The 8 Show ดาร์กคอเมดี้เสียดสีทุนนิยม เมื่อผู้นำบ้าอำนาจและชนชั้นล่างอยากปฏิวัติ

ผู้เขียนเป็นแฟนภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) และขณะเดียวกันก็ชื่นชอบทั้งภาพยนตร์เรื่องยึดด่วน วันสิ้นโลก (Snowpiercer) และซีรีส์เรื่องปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง (Snowpiercer) ตลอดจนภาพยนตร์เรื่อง ชนชั้นปรสิต (Parasite) และเดอะ แพลตฟอร์ม (The Platform) โดยทั้ง 5 เรื่องนี้นำเสนอปมความแตกต่างทางชนชั้นและความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตลอดจนพฤติกรรมแก่งแย่งชิงดีเพื่อแสวงหาคุณภาพชีวิตที่มองว่าควรค่า

ใจความสำคัญตลอดจนปมปะทุต่างๆ ถูกจับมาบอกเล่าอีกครั้งในซีรีส์เรื่องใหม่ของเน็ตฟลิกซ์อย่าง The 8 Show: เกมโชว์เลือดแลกเงิน ที่เราจะมาวิเคราะห์ปมตัวละครและจับชนเข้ากับความเจ็บปวดของระบบทุนนิยมในชีวิตจริง

ภายใต้ระบบชนชั้นอันบูดเบี้ยว คุณเป็นใครใน 8 คนนี้?

Photo: Courtesy of Netflix

SPOILER ALERT!

เราจะยอมแลกเลือดเพื่อเงินไหม?

ดาร์กคอเมดี้เรื่องนี้เล่าเรื่องผ่านความตลกเสียดสีระบบทุนนิยม เมื่อรายการเรียลิตี้รายการหนึ่งเชิญผู้เข้าแข่งขันผู้สิ้นหวังทั้ง 8 คน ให้มาใช้ชีวิตในรายการ โดยให้แต่ละคนเลือกหมายเลขห้องตั้งแต่ 1-8 โดยชั้น 1 อาศัยอยู่ล่างสุด และชั้น 8 อาศัยอยู่บนสุด โดยบอกกติกาเพียงคร่าวๆ ดังนี้

  • ในทุกๆ ชั่วโมงตลอดระยะเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันอยู่ในห้องของตัวเอง จะได้รับเงินเพิ่มขึ้น เมื่อจบเกมเงินเหล่านี้จะเป็นเงินที่พวกเขาได้รับในชีวิตจริง
  • ผู้เข้าแข่งขันจะต้องอยู่ในห้องตามหมายเลขของตนตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนไปจนถึง 8 โมงเช้า และสามารถลงมาใช้ชีวิตในโถงส่วนกลางได้หลังจากนั้น
  • ภายในห้องของตัวเอง ผู้เข้าแข่งขันสามารถโทรสั่งสินค้าอะไรก็ได้ โดยจะหักค่าใช้จ่ายจากเงินที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และราคาสินค้าจะแพงกว่าสินค้าในชีวิตจริง 100 เท่า อีกทั้งไม่สามารถนำสินค้าที่สั่งออกมาใช้ในห้องโถงกลางได้
  • ห้องโถงกลางมีนาฬิกาที่นับถอยหลังอยู่ตลอดเวลา หากพวกเขายังอยากสะสมเงินรางวัลต่อ พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เวลาเพิ่มขึ้นนเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อเวลาเหลือ 0 เกมจะจบลงทันที
  • หากผู้เข้าแข่งขันอยากใช้สินค้าในห้องโถงกลาง ก็สามารถสั่งได้ที่บริเวณห้องโถงกลาง แล้วจะจ่ายด้วยค่าครองชีพพิเศษ ซึ่งหักออกจากเวลาที่สะสมตามที่ปรากฏในนาฬิกา
  • กติการยังย้ำอีกว่าหากมีผู้เสียชีวิต เกมจะจบลงทันทีเช่นกัน

Photo: Courtesy of Netflix

เวลาของเราไม่เท่ากัน

แม้ดูเหมือนว่ากติกาเอื้อให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้เม็ดเงินจำนวนมาก ทุกคนทราบดีว่าทั้ง 8 คนมีเวลาเท่ากันและได้รับเงินรายชั่วโมงเช่นกัน จึงดูเหมือนว่าการนอนกินเงินไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุขคงเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาคือเวลากำลังนับถอยหลังไปเรื่อยๆ จนในที่สุดผู้เข้าแข่งขันพบว่าการจะเพิ่มเวลาได้นั้นต้องเอนเตอร์เทนผู้ชมที่นั่งชมผ่านกล้องไลฟ์สดที่ติดตั้งทั่วอาคาร เมื่อผู้เข้าแข่งขันทำกิจกรรมสุดตื่นเต้น คนดูจะโหวตเพิ่มเวลาให้

