูดคุยกับคนในท้องถิ่นเพราะถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แต่สบายใจเท่าที่ไม่ต้องสนิทกัน และส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางคนเดียวด้วยเสียด้วยซ้ำเพราะรู้สึกว่าไปกันหลายคนความวุ่นวายจะบังเกิด

หลายครั้งผู้เขียนไม่ค่อยคุยไลน์เพราะมีกลุ่มไลน์ที่คุยงานเยอะแล้ว และจะใช้เฟซบุ๊กเพียงแค่แชร์บทความและคอนเทนต์ที่ตัวเองชื่นชอบเก็บไว้ดู ไม่ได้ไปทำการกดไลก์ กดแชร์อะไร สร้างเอนเกจเมนต์ให้ใคร และไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำว่าไลฟ์สไตล์เพื่อนฝูงเป็นอย่างไรบ้าง นี่คงไม่แปลกใจที่ทำไม ‘เพื่อนน้อยลงไปทุกที’

และชีวิตแบบนี้ก็มีความสุขดีนี่นา

Photo: Freepik

เพื่อนน้อยเป็นของธรรมดา

 

แท้จริงแล้วการที่เราไม่มีเพื่อนหรือมีเพื่อนสนิทเพียงจำนวนหยิบมือไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นเพียงบุคลิกภาพหนึ่งๆ เท่านั้น เปรียบเทียบกับแมว แมวบางตัวชอบย่องออกไปชมนกชมไม้ยามดึก และเมื่อพบเจอมนุษย์หรือเพื่อนแมวด้วยกัน บางตัวอาจเข้าไปคลอเคลีย บางตัวระแวดระวัง บางตัวอาจเดินหนี และนี่คือก็เป็นบุคลิกภาพอันหลากหลายของแมวที่ไม่ต่างจากคน

โดยเว็บไซต์ Verywellmind รายงานถึงผลสำรวจเกี่ยวกับการคบเพื่อนว่า

  • 26% คือตัวเลขที่ผู้ตอบแบบสำรวจในปี 1990 เลือกที่จะคุยกับเพื่อนสนิทก่อนเสมอเมื่อเจอปัญหา แต่ลดลงเหลือเพียง 16% ในปี 2021

เช่นเดียวกับผลการสำรวจของ American Perspectives Survey ซึ่งชี้ให้เห็นว่า 49% ของผู้ตอบแบบสำรวจ มีเพื่อนที่สนิทเพียง 3 คนหรือน้อยกว่า โดยแบ่งเป็นเจนต่างๆ ดังนี้

  • 9% คือตัวเลขของเบบี้บูมเมอร์ที่รายงานว่าไม่มีเพื่อน
  • 16% คือตัวเลขของเจนเอ็กซ์ที่รายงานว่าไม่มีเพื่อน
  • 27% คือตัวเลขของเจนวายที่ไม่มีเพื่อนสนิท และ 22% รายงานว่าไม่มีเพื่อนเช่นกัน

ผลสำรวจดังกล่าวต่างยืนยันว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนเจนรุ่นใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับการมีเพื่อนน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

Photo: Freepik

แล้วทำไมเรายังไม่มีเพื่อน

เหตุผลที่มนุษย์คนหนึ่งไม่ยอมสนิทกับใครหรือเลือกที่จะไม่มีเพื่อนเป็นไปได้หลายหัวข้อ ตั้งแต่บุคลิกภาพส่วนตัวไปจนถึงสภาพแวดล้อม ดังนี้

1.บุคลิกภาพรักความสันโดษ

บางครั้งการฮีลใจไม่ได้มาในรูปแบบของการไปปาร์ตี้ แต่มันคือการได้นอนบนโซฟานุ่มๆ ดูหนังเรื่องโปรด หรือการนั่งรถไฟไปเที่ยวคนเดียวเพื่อให้ระหว่างทางเราตกผลึกในหัวของตัวเอง บางคนชอบพูดคุยกับตัวเองมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

