‘ฟรีน สโรชา’ คนกลัวผีที่ตัดสินใจรับงานแสดงในหนังผี ‘ไรเดอร์’

ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ ไม่ทำให้ตัวเองต้องผิดหวัง เมื่อก้าวไปหาความท้าทายใหม่ๆ เสมอในอาชีพนักแสดง โดยผลงานเรื่องล่าสุด ‘ไรเดอร์’ นับเป็นการท้าทายตัวเองขั้นสุดครั้งหนึ่งของฟรีน คนกลัวผีจัดๆ ที่ตัดสินใจรับงานแสดงในหนังผี

ทำไมฟรีนจึง say yes ให้กับหนังเรื่องนี้ The Optimized ชวนไปหาคำตอบจากปากของฟรีนเอง

จุดเริ่มต้นในการร่วมงานโปรเจกต์หนัง ‘ไรเดอร์’

พี่กังฟู (ผู้กำกับ) เล่าให้ฟังว่าไปเห็นฟรีนในหนังเรื่องหนึ่งที่เขาไปดูการถ่ายทำ ซึ่งหนูอยู่ในเซต พอคัตเสร็จหนูก็มานั่งเฉยๆ กำลังพักอยู่ไม่คุยกับใคร เก็บเอเนอร์จีไว้เตรียมเข้าเซตต่อ พี่ฟูเห็นหนูตอนนั่งเหม่ออยู่คนเดียวพอดี แล้วก็มาเล่าให้หนูฟังทีหลังว่าวันนั้นพี่เจอหนูที่กองถ่ายนี้นะ แล้วรู้สึกว่าหนูเหมาะกับบทที่กำลังทำพอดี เลยติดต่อให้หนูลองไปแคสต์ให้หน่อย มาลองเป็น “พาย” ให้ดูหน่อย พี่ฟูส่งบทมาให้แล้วไปลองเล่นซีนหนึ่ง พี่ฟูดูเสร็จก็บอกขอบคุณมาก แล้วหนูยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นหรือเปล่า เพราะระยะเวลาก็ห่างไปหลายอาทิตย์อยู่ แล้วพี่ฟูก็แจ้งกลับมาว่า โอเคเป็นหนูค่ะที่ได้เล่นบทนี้”

บทบาท-คาแรกเตอร์

“เรื่องนี้หนูรับบทเป็น “พาย” เจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ชอบใส่หูฟังแล้วอยู่กับตัวเอง รักอิสระ อยากทำในสิ่งที่อยากทำ มีอะไรในใจค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่รู้จะพูดกับใคร ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ มีคาแรกเตอร์น่าค้นหา ลึกๆ แล้วเป็นคนเฟรนด์ลีเข้ากับคนอื่นได้นะถ้ารู้จักกันจริงๆ แต่อย่างที่บอกว่าเขาโลกส่วนตัวสูง มีกำแพง ก็ยากที่ใครจะทำลายกำแพงเข้าไปได้ จนกระทั่งได้รู้จักกับ “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ) ไรเดอร์ที่มาส่งของให้เรา จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ทั้งโรแมนติกทั้งสยองทั้งฮาค่ะ

“ก่อนถ่ายทำเรื่องนี้ พี่ทีมงานพาฟรีนไปเวิร์กชอปวิธีการซ่อมมือถือมาด้วย ดูว่าเขาไขน็อตตรงไหน แงะตรงไหน ขั้นตอนการเปลี่ยนหน้าจอต้องเริ่มจากอะไร เพื่อให้เวลาเราถ่ายทำจะไม่ต้องมาพะวงกับวิธีการตรงนี้ แล้วคิดว่าถ้าคนในกองถ่ายอยากเปลี่ยน หนูเปลี่ยนได้ละ แต่ต้องมีอะไหล่มาให้นะคะ เปิดทำเป็นรายได้เสริมได้เลย”

การร่วมกับแก๊งไรเดอร์

“หนูยังไม่เคยร่วมงานกับพี่ๆ ทั้งสามคนมาก่อนเลยค่ะ สำหรับ “พี่โอ้” นี่หนูติดตามผลงานมาตั้งแต่หนังเรื่อง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก (2553) พี่โอ้เป็นคนเก่งมาก ติดตามผลงานของเขามาเสมอ และตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงานกับพี่โอ้พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหนูเพิ่งเข้ามาในวงการภาพยนตร์ใหม่ๆ รู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงาน พี่โอ้เป็นพี่ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เขาเข้าได้ดีกับทุกคนรอบตัวเลย ดูพี่เขาทำงานชิลๆ คงเพราะประสบการณ์เยอะ ตอนหนูกับพี่โอ้ไปเวิร์กชอปกัน พี่โอ้ก็ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากตั้งแต่ครั้งแรกเลย พอตอนเข้าเซตจริงๆ เราก็เอาความรู้สึกวันที่เราเวิร์กชอปมาใช้ได้เลย