จุดนี้เองที่เกมกำลังจำลองระบบการทำงานของมนุษย์เพื่อแลกกับสิ่งที่ปรารถนา

Photo: Courtesy of Netflix

หนีความ ‘ไม่เท่าเทียม’ มาเจอ ‘ความเหลื่อมล้ำ’

ไม่ใช่แค่โลกจริงเท่านั้นที่ปราศจากความเท่าเทียม ที่แห่งนี้ยังได้จำลอง ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ที่เกิดขึ้นในสังคม เมื่อค้นพบว่าหมายเลขห้อง 1-8 ได้จำนวนเงินรายชั่วโมงไม่เท่ากัน โดยหมายเลขที่สูงกว่าจะได้รับเงินรายชั่วโมงที่สูงกว่า และขนาดห้องชั้น 8 ก็จะมีขนาดใหญ่ที่สุดและลดหลั่นไปตามลำดับ

ดังนั้นหมายเลข 8 จึงได้รับเงินจำนวนมหาศาลที่สามารถสั่งสินค้า บริการอะไรก็ได้โดยไม่คณามือ และการที่เธอได้รับเงินรายชั่วโมงแบบอู้ฟู่ก็ทำให้เธอนั่งอยู่ในห้องอย่างสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องออกมาทำกิจกรรม ออกแรงทำงานเอนเตอร์เทนคนดู เธอเข้าใจดีว่า ‘เวลา 1 วินาทีของเธอแพงกว่าใครในที่นี้’

ตัดภาพมาที่หมายเลข 1 เขาได้ค่าตอบแทนรายชั่วโมงน้อยที่สุด จึงมีความปรารถนาที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เวลาและเงินเพิ่มให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

ความเหลื่อมล้ำยังไม่หมดเท่านี้ เกมยังสร้างให้ระบบขนส่งน้ำและอาหารสามารถลำเลียงจากบนลงล่างผ่านลิฟต์ขนของภายในห้อง นั่นหมายความว่าห้องชั้น 8 จะได้เห็นอาหารก่อนใครและสามารถจะเลือกเก็บไว้เองทั้งหมดก็ยังได้ แสดงถึงอำนาจที่เกมเอื้อให้กับชนชั้นสูงสุด ไม่ต่างอะไรกับนายทุนนิยมผู้มีเงินล้นฟ้าในโลกจริง

Photo: Courtesy of Netflix

ห้องหมายเลข 1 ชนชั้นล่างผู้โดนกดขี่

ซีรีส์จำลองให้หมายเลข 1 เป็นชายวัยกลางคนผู้น่าสงสารที่พิการขา เขาเข้าร่วมเกมเพราะอยากนำเงินไปช่วยเหลือลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคร้าย ซึ่งลักษณะทางกายภาพก็น่าสงสารอยู่แล้ว ยังโชคร้ายที่ดันไปเลือกได้หมายเลข 1

เขาพยายามพิสูจน์ตัวเองว่ามีความสามารถมากพอ ถึงขนาดยอมทำงานที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนปฏิเสธ นั่นคือการยอมใช้ห้องส่วนตัวที่แคบที่สุดเพื่อเก็บถุงปัสสาวะหรืออุจจาระของผู้เข้าแข่งขันรายอื่น

Photo: Courtesy of Netflix

ขณะเดียวกันเขาก็มีแรงขับเคลื่อนและความทะเยอทะยานที่สูงมากเพื่อที่จะมีเงินที่มากขึ้น เขาคิดหาทางให้ชนชั้นล่างอันได้แก่หมายเลข 1 2 3 5 (และมีช่วงทีร่วมมือกับ 4 และ 7) ร่วมมือกันเพื่อปฏิวัติสู้กับหมายเลข 6 กับ 8 ราวกับกลุ่มชนชั้นล่างในโลกจริงที่กำลังทวงความยุติธรรมและคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียม

เขาเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกมจบ ในช่วงที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนสาดความรุนแรงใส่กันจนล้ำเส้นความเป็นมนุษย์ไปมาก และไม่อยากได้อะไรอีกแล้วนอกจากอิสรภาพ ทุกคนอยากถูกปลดปล่อยในเกมนี้และพยายามทำให้เวลาในเกมหมดลง แต่หมายเลข 1 ไม่ยอม เพราะลึกๆ แล้วห้องเบอร์สูงๆ ต่างรับรู้ในใจว่าได้รับเงินที่พึงพอใจประมาณหนึ่งแล้ว

Photo: Courtesy of Netflix

แต่หมายเลข 1 ยังได้เงินน้อยมาก เขาจึงโกรธและจับทุกคนมัด และแสดงโชว์อันตรายเพื่อเอนเตอร์เทนผู้ชมหวังจะได้รับเวลาเพิ่ม จนสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุตกลงมาไฟครอกร่างเสียชีวิต อันเนื่องมาจากความพยายามต่อสู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีภายใต้ระบบทุนนิยมนั่นเอง

หมายเลข 2 เมื่อเธอสู้กับระบบทุนนิยม

หมายเลข 2 ยึดมั่นในความยุติธรรม เธอตั้งคำถามใส่หมายเลข 8 เนื่องด้วยมองว่าอภิสิทธิ์ต่างๆ นั้นเธอได้มาด้วยความบังเอิญ หนำซ้ำหมายเลข 8 ยังใช้อำนาจทำตามใจ เช่น สั่งเสื้อผ้าสวยๆ  อยู่อย่างหรูหรา มีอ่างอาบน้ำ เป็นต้น มีช่วงเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันโหวตกันเพื่อแบ่งหน้าที่ว่าใครจะเป็นผู้เก็บสิ่งปฏิกูล และผลโหวตออกมาที่หมายเลข 8 เนื่องจากเธอมีห้องที่กว้างขวางกว่าใคร แต่เธอกลับล้มกระดานและไม่เคยทำประชามติ

Photo: Courtesy of Netflix

เกมกำลังจำลองสังคมประชาธิปไตยจอมปลอมที่ไม่เคยเป็นประชาธิปไตย สังคมที่ปล่อยให้ทุกชนชั้นลงประชามติพอเป็นพิธี จากนั้นก็มีกลุ่มผู้นำที่สามารถชี้เป็นชี้ตายได้ว่าเกมควรออกมาเป็นอย่างไร (ฟังดูคุ้นๆ ไหมคะ)

หมายเลข 2 ยืนหยัดเพื่ออุดมการณ์และซัดหมัดหนักกับอันธพาลหมายเลข 6 ที่แท็กทีมมากับหมายเลข 8 จนหน้าปูดหน้าเบี้ยวอยู่หลายยก นี่ก็จำลองให้เห็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์และความเท่าเทียม กลับกลายเป็นผู้ที่เผชิญกับความรุนแรง ความข่มขู่ และอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 3 ผมควรทำอย่างไรดี

ซีรีส์ดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของหมายเลข 3 เป็นหลัก เขาเสมือนเป็นตัวแทนของคนบนโลกและคนดูตัวจริงอย่างเราๆ ที่หากเผชิญหน้ากับระบบทุนนิยมอันโหดร้ายเราจะทำอย่างไร อย่างไรคือสิ่งที่ถูก อย่างไรคือสิ่งที่ควรทำ

แต่แล้วตัวละครก็มีการพัฒนา เมื่อเขาตัดสินใจหยิบปืนขึ้นมายิงกล้องไลฟ์สดทั้งหมด เพื่อปิดโอกาสการมองเห็นจากผู้ชม ทำให้ผู้ชมไม่สามารถโหวตเพิ่มเวลาจากการดูความสยดสยองในเกมนี้ได้ ในที่สุดเวลาก็หมดไปจากการเสียชีวิตของเบอร์ 1

Photo: Courtesy of Netflix

สิ่งที่ชายผู้นี้ได้เรียนรู้คือ “ไม่เคยมีความเท่าเทียมอย่างแท้จริงบนโลก ไม่ว่าจะโลกนี้ หรือโลกไหน โดยเฉพาะโลกของทุนนิยม”  โลกจริงที่เขามีฐานะยากจน มีหนี้สินท่วมตัว จนมาสู่โลกเกมที่เหมือนจะหาเงินได้ง่าย และเกมก็ตอกหน้าเขาให้ยอมรับชะตากรรมอยู่ดี

