‘หลานม่า’ กลับไปคิดถึงโมเมนต์เล็กๆของลูกหลานขี้ลืมกับคนแก่ช่างคิดถึง

สำหรับคนที่โตมาด้วยสองมือยายเลี้ยงมา เห็นหน้าหนังแล้วรู้ชะตากรรมเลยว่าต้องร้องไห้หนักมากแน่ๆ แต่ ‘หลานม่า’ นั้นผิดคาด เพราะเล่นเอาร้องไห้ไปทุกวินาทีที่ถูกหนังเรื่องนี้ห่อหุ้มไว้

The Optimized ชวนสปอยล์หนังไทยน้ำดีแห่งปีว่าฉากไหน ประโยคใด ทำคุณร้องไห้หมดอายในโรง!

SPOILER ALERT! บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนัง

1.ลิ้นชักพลาสติก

เราเคยเกลียดลิ้นชักพลาสติกแบบนี้ของยายมาก เพราะมันรก แต่วันนี้มันคือลิ้นชักที่เก็บวันเวลาของยาย และความทรงจำที่เรามีต่อยาย ลิ้นชักของอาม่าก็ทำหน้าที่นี้กับเอ็มเช่นกัน

2.อาม่ายอมเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่

เอ็มถามว่ารองเท้าอาม่าคับขนาดนี้ ยังจะใส่อยู่ได้ หากนั่นเป็นรองเท้าที่กู๋เคี้ยง ลูกชายคนโตของอาม่าซื้อให้ ต่อให้มันกัด มันบีบ มันรัดจนเท้าแดงปวดเหลือเกิน อาม่าก็ยังใส่รองเท้าคู่นี้อยู่ ทว่าอีกมุมหนึ่งคือลูกชายไม่ได้รู้ หรือไม่ได้ใส่ใจเลยว่าแม่ใส่รองเท้าเบอร์อะไร สักแต่ว่าซื้อๆมาให้เพื่อแสดงความ ‘กตัญญู’  

Photo: GDH

3.หลังวันเชงเม้ง

อาม่าบอกว่าดีใจที่วันเชงเม้งมีลูกหลานมาพร้อมหน้าพร้อมตาเต็มไปหมด แต่หลังวันเชงเม้งนี่สิ “กับข้าวเหลือเยอะแยะ กูต้องนั่งกินคนเดียวห่างกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ระดับความเหงาต่างกันลิบลับ

4.กินข้าวยัง = บอกรัก

พอลูกหลานคนดีได้บ้านไปก็จัดการขายทันควัน แล้วให้อาม่าไปอยู่บ้านพักคนชรา ครั้นเอ็มไปเยี่ยม คำแรกที่อาม่าตื่นขึ้นมาเห็นหน้าหลานคือ “กินอะไรกันมาหรือยัง” ประโยคธรรมดาและเรียบง่ายที่ไม่ได้แสดงอาการเสียใจหรือกล่าวโทษลูกหลานเลยแม้สักนิด

5.ทับทิมของเอ็ม

ต้นทับทิมหน้าบ้าน อาม่าจะคอยเล็ม คอยรดน้ำ พอมีลูกก็เอาถุงมาห่ออย่างดี ใครจะกินก็ไม่ได้ ทับทิมต้นนี้ อาม่าปลูกเองกับมือตอนที่เอ็มเกิด เอ็มเคยบอกว่าให้เก็บลูกไว้ให้เอ็มกินด้วยนะ และเมื่อทับทิมสุก อาม่าก็ได้ทำตามสัญญา

Photo: GDH

6.กระดุมเม็ดล่าง

เอ็มปลดกระดุมเสื้อเม็ดล่างให้อาม่า ด้วยจำได้ว่าอาม่าไม่ชอบใส่กระดุมเสื้อเม็ดล่างเพราะอึดอัด เจ้าหลานแซวอาม่าว่าโชว์เซ็กซี่เหรอ พอเอ็มปลดกระดุมเสื้อให้อาม่าที่ยิ้มแล้วบอกว่า “อยากโชว์เซ็กซี่อยู่พอดีเลย”

7.พาอาม่ากลับบ้าน

เอ็มไปหาอาม่าที่บ้านพักคนชราแล้วพูดสั้นๆว่า “ป่ะ ม่า กลับบ้านกัน” อาม่าตอบรับด้วยการบีบมือเอ็ม

8.ความทรมานอันเดียวดาย

อาม่านอนปวดท้องทรมานมาก แกร้องครวญครางว่า “พ่อแม่มารับหนูไปที หนูอยากตาย” บางทีความตายไม่ใส่สิ่งเลวร้ายที่สุด แต่การอยู่อย่างทรมานต่างหากที่เจ็บปวดยิ่งกว่า

Photo: GDH

9.เงินค่าขายโจ๊ก

แม้จะอายุมากแล้ว แต่อาม่ายังไปขายโจ๊กไม่ได้ขาด เงินที่ขายโจ๊กมาได้ แกจะฝากธนาคารเอาไว้ เวลาจะไปธนาคาร แกไม่อยากให้เอ็มเข้าไปข้างในด้วย เพราะแท้จริงแล้ว เงินค่าขายโจ๊กทั้งหมดนั้น แกเอาไปเปิดบัญชีไว้ให้เอ็ม หลานที่แกชอบดุชอบว่าคนนี้คือที่หนึ่งในใจอาม่ามาตลอด   

10.เอ็มบอกทางอาม่า

ตอนเอ็มพาอาม่าไป ‘บ้านใหม่’ เอ็มคอยบอกทางอาม่าตลอด “นี่ถึงร้านโจ๊กแล้วนะ…ถึงสะพานแล้วนะ…ถึงบ้านใหม่แล้วนะ” ในขณะที่อาม่านอนหลับในโลง

11.เสื้อที่อาม่าซื้อให้คือเสื้อที่สวยที่สุด

วันที่ส่งโลงอาม่าไปสุสาน เอ็มใส่เสื้อที่อาม่าซื้อให้ ฉากนี้ทำให้เราคิดถึงเสื้อผ้าเชยๆ ลวดลายสีสันประหลาดที่แม่ชอบซื้อให้แล้วเราไม่เคยคิดจะหยิบมาใส่ เพราะว่าอาย จนกว่าจะถึงวันที่คนซื้อให้ไม่อยู่แล้วนั่นละ…มันจะกลายเป็นเสื้อที่สวยที่สุดไปในทันที

Photo: GDH

12.เอ็มตั้งใจโรยดอกไม้ชุ่ยๆ

“ฮวงซุ้ยกู ถ้ามึงหว่านดอกไม้ชุ่ยๆ กูจะมาหลอกมึง” อาม่าสั่งเสียไว้ดิบดี แต่เจ้าเอ็มตัวดีกลับจงใจหว่านดอกไม้ชุ่ยๆ แล้วนั่งรอ ทันใดลมก็พัดมา คนดูกับเอ็มแทบจะได้ยินเสียงอาม่าที่มาพร้อมกับสายลมว่า “กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าหว่านดอกไม้ชุ่ยๆแบบนี้!”

ดีใจกับเอ็มจัง อาม่ากลับมาหาแล้ว

เราเป็นคนหนึ่งที่เลิกกลัวผีตั้งแต่วันที่ยายตาย เราจะดีใจมากด้วยซ้ำถ้าได้เจอแกอีกครั้ง

Photos: GDH

Words: Sritala Supapong

you might like

Scroll to Top