“พี่โน่ (ภูวเนตร สีชมภู) หนูก็ไม่เคยร่วมงานมาก่อนเช่นกัน หนูไปทำการบ้านเลยว่าพี่โน่เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง พอตามดูพี่โน่ไปเรื่อยๆ ติดเลยทีนี้ พี่โน่มืออาชีพมาก เป็นคนนอกบทตลอด แต่ขำสุด มีพรสวรรค์ในด้านการแสดง และมีอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพร์สเสมอ มีพี่โน่จะสนุกมาก ขำมาก เวลาอยู่ในกองถ่ายบรรยากาศมันน่ากลัว และถ่ายทำตอนกลางคืน หนูจะคอยชวนพี่โน่ไปนี่หน่อย ไปกินน้ำ ไปกินข้าวกัน เล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อย อยู่ในกองหนูจะติดพี่โน่เหมือนกัน อุ่นใจเพราะพี่โน่ไม่กลัวผี

ส่วน พี่อาร์ต (มารุต ชื่นชมบูรณ์) เก่งตรงที่ไม่หลุดขำออกมาได้ไง เพราะเวลาพวกพี่เขาเล่นด้วยกันมันตลกมาก พวกเขามีจังหวะในการแสดงได้ลงตัว เข้าออกถูกจังหวะกันเป๊ะๆ พี่อาร์ตจะเป็นสายแบบพี่เหนื่อยมาก พี่ไม่ไหว หนูก็จะทำหน้าที่กองเชียร์ พี่อาร์ตสู้ๆ พี่อาร์ตเก่งมาก คอยส่งกำลังใจให้ ถึงพี่อาร์ตจะบ่น ดูเหนื่อย แต่พอเข้าเซตคือทำได้ดีตลอด จนสงสัยว่าพี่อาร์ตเหนื่อยจริงหรือเปล่าเนี่ย อย่างมีอยู่ซีนหนึ่งพี่อาร์ตปวดท้องเข้าห้องน้ำทั้งวัน แล้วคืนนั้นมีหลายซีนมากถ่ายทำทั้งคืนจนตี 2 ลากยาวมาจนคิดว่าไม่น่าจะไหวแล้ว แต่พี่อาร์ตอยู่จนถึงซีนสุดท้าย สปิริตสูงมาก หนูรู้เลยว่าพี่อาร์ตเก่งมาก”

“ส่วนที่หลอนสุดสำหรับหนูคือที่วัด มันน่าขนลุกนิดนึง มีโบสถ์ และเจดีย์เก็บกระดูกเก่าแก่กว่าสี่ร้อยปี ตอนกลางวันสวยงามมาก ตกกลางคืนยอมรับเลยว่าน่ากลัว ทางเปลี่ยว ตรงเมรุตรงเจดีย์ไม่มีไฟเลย ตรงที่เราไปนั่งรอเข้าเซตก็อยู่ข้างเจดีย์เก็บกระดูกอันใหญ่ๆ แล้วเราถ่ายทำกันจนถึงตี 2 ในเซตที่เป็นป่าช้า เป็นป่าที่ทีมอาร์ตเซตขึ้นมาตรงลานหลังโบสถ์ แต่มันเหมือนของจริงมากจนเกิดความไม่แน่ใจ แล้วต้องมีการเล่นกับเรื่องราวของศพอีก น่ากลัวเลยค่ะ แล้วคุณแม่ที่มาแต่งเอฟเฟกต์เป็นศพ แกนั่งอยู่ในระยะที่มองเห็นกัน หนูกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ เงยหน้ามาแล้วเห็นแกแล้วตกใจสุด เพราะทั้งบรรยากาศทั้งมุมที่อยู่  ทุกอย่างมันเหมือนว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ในเรื่องของจริงเลยค่ะ”

