ชมภาพประกอบจากซีรีส์ดัง It’s OK to Not Be OK (ซอเยจีและคิมซูฮยอน) รวมทั้ง Encounter (พัคโบกอมและซงฮเยคโย) พร้อมภาพเขียนของ ‘จัมซัน’ ศิลปินเกาหลีใต้ในนิทรรศการ Jamsan’s Director’s Cut
Maison JE Bangkok ของสองพี่น้องนักสะสมงานศิลปะชาวไต้หวัน Jonas และ Elsie Lu พาพันธมิตรทางศิลปะของพวกเขามาให้สายอาร์ตชาวไทยได้ยลผลงานของ ‘จัมซัน’ ศิลปินชาวเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก
จัมซัน คือนามแฝงของ คังซัน ผู้คลุกคลีในแวดวงศิลปะมามากว่า 20 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ ก่อนจะลาออกไปทำตามฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นนักวาดการ์ตูน ทว่า เส้นทางการเป็นศิลปินของเขาไม่ได้สวยงาม กลับเต็มไปด้วยคลื่นขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่เขาเป็นศิลปินโนเนม
จนกระทั่ง…
จัมซันได้พบกับผู้กำกับซีรีส์เรื่อง Encounter ในปี 2018 ซึ่งให้โอกาสเขาได้วาดภาพดิจิทัลอาร์ตเพื่อนำไปทำเป็นอินโทรซีเควนซ์ของซีรีส์ที่บอกเล่าความรักของดอกฟ้ากับหมาวัด พัคโบกอมในบทพนักงานหนุ่มน้องใหม่ในโรงแรมใหญ่ที่มีซงฮเยคโยเป็นประธาน จัมซันได้ถ่ายทอดความรักมั่นคงที่ไม่สั่นคลอนด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาของคนทั้งคู่ด้วยภาพเจ้าชายและเจ้าหญิงที่ได้ครองรักกันท่ามกลางดวงดาวและพระจันทร์เป็นสักขีพยานแห่งรักแท้
ก่อนที่ในปี 2020 ชีวิตของจัมซันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นศิลปินชื่อดังในเกาหลีใต้อย่างที่เป็นในทุกวันนี้เพราะการร่วมงานกับซีรีส์อีกครั้ง คราวนี้เป็นเรื่อง It’s OK to Not Be OK ที่เล่าเรื่องราวความป่วยไข้ทางจิตใจของ โกมุนยอง นักเขียนนิทานสาวที่ทำให้ซอเยจีโด่งดังเป็นพลุแตกจากการรับบทเป็นคนที่โดนทำร้ายจิตใจอย่างหนักมาตั้งแต่วัยเด็ก จนมีอาการเป็น “โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม หรือ Anti-Social Personality Disorder (ASPD)” แต่มุนคังแท (คิมซูฮยอน) ใช้ความรักผสมความเข้าใจและความอดทนอย่างแรงกล้ายื่นมือข้ามหนามแหลมที่เธอสร้างขึ้นมาปกป้องตัวเอง เพื่อจะพบเจอเด็กหญิงที่น่าสงสารและรักคนอื่นเป็นในเนื้อแท้
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องในลักษณะนิทานซ้อนละคร เมื่อโกมุนยองเริ่มเขียนนิทานเรื่องใหม่ ภาพจะตัดไปเป็นงานภาพประกอบลายเส้นดิบเหมือนตวัดไวไปตามแรงอารมณ์อันพลุ่งพล่านและหวาดหวั่น จนเป็นนิทานที่เด็กอ่านแล้วร้องไห้จ้า ผู้ใหญ่อ่านแล้วน้ำตารินทั้ง 5 เรื่อง ที่แฟนซีรีส์เรียกร้องหนักมาก จนต้องทำนิทานจริงๆ วางขายและกลายเป็นหนังสือขายดีในเกาหลีใต้ทุกเล่ม
แน่นอนว่าความสำเร็จนี้ย่อมตกแก่ จัมซัน เจ้าของภาพประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งใช้ลายเส้นฉวัดเฉวียนสุดดาร์กทลายกรอบนิทานแฟนตาซีหวานใส เพราะว่ากันตามจริง ชีวิตของคนเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้พาสเทลหอมหวานแต่อย่างใด แต่มันเจือไปด้วยความมืดหม่นบ้างในบางคราว และเขาก็อยากให้ลายเส้นทะมึนของเขาบอกเล่าความเป็นจริงอีกด้านของชีวิต
ไม่นานมานี้จัมซันมูฟออนจากงานภาพประกอบซีรีส์ไปทดลองทำงานเพนติ้งสีน้ำมัน ซึ่งเขานำภาพเขียนใหม่ 25 ภาพจากชุด Red Chair และ Rose from the Stars มาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกันด้วยตาเนื้อ ทั้ง 25 ภาพบอกเล่าการเดินทางของเด็กหญิงตาโตที่ออกผจญภัยไปยังดวงดาวต่างๆ ในจักรวาล เพราะดาวที่เธอเคยอยู่เริ่มละลายเหลวเป๋วจนอยู่ไม่ได้ (เพราะโลกร้อนหรือเปล่าหนู)
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ใหม่ๆ ที่พาให้เธอใคร่ครวญถึงความทรงจำเก่าๆ
ดวงดาวคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต ซึ่งอาจเลยผ่านไปแล้วหรือยังมาไม่ถึงก็เป็นได้
ต้นกระบองเพชรคือความเจ็บปวดที่เราทุกคนเฝ้าเก็บงำไว้จนมีเพียงตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่ามันเจ็บปวดอย่างไร
ดอกกุหลาบคือความสวยงามในชีวิตที่เราละเลยหลงลืม บางรูปเจ้ากุหลาบงามจึงร้องไห้ที่ถูกมองข้าม บางรูปกุหลาบก็เหี่ยวเฉาเพราะเศร้าใจที่ไม่มีใครจดจำ
หมีสีแดงคือความอยากมีอยากได้ที่เรายึดเหนี่ยวมันไว้แน่น เหมือนดังเช่นเด็กหญิงที่พาพาเจ้าหมีสีแดงไปด้วยทุกที่ และมันโอบกอดเธอไว้ราวกับเป็นเงาแห่งความโลภที่สลัดไม่ออก
เด็กหญิงสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา เดาอารมณ์ไม่ได้ บอกไม่ถูกว่าคิดอะไรอยู่ เพื่อให้เราแต่ละคนเอาตัวเข้าไปแทนที่ เพื่อจะรับประสบการณ์ของเธอ เพื่อจะแบ่งปันเรื่องราวของเรามาเล่าสู่กันฟัง
ภายใต้สีสันสดใส ภาพคล้ายการ์ตูนสวยหวาน นี่คือนิทานเรื่องใหม่ที่จัมซันแต่งขึ้นเองเพื่อปลอบประโลมเราทุกคน
ชมนิทรรศการ Jamsan’s Director’s Cut ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. ที่ Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
https://www.facebook.com/maisonjebangkok/
Words: Sritala Supapong
Photos: Courtesy of Maison JE Bangkok