เมษายน-พฤษภาคม ช่วงเดือนวันหยุดยาวชุกสุดๆ ส่งผลให้ยอดจองที่พักทั่วเอเชียพุ่งกระฉูด โดยเฉพาะเมืองสวยน่าเที่ยวที่มีห้องพักราคาถูกและดีมีอยู่จริง The Optimized ชวนกดเอฟเมืองใดที่มีราคาห้องพักเฉลี่ยต่ำสุดที่ 1,022 บาท
1.อุดรธานี, ไทย(ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,022 บาท)
สวนสาธารณะหนองประจักษ์
Photo: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
อุดรธานีครองอันดับ 1 ในปีนี้ เบียดขอนแก่นแชมป์เก่าปี 2023 อุดรฯ เป็น 1 ใน 4 เมืองใหญ่ในภาคอีสานที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น สวนสาธารณะหนองประจักษ์ที่มีทะเลสาบล้อม ประตูมังกร พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ฯลฯ ทั้งยังเดินทางไปง่ายเพราะมีสนามบิน และเพียงข้ามฝั่งแม่น้ำโขงไปก็ไปเที่ยวต่อที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาวได้สะดวกสุดๆ
2.สุราบายา, อินโดนีเซีย(ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,423 บาท)
Suramadu Bridge
Photo: indonesia.travel
เมืองใหญ่ในชวาตะวันออกที่ได้ชื่อว่า ‘อัญมณีแห่งอินโดนีเซีย’ ด้วยความที่เป็นเมืองท่าสุดเจริญ ซึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่อยู่เคียงตึกระฟ้า มีวัฒนธรรมที่ผสมผสานทั้งอิทธิพลของชวา จีน และอาหรับ ซึ่งซื้อหางานฝีมือเป็นของที่ระลึกได้ที่ตลาด Pasar Atom และชิมเมนูพื้นถิ่นอย่าง Lontong Balap และ Sate Klopo
3.เว้, เวียดนาม(ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,569 บาท)
พระราชวังเมืองเว้
Photo: www.traveloka.com
ตอนกลางของเวียดนามคือเมืองหลวงเก่าของราชวงศ์เหงียน จึงเต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวังเมืองเว้ (Hue Complex) ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก และล่องเรือชมวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมริมสายน้ำ Perfume River ที่ไหลผ่านเมือง ได้ยลเว้ในอีกมุมมองหนึ่ง
4.กูชิง, มาเลเซีย(ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,788 บาท)
Bako National Park
Photo: bakonationalpark.com
เมืองหลวงของรัฐซาราวักที่ธรรมชาติแทรกซ่อนอยู่ทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะที่ Bako National Park อุทยานแห่งชาติที่มีทั้งป่าฝน สัตว์ป่า และชายหาดรวมอยู่ในที่เดียว กูชิงซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ริมแม่น้ำซาราวัก ยังเป็นแหล่งศิลปะและงานฝีมือที่ชมช้อปได้ที่ Main Bazaar, Carpenter Street และ Sunday Market ตลาดและถนนคนเดินสุดฮิต
5.อีโลอีโล, ฟิลิปปินส์(ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,818 บาท)
Islas de Gigantes
Photo: Traveloka
ตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางประเทศพอดี อีโลอีโลจึงมีอีกชื่อว่า ‘หัวใจของประเทศ’ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวขวัญใจนักเดินทางอย่าง Islas de Gigantes อีกทั้งกลุ่มเกาะแห่งนี้ยังมีทั้งหาดทรายขาว ทะเลสาบ และอาหารทะเลสด หรือใครอยากสวมวิญญาณเป็นนักสำรวจก็นั่งเฟอร์รีจากบาโกลอดไปชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งได้
6.เบงกาลูรู, อินเดีย(ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,000 บาท)
The Glass House, Lalbagh Botanical Garden
Photo: Britanica
เมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีที่ได้ฉายาว่า ‘ซิลิคอนแวลลีย์แห่งอินเดีย’ แต่ไม่ได้มีแค่ความล้ำ เพราะที่นี่คือเสน่ห์ของโลกเก่ามาบรรจบกับโลกแห่งความทันสมัย อดีตและอนาคตสร้างให้ปัจจุบันของเมืองแห่งนี้น่าหลงใหล เช่น พระราชวังบังกาลอร์อันงดงาม และวัดนันดีที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 รวมไปถึงอาหารอินเดียใต้ที่ใครมาต้องชิม
7.นาริตะ, ญี่ปุ่น(ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,582 บาท)
Omotesando
Photo: Japan- Guide.com
‘สนามบินนานาชาตินาริตะ’ คือประตูสู่โตเกียว ทว่าเมืองนาริตะในจังหวัดชิบะของญี่ปุ่นไม่ได้เป็นแค่ประตูหน้าด่านหรือเป็นเมืองผ่าน แต่ยังมีมุมสะกดสายตาให้หยุดเที่ยวที่เมืองนี้มากมาย อาทิ วัดชินโชจิ ถนนนาริตะซัง โอโมเตะซันโดดั้งเดิม และถนนที่เรียงรายไปด้วยดอกซากุระผลิบาน
8.เกาสง, ไต้หวัน(ราคาห้องพักเฉลี่ย 3,672 บาท)
Taipei Dome
Photo: Taipei Times
เมืองใหญ่อันดับสองของไต้หวันที่มีทั้งสนามบินนานาชาติ รถไฟความเร็วสูงไปไทเปและเถาหยวน จึงเดินทางเข้าถึงง่ายสุดๆ ได้ไปชมเมืองแบบเร็วทันใจ ไม่ว่าจะเป็นเขตหยานเฉิงที่ควรค่าแก่การเดินชมสตรีทอาร์ต ช้อปปิ้งในโกดังบนท่าเรือ หรือชมแลนด์มาร์กใหม่ที่ชาวไต้หวันภูมิใจอย่าง ‘Big Egg’ หรือไทเปสเตเดียม สนามกีฬาสุดบิ๊กที่รองรับผู้คนได้ราวๆ 85,000 คน ซึ่งเพิ่งจัดคอนเสิร์ตซูเปอร์สตาร์ระดับโลก Coldplay และ Blackpink
Words: Sritala Supapong