2.กลัวความผิดหวัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งมิตรภาพมาพร้อมกับคำว่าคาดหวังโดยมีทั้งผู้ให้และมีผู้รับ และบางคนก็ไม่อยากทำตามความคาดหวังเหล่านี้ จึงหลีกเลี่ยงมิตรภาพเพื่อไม่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดหวังของคนอื่น

Photo: Freepik

3.เพื่อนเท่ากับครอบครัว

เป็นธรรมดาเมื่อเราเติบโตขึ้นสังคมเราจะเปลี่ยน หลายคนหันไปโฟกัสกับการมีครอบครัวมากกว่าเพื่อนฝูง และเมื่อคุณรู้สึกว่าสมาชิกในครอบครัวเป็นเพื่อนของคุณ ดังนั้นการแสวงหามิตรภาพจากภายนอกจึงมีบทบาทน้อยลง

4.มีประสบการณ์ที่ไม่ดี

หากคุณเคยถูกเพื่อนทำร้ายจิตใจในอดีต คุณอาจมีปัญหาเรื่องความเชื่อใจจึงทำให้เริ่มต้นมิตรภาพกับใครได้อย่างยากลำบาก

5.คุณยุ่งเกินไป

ทุกการกระทำต้องอาศัยความพยายามและเวลาไม่เว้นแม้แต่การสร้างมิตรภาพ หากคุณยุ่งกับภาระหน้าที่อื่นๆ เช่น ครอบครัว ที่ทำงาน หรือโรงเรียน คุณอาจรู้สึกว่าไม่มีเวลาหรือแรงพอที่จะอุทิศให้กับการสร้างมิตรภาพดังกล่าว

Photo: Freepik

ประโยชน์ของการอยู่คนเดียว

การไม่มีเพื่อนและหันมาให้เวลากับตัวเองมีผลประโยชน์เชิงบวกหลายประการดังนี้

  1. มีเวลาทำกิจกรรมที่ส่งผลให้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
  2. เมื่อปราศจากสิ่งเร้า คุณจะมีสมาธิและความจำที่ดีขึ้น
  3. มี Self-awareness หรือมีความสามารถในการรับรู้และตระหนักถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
  4. มีประสิทธิภาพในการทำงาน หรือสร้างผลผลิตงานออกมาได้มากขึ้น
  5. มีเวลาเพิ่มพูนทักษะและฝึกฝนการเติบโตทางความคิดมากขึ้น

Photo: Freepik

ถามใจดูว่ามีความสุขไหม

อันที่จริงหากถามว่าการ ‘ไม่มีเพื่อน’ เป็นปัญหาชีวิตหรือไม่ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณ หากคุณพอใจและมีความสุขในการ ‘ไม่มีเพื่อน’ สิ่งนี้การันตีได้ว่ารูปแบบชีวิตที่คุณเลือกเหมาะสมแล้ว แต่หากคุณรู้สึกเศร้า เหงา และต้องการมิตรภาพ คุณคงต้องเปิดใจสร้างมิตรภาพแล้วละ ดังนั้นจงตอบคำถามตัวเองว่าตอนนี้อยู่ในสถานะ ‘เลือกที่จะไม่มีเพื่อน’ หรือ ‘ทำไมฉันยังไม่มีเพื่อน’ ให้ดี

ความสัมพันธ์แบบเพื่อน (ไม่) สนิทไม่ใช่เรื่องแปลก บางครั้งเป็นแมวท่องราตรีแล้วหนีหายจากผู้คนบ้างก็ได้หากทำให้คุณสบายใจ มิตรภาพจะไม่ใช่การเอาหัวใจไปแบกหรือวิ่งตามผู้อื่นอีกต่อไป พูดในฐานะคนมีเพื่อนเพียงหยิบมือ

Words: Varichviralya Srisai

ข้อมูลจาก:

you might like

Scroll to Top