กระแสการฉีดวัคซีนตอนนี้ เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียลไม่เว้นแต่ละวัน เพราะจำนวนคนที่อยากฉีด กับจำนวนวัคซีนที่จะนำมาฉีดเกิดไม่สอดคล้องกัน อีกทั้งกระแสความไม่เชื่อมั่นในตัววัคซีนที่ภาครัฐเลือกนำมาใช้ในปัจจุบัน ทำให้เกิดการเรียกร้องให้นำวัคซีนกลุ่ม mRNA เข้ามา โดยมีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเปิดรับจองวัคซีนกลุ่ม mRNA กันอย่างคึกคักในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่า วัคซีน mRNA จะเข้ามาพร้อมฉีดได้เมื่อไร ทำให้คนที่พอจะมีกำลังทรัพย์และเวลา ตัดสินใจเดินทางไปฉีดวัคซีนที่ต่างประเทศกันจำนวนพอสมควร
โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา admin ได้รับคำเชื้อเชิญจากเพื่อนที่พำนักอยู่ที่นั่นให้บินไปฉีดตั้งแต่ในประเทศไทยยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กันเลย และนอกจากจะเลือกแบรนด์วัคซีนได้เองแล้ว (มี 3 แบรนด์คือ Pfizer, Moderna และ Johnson & Johnson) ขั้นตอนการฉีดยังไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ลงทะเบียนในระบบ เลือกวันเวลาและสถานที่ฉีด ที่เลือกได้จากลิสต์ที่จะบอกเลยว่า สถานที่ไหนฉีดวัคซีนแบรนด์อะไร
รัฐที่เปิดให้นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าไปและขอรับการฉีดวัคซีนในสหรัฐอเมริกา ณ ปัจจุบันมีจำนวน 22 รัฐ (ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ) ได้แก่ อลาบามา, แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, โคโลราโด, ไอโอวา, ลุยเซียนา, แมรีแลนด์, มิชิแกน, มินนิโซตา, มอนทานา, เนวาดา, นิวแฮมป์เชียร์, นิวเม็กซิโก, นอร์ท แคโรไลนา, นอร์ท ดาโกตา, โอไฮโอ, โอคลาโฮมา, เพนซิลวาเนีย, เซาท์ แคโรไลนา, เทนเนสซี, เท็กซัส และเวอร์จิเนีย ส่วนรัฐอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ เปิดให้ฉีดวัคซีนสำหรับคนต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในรัฐนั้น ไปเรียน หรือมีใบอนุญาตทำงานจากต่างรัฐ เท่านั้น
วันนี้ The Optimized มีคำแนะนำสำหรับคนที่อยากจะเดินทางไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐอเมริกาจะต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันค่ะ
- ศึกษากฎระเบียบข้อบังคับหรือข้อจำกัดให้ชัดเจน ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้างหรือไม่ คุณจะได้วางแผนการเดินทางได้ถูกต้อง เช่น หากจะบินไปนิวยอร์ก คุณจะไม่สามารถรับวัคซีนได้ เพราะไม่ได้อยู่ใน 22 รัฐที่เปิดให้ฉีดวัคซีนได้ หากคุณยืนยันจะบินลงที่นิวยอร์กและต่อสายการบินในประเทศไปยังเมืองอื่นๆ ที่อยู่ในรัฐที่เปิดให้ฉีดวัคซีนได้นั้น ก็ต้องศึกษาให้ดีเกี่ยวกับกฎการเดินทางในประเทศของสหรัฐอเมริกาด้วย
- เอกสารการเดินทางที่ต้องการใช้เพิ่มเติม นอกจากพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน และวีซ่าเข้าประเทศนั้นๆ แล้ว มีอะไรอีกบ้าง เช่น เอกสาร Fit to Fly Health Certificate เอกสารผลการตรวจโควิดแบบ RT-PCR ที่จำเป็นต้องออกภายในเวลา 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ฯลฯ เอกสารทั้งหมดควรทำสำเนาไว้ 3-5 ชุดติดตัวไว้ด้วยเพราะอาจจะมีการเรียกขอสำเนาเอกสารจากหน่วยงานทั้งในประเทศไทยขณะจะเดินทางออก หรือประเทศปลายทางเมื่อเดินทางไปถึง และการจัดเตรียมเอกสาร COE เมื่อจะเดินทางกลับเข้าประเทศไทย รายละเอียดการขอเอกสารและขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย
- ศึกษาสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันของประเทศหรือเมืองปลายทาง เนื่องจากในสถานการณ์การแพร่ระบาด อาจจะมีการออกคำสั่งข้อบังคับใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาหรือมีการเปลี่ยนแปลงแบบปัจจุบันทันด่วน การศึกษาข้อมูลไว้ จะทำให้เตรียมการและวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กรณีไม่ได้ซื้อทัวร์วัคซีน แต่เดินทางเอง ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายค่าอยู่ค่ากิน ตลอดระยะเวลาที่พำนักเพื่อรับวัคซีน ซึ่งแต่ละเมืองที่ไป ก็จะมีอัตราค่าครองชีพต่างกันไป ถ้าเลือก Johnson & Johnson ใช้เวลาในการเดินทาง 7-10 วัน (กรณีซื้อทัวร์ไป ค่าใช้จ่ายจะตกประมาณ 80,000 บาทขึ้นไป ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการกลับมากักตัวที่ประเทศไทย) เพราะฉีดเข็มเดียว แต่หากเป็น Moderna หรือ Pfizer ก็ต้องมีเวลา 21-30 วัน (ยังไม่รวมเวลากักตัวในไทยเมื่อเดินทางกลับมา) เพราะต้องฉีด 2 เข็ม ระยะเวลาห่างกัน 3-4 สัปดาห์
