ได้ที่ 2 โลกไม่จำ แต่ทำไม ‘วิว กุลวุฒิ’ ได้เหรียญเงินโอลิมปิกที่คนไทยจะไม่ลืม

มีผลการศึกษาอารมณ์จากสีหน้าของคนที่ได้เหรียญทอง เงิน และทองแดง

เหรียญทองพอใจมากเกือบเต็ม 10

เหรียญทองแดงพอใจ 7.1

เหรียญเงินพอใจ 4.8

ทำไมได้ที่ 2 แล้วพอใจน้อยกว่าคนที่ได้ 3

นักจิตวิทยาอธิบายว่า เป็นเพราะคนที่ได้เหรียญทองแดงคิดว่า “อย่างน้อยฉันก็ได้เหรียญมาละน่า” เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงกับความคาดหวังห่างไกลกันมาก ดังนั้น “ได้มาสักเหรียญก็ดีเท่าไรแล้ว”

ทว่า คนที่ได้เหรียญเงินจะโฟกัสกับการคิดว่า “ฉันเกือบจะได้อยู่แล้วเชียว” และนึกภาพว่า อีกนิดเดียวเอง…ฉันอาจจะได้เหรียญทองมาก็ได้

อาการนี้มีชื่อเรียกในทางจิตวิทยาว่า Silver Medal Syndrome คือ อาการต่อต้านข้อเท็จจริง หรือคิดถึงผลลัพธ์อีกแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง  

อาการนี้ยังใช้อธิบายสถานการณ์ต่างๆ นอกจากกีฬาได้เช่นกัน แม้แต่การได้ขึ้นเงินเดือน

เช่น คุณได้เงินเดือนขึ้น 5% เยอะหรือน้อย? บอกไม่ได้หรอก

แต่พอได้รู้ว่าเพื่อนโต๊ะข้างๆ ได้ขึ้น 3% คุณจะรู้สึกว่า 5% ที่คุณได้เพิ่มขึ้นมา = เยอะแล้ว

แต่เมื่อเจอเพื่อนอีกซอยที่ได้ขึ้นเงินเดือน 10% ทำไม 5% ที่คุณได้เพิ่มมากลับรู้สึกว่ามันน้อยลงไปเฉยเลย

คุณมีอาการ Silver Medal Syndrome เข้าแล้ว

แต่ Silver Medal Syndrome ทำไมจึงใช้อธิบายเหรียญเงินโอลิมปิกจากแบดมินตันชายเดี่ยวของ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ไม่ได้

FB: Banthongyord Badminton School

ย้อนกลับไปทวนความฝันเรื่องแบดมินตันของวิวที่มีอยู่ 3 เรื่อง

หนึ่ง ได้เป็นแชมป์โลก

สอง ได้ไปโอลิมปิก

สาม ได้ไปแข่งออล อิงแลนด์ โอเพ่น การแข่งขันเทนนิสเก่าแก่ที่สุดในโลกที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1899

วิวได้เป็นแชมป์แบดมินตันโลกเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023 ในครั้งนั้นวิวให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า “อยากจะได้มาสักเหรียญในโอลิมปิก”

ปารีส 2024 วิวได้ไปโอลิมปิกสมใจ และได้มาหนึ่งเหรียญดังใจหวัง

เช่นเดียวกับคนในวงการแบดมินตัน วิวรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นทอง เงิน ทองแดง หนึ่งเหรียญโอลิมปิกล้วนมีความหมาย เพราะจะเป็นโอลิมปิกเหรียญแรกของไทย

ก่อนไปเจอกับ Viktor Axelsen มือสองของโลกจากเดนมาร์กและแชมป์เก่าแบดมินตันชายเดี่ยวจากโตเกียวโอลิมปิก 2020 วิวได้ทำลายสถิติของนักแบดมินตันไทยไปแล้ว เมื่อวิวเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยที่เข้ารอบชิงเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกใน 20 ปี นับจากบุญศักดิ์ พลสนะ เคยทำไว้เมื่อปี 2004

ดังนั้น เหรียญเงินที่ได้มาถือว่าวิว “ได้เหรียญโอลิมปิกมาสักเหรียญ” สมดังใจ

FB: Banthongyord Badminton School

การดวลกับวิกเตอร์ อเซลเซ่น วิวไม่ได้เจอกับ “คู่แข่ง” แต่เจอกับ “ครูชั้นเยี่ยม” เหมือนที่โค้ชเป้-ภัททพล เงินศรีสุข แห่งบ้านทองหยอด ผู้ปลุกปั้นวิวมาตั้งแต่อายุ 12 พูดกับวิวช่วงเบรกระหว่างเกมแรกที่ตอนแรกวิวทำคะแนนคู่คี่ แต่ตีเสียเองจนวิกเตอร์ได้แต้มทิ้งห่างว่า

“วิวอยากได้มากไป”

วิวจึงพยายามกลับไปเล่นอย่างใจเย็นเสมือนว่า “นี่ก็เป็นแค่เกมอีกเกมหนึ่งเท่านั้น” (คือคำพูดของโค้ชเป้ในเกมก่อนหน้านี้ที่วิวเจอกับฉือหยู่ฉี มือหนึ่งของโลกจากจีน”

แต่เกมชิงเหรียญทองครั้งนี้ วิวก็เจอร่างทองของวิกเตอร์เหมือนกัน คอร์ตแบดมินตันยาว 13.4 เมตร กว้าง 6.1 เมตร วิกเตอร์ที่สูง 194 เซนติเมตร ช่วงแขน 2 ข้างยาว 2 เมตร ในเกมที่สอง มีหลายครั้งมากที่วิกเตอร์ปักหลักกลางคอร์ตแล้วตีโยกซ้าย-ขวาแบบสบายๆ ขณะที่วิววิ่งซ้ายที ขวาทีทั่วสนาม

เมื่อเจอกับผู้เล่นที่ไร้จุดอ่อนเช่นนี้ คะแนนครึ่งเกมของเกมที่สอง วิวจึงโดนทิ้งห่าง 11-3 โค้ชเป้สีหน้ายิ้มแย้ม พูดกับวิวแบบสบายๆ ว่า

เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ป่ะ”

แม้แต้มจะห่างมาก ชนิดที่อีกแต้มเดียว วิกเตอร์ก็ได้เหรียญทองแล้ว แต่วิวยังคงเต็มที่ เหมือนที่วิวเคยโพสต์ว่า “คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง”

เกมนี้จึงไม่ได้มุ่งผลแพ้-ชนะเท่านั้น แต่วิวโฟกัสที่รูปแบบเกมและพยายามเรียนรู้จากครูที่ชื่อวิกเตอร์ อเซลเซ่นทุกไม้

FB: Banthongyord Badminton School

และนั่นก็ทำให้วิวได้ใจคนไทย และมีสีหน้าพึงพอใจ 10/10 ขณะที่เหรียญเงินโอลิมปิกถูกสวมลงบนคอ แบบไม่มีเค้าลางของอาการ Silver Medal Syndrome ให้เห็นสักนิด

ปารีส 2024 ว่าสุดยอดแล้ว แต่มารอดูวิวในแอลเอ 2028 ในเวอร์ชั่นที่วิกเตอร์ อเซลเซ่นให้สัมภาษณ์ถึงวิวหลังจากได้เหรียญทองว่า “เขาเป็นคู่แข่งที่คู่ควรมาก เขาจะเป็นแชมเปี้ยนในอนาคต”

Words: Sritala Supapong

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top