ส่วนตัวฟรีนเป็นคนกลัวผีมากน้อยแค่ไหน

“กลัวระดับสูงสุดค่ะ สมมติถ้าหนูต้องล้างหน้า หนูไม่สามารถล้างหน้าไปปิดตาไปได้ ใจมันจะคอยคิดว่าจะมีคนมาอยู่ข้างๆ กลัวขนาดนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ หนูจะกลัวไปเองมากกว่า สมมติว่าได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ หนูจะคิดละว่าต้องมีผี ส่วนตัวเลยยังไม่เคยเจออะไรจังๆ แต่ก็กลัวอยู่ดี หนูมากองถ่ายนี้คุณแม่ก็ให้พระมาด้วย พกไว้อุ่นใจดีค่ะ แต่มาอยู่กองนี้ไม่เจอผีนะคะ ถึงแต่ละที่ที่ไปมันหลอนมากจริงๆ มันต้องมีแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรค่ะ”

ส่วนตัวใช้บริการไรเดอร์บ้างไหม

“ทุกวันนี้พี่ไรเดอร์อยู่ในทุกช่วงเวลาของหนูเลย บางวันเราขี้เกียจจะออกไป รถติด เหนื่อย จะหิวข้าวสั่งข้าว เวลาป่วยสั่งยา ส่งของ พี่เขารันได้ทุกวงการ สะดวกสบายมากขึ้น แล้วเขาก็เก่งมากขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ทุกที่ทุกเวลา ฝนตกก็ไป เส้นทางที่อาจจะไม่เคยไป หรือเส้นทางแปลกๆ ก็ไป ต้องใช้ Google Map เป็น หนูว่าทุกอาชีพเลยนะที่ต้องใช้บริการเขา อาชีพเดียวรับจบได้ทุกอย่างจริงๆ”

ประทับใจอะไรบ้างในการแสดงเรื่องนี้

“ประทับใจที่การทำหนังเรื่องนี้ของฟรีน เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องไรเดอร์นี้ รู้สึกสนุก มีความสุขในทุกวันที่มาออกกอง พี่ๆ ทุกฝ่ายเก่งมากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รู้สึกว่ามันผ่านการวางแผนมาแล้ว มันเริ่มสนุกมาตั้งแต่เจอกันวันแรก ที่เราได้ฟิตติ้งกันจนถึงวันปิดกอง มาเล่นหนังผีที่มันน่ากลัวแต่บรรยากาศกองน่ารัก หนูได้รับประสบการณ์ทั้งการแสดงและเอนจอยกับทุกคนในกองมากๆ ค่ะ”

ความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้ในมุมมองของฟรีน

“ความเป็นไรเดอร์ค่ะ เพราะทุกวันนี้เราใช้บริการพี่ไรเดอร์อยู่ตลอดเวลา หนูเป็นแค่ผู้ใช้บริการปกติธรรมดาทั่วไป แต่เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วไรเดอร์แต่ละคนต้องเจอะเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง เจอลูกค้าแบบไหนมาก่อน เขาเคยไปรับออร์เดอร์หรือเคยเจอออร์เดอร์ประหลาด ลึกลับ สยองขวัญแบบในเรื่องนี้บ้างไหม ซึ่งหนูคิดว่าพอภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดอีกมุมหนึ่งของอาชีพไรเดอร์ ก็จะทำให้เรารู้สึกแปลกใหม่แบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อาชีพพี่เขาต้องไปทุกที่ บางสถานที่เราไม่รู้จักแต่พี่เขารู้ มันต้องมีอยู่แล้วกับเรื่องความน่าขนลุกระหว่างทำงาน การเอาอาชีพของไรเดอร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง เป็นตัวที่พาเราไปในที่หลอนๆ แค่นี้ก็สนุกน่าติดตามแล้วค่ะ

“หนูขอฝากผลงานเรื่อง “ไรเดอร์” ด้วยนะคะ พวกเราทั้งพี่ฟู, พี่โอ้,พี่โน่, พี่อาร์ต, หนู และทีมงานทุกคนเต็มที่กับหนังมาก อยากให้คนที่มาดูได้เดินออกจากโรงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความสนุก อยากให้ทุกคนได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมๆ กัน ขอบคุณค่ะ”

ไรเดอร์เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

Words: Sritala Supapong

Photos: Courtesy of Sahamongkolfilm

you might like

คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำพลิกโฉมวงการแพทย์แผนจีน”กระจกตรวจโรคอัจฉริยะ AI” และ” หุ่นยนต์ เสี่ยวคัง AI”  ครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมประกาศจัดงาน “ก้าวล้ำ คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว พัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง” ครั้งที่ 2

Scroll to Top