แม้ความจริงอันน่าเจ็บปวดจะคงอยู่กับเราตลอดไป แต่เขาก็ยังมีมุมมองที่น่ารักกับเพื่อนมนุษย์ เขาเป็นแกนนำให้จัดการงานศพให้กับผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 1 นั่นคือสิ่งที่เพื่อนมนุษย์สามารถทำให้กันได้

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 4 ผู้พ่ายแพ้แก่อำนาจทุนนิยม

หมายเลข 4 ทำหน้าที่เหมือนเป็นนักล็อบบี้ยิสต์ ที่พยายามหว่านล้อมให้คนนั้นคนนี้ทำแบบนั้นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมประสาทเสียของหมายเลข 8 และแรกเริ่มเธอก็เป็นแกนนำให้ทุกคนโหวตให้หมายเลข 8 ใช้ห้องเพื่อเก็บสิ่งปฏิกูล

แต่หลังจากที่หมายเลข 8 ปล่อยให้ผลประชามติเป็นโมฆะ และจึงสำแดงเดชแก่ทุกชนชั้นด้วยการหยิบกล่องอาหารและน้ำทั้งหมดเททิ้ง จนชนชั้นล่างทุกชั้นไม่มีกินและหิวโหยจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด

Photo: Courtesy of Netflix

และครั้งนั้นหมายเลข 4 เข้าใจได้ทันทีว่าผู้กุมอำนาจในเกมคือใครและเธอควรวางตัวแบบไหน เธอจึงเป็นคนแรกที่ก้มหัวขอโทษและได้กลายเป็นข้ารับใช้ส่วนตัวไปตลอดทั้งเรื่อง กลายเป็นคนสูญสิ้นอุดมการณ์เพื่อการเอาตัวรอดและความสบายของตัวเอง นี่ไม่ต่างอะไรกับชีวิตจริง บางคนละทิ้งความเป็นมนุษย์เมื่อเอาชื่อเสียง อำนาจเงิน และตัวตนเป็นที่ตั้ง

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 5 ผู้หลีกหนีความเป็นจริง

ตัวละครหมายเลข 5 จำลองมาจากมนุษย์ผู้หัวอ่อน แท้จริงแล้วพื้นฐานเธอเป็นคนขี้เกรงใจ มีความเมตตาและโอบอ้อมอารี ในช่วงเวลาปฏิวัติที่เบอร์ 1 2 3 5 (และ 7) ร่วมมือกันจนสำเร็จ ขณะที่ฝ่ายชนชั้นสูงถูกจับมัดเป็นระยะเวลานาน และแก๊งชนชั้นล่างก็กำลังเสวยสุข

พวกเขาใช้ห้องเบอร์ 8 เป็นพื้นที่ส่วนรวม และสั่งสินค้าจากห้องนี้มาปรนเปรอความสุข เบอร์ 5 เสนอเป็น ‘อุปกรณ์กลั่นเหล้าโซจู’ เพราะเธอเคยเรียนมา

Photo: Courtesy of Netflix

และตลอดเวลาที่เธออยู่ในเกมนี้อย่างสิ้นหวัง ผู้ชมจะพบภาพเธอนั่งดื่มเหล้าในห้องอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่เสมอ

ปมในตัวละครนี้เกิดจากการโดนปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติในฐานะมนุษย์และภรรยาของสามี สามีนอกใจเธอบ่อยครั้ง และไม่เคยให้ความรักความอบอุ่น จนเธอหันไปพึ่งหนุ่มบาร์โฮสต์และสุดท้ายโดนหลอกลวง เธอนำที่ดินและทรัพย์สินของสามีไปจำนองพร้อมนำเงินไปให้หนุ่มบาร์โฮสต์ จนโดนสามีฟ้องจนล้มละลายก่อนมาเริ่มเกม

ในชีวิตจริงเรามีมนุษย์ผู้น่าสงสารที่โดนทำร้ายความรู้สึกและถูกปฏิบัติอย่างไร้ค่า ตลอดจนความผิดหวังที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลา บางคนอาจจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ แต่บางคนไม่ บางครั้งการหันไปหาความสุขต่างๆ ที่สามารถไขว่คว้าได้ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นจากชายหนุ่ม หรือเหล่าโซจูก็ตาม ฟังดูเหมือนเป็นทางออกที่ดี แต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงได้ นอกจากยอมรับอย่างมีสติ…และบ่อยครั้งมนุษย์ไม่มีสติ