- เผื่อเวลาสำหรับการกักตัวในประเทศไทยเมื่อเดินทางกลับมาแล้ว แม้ว่าคุณจะได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม และต้องจ่ายค่าโรงแรมกักตัว (AQ) เอง หากคุณทำงานประจำก็ต้องคำนวณเวลาให้ดี ยกเว้นเสีย แต่ว่า ที่บริษัทของคุณทำงานแบบ Work From Home คุณก็อาจจะใช้วันลาแค่สำหรับช่วงวันเดินทางเท่านั้น เพราะช่วงพำนักรอวันฉีดวัคซีนเข็มที่สองกับช่วงกักตัว คุณยังสามารถทำงานได้อยู่ ซึ่งปัจจุบัน มีบางจังหวัดท่องเที่ยวในไทยที่อนุโลมเรื่องการกักตัวสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว อาทิ โครงการสมุยพลัส หรือโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง แต่ต้องพำนักในโรงแรม SHA Plus รวมถึงท่องเที่ยวในภูเก็ตเป็นเวลา 14 วันก่อนเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้ โดยโรงแรมแรกที่เข้าพักต้องอยู่ไม่น้อยกว่า 7 คืน จึงจะเปลี่ยนโรงแรมได้ ทั้งนี้ ระยะเวลาการฉีดวัคซีนจนถึงวันเดินทางเข้าภูเก็ตต้องไม่น้อยกว่า 14 วัน ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3-4 รัฐบาลยังมีแผนจะเพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัวเพิ่มเติม
- ควรตรวจสอบข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสายการบินที่จะใช้บริการ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาด อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเที่ยวบินได้ตลอดเวลา รวมถึงอาจจะมีกฎข้อบังคับหรือข้อห้ามใดๆ เพิ่มเติมจากสถานการณ์ปกติได้ด้วยเช่นกัน
- อุปกรณ์ป้องกันตัวส่วนบุคคล ได้แก่ เจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป หน้ากากอนามัย ควรเตรียมไปให้เพียงพอตลอดเวลาที่พำนักอยู่ ณ ประเทศปลายทาง เพราะอาจจะเป็นสินค้าขาดแคลนของประเทศนั้นๆ รวมถึงทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดพื้นผิวต่างๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนตัว และยาประจำตัว ที่จะต้องศึกษากฎระเบียบข้อห้ามนำเข้าของประเทศปลายทางด้วยว่า ยานั้น ถูกจำกัดการนำเข้าหรือจำกัดจำนวนการนำเข้าหรือไม่
- ฉีดวัคซีนโรคที่มีโอกาสติดเชื้อจากต่างถิ่น เช่น วัคซีนหัดเยอรมัน โปลิโอ อีสุกอีไส ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ตับอักเสบ ฯลฯ รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าประเทศปลายทางมีข้อกำหนดเพิ่มเติมวัคซีนโรคอื่นใดอีกหรือไม่
- อย่าลืมทำประกันเดินทางไว้ก่อนเดินทางด้วยนะคะ เพราะคุณอาจจะมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ ซึ่งค่าบริการทางการแพทย์ที่ต่างประเทศจะมีอัตราที่สูงมาก ถ้าคุณถือประกันสุขภาพไว้อยู่แล้ว หากเจ็บป่วยต้องสำรองเงินไปก่อนทุกกรณี แต่ถ้าเป็นประกันเดินทาง จะไม่ต้องสำรองจ่ายสำหรับการรักษาตัวแบบคนไข้ใน หรือคนไข้นอกในบางอาการหรือบางโรค ยังไงเสีย มีประกันไว้ให้อุ่นใจ ถึงไม่ได้ใช้ ยังดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะคะ
และสำหรับใครที่มองว่าการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาอาจจะยุ่งยากเกินไป ลองพิจารณาประเทศอื่นๆ ที่เปิดรับชาวต่างชาติเข้าไปฉีดวัคซีนได้ มีหลายประเทศ
อาทิดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดให้ฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าผู้อยู่อาศัยหรือวีซ่าการทำงานระยะไกล
มัลดีฟ กำลังจัดทำแผนฉีดวัคซีนพ่วงไปกับแผนดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมอริเชียส เปิดให้ยื่นขอ “พรีเมียมวีซ่า”ที่จะพำนักในมอริเชียสได้นานถึง 1 ปีในฐานะนักท่องเที่ยวและได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนฟรี
รัสเซีย ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาฉีดวัคซีน แต่ก็มีบริษัททัวร์หลายแห่งในนอร์เวย์ จัดเตรียมโปรแกรมทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวและรับวัคซีนสปุตนิควี
เซอร์เบีย เคยเปิดฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติมาแล้วช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ได้หยุดไป ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดรับชาวต่างชาติให้ไปฉีดวัคซีนได้อีกเมื่อไร
สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจในรายละเอียดของการเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสายการบินที่จะใช้ในการเดินทาง หรือสถานทูตของประเทศปลายทางในประเทศไทย เพื่อข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และขอให้การเดินทางของคุณเป็นไปโดยสวัสดิภาพนะคะ
#ฉีควัคซีน #ฉีดวัคซีนต่างประเทศ #เดินทางไปต่างประเทศ