Photo: Courtesy of Netflix

และขณะที่เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติในเกม เธอมักสติหลุด พูดคุยกับตัวเองและมองเห็นภาพหลอนตลอดเวลา เธอสร้างภาพในหัวที่เต็มไปด้วยผู้คนจิตใจงดงาม มีความสุข มีการเฉลิมฉลองตามสิ่งที่เธอคาดหวัง

เขาว่ากันว่าอาชญากรที่น่ากลัวที่สุดถือกำเนิดมาจากการถูกทำร้ายจิตใจ และช่วงที่จี้ปมเธอที่สุดคือหมายเลข 6 แกนนำอันธพาลชนชั้นสูงหลอกใช้ความเมตตาของเธอให้ช่วยปลดปล่อยจากการถูกมัด โดยสุดท้ายก็หักหลังเธอและพรรคพวกชนชั้นล่างของด้วยการใช้ความรุนแรงกุมอำนาจจนเกิดเหตุการณ์ยิงขาหมายเลข 7

สุดท้ายเธอจับหมายเลข 6 เฉือนอัณฑะ ตอนให้กลายเป็นขันที นี่นับว่าเป็นเรื่องที่มีสติหรือไม่มีสติก็ไม่รู้ ผู้อ่านตัดสินเอง แต่ผู้เขียนชอบค่ะ

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 6 อาวุธของชนชั้นปกครอง

หากจินตนาการถึงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในอุดมคติ คงหมายถึงผู้ที่มีอำนาจดูแลความสงบของคนหมู่มากในสังคม แต่หากเมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไม่ได้ทำเพื่อคนหมู่มาก แต่เอื้อเฟื้อให้กับอำนาจของชนชั้นปกครองเพียงหยิบมือละก็ นี่คือสิ่งที่เบอร์ 6 ทำอยู่

แม้ว่าคาแรกเตอร์ของตัวละครนี้สะท้อนถึงผู้ที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง แต่เขารู้ดีว่าในเกมเขาเป็นรองอำนาจเงินของเบอร์ 8 อยู่ ดังนั้นการจับมือกันย่อมดีกว่าเป็นศัตรูกัน

Photo: Courtesy of Netflix

เบอร์ 6 จับมือกับเบอร์ 8 เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเองด้วยการขู่กรรโชก ไม่ต่างอะไรกับนายทุนเงินหนาที่จ้างมือปืนและทหารรับใช้ประจำตัว ทั้งคู่บังคับให้หมายเลขที่อ่อนแอกว่าทำงานเพื่อเอนเตอร์เทนผู้ชมแลกกับเวลาที่เพิ่มขึ้น เขากลายเป็นบุคคลที่ทุกคนเกลียดเข้าไส้โดยเฉพาะเบอร์ 2 ผู้รักความยุติธรรม

ในช่วงการปฏิวัติ เบอร์ 6 โดนจับมัดมือมัดเท้า และโดนเบอร์ 1 ถอดเล็บเท้าด้วยความโกรธ และสุดท้ายโดนเบอร์ 5 จับตอนเป็นขันที โดยไม่มีใครห้าม นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความโกรธของชนชั้นล่างที่เปลี่ยน 2 ตัวละครที่มีเมตตา ให้กลายเป็นคนหัวรุนแรงจนสุดทาง

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 7 มันสมองที่โดนล้างสมอง

หมายเลข 7 เป็นคนที่มีความฉลาดสูงและมีความละเอียดรอบคอบ เขาจึงมักสังเกตสภาพแวดล้อมต่างๆ รอบตัวอยู่เสมอ เขาเป็นมันสมองในเกมที่ช่วยปลดล็อกปมปัญหาต่างๆ ทีละนิด จนไม่ว่าฝ่ายไหนก็ต้องการตัว

แม้พื้นฐานเขาไม่เห็นด้วยกับการเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มชนชั้นสูง แต่ก็ไม่อาจต่อกรกับอำนาจของเบอร์ 6 และเบอร์ 8 ได้ เขาจึงจำยอมโดยละม่อม และมีบ้างที่เขาบอกใบ้เพื่อช่วยเหลือให้กับพวกชนชั้นล่างทำการปฏิวัติ

Photo: Courtesy of Netflix

แท้จริงแล้วในชีวิตจริงการศึกษา ร่ำเรียนหรือการพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆ จะสามารถพาเราไปยังที่ต้องการได้ คุณจะกลายเป็นบุคคลที่โลกต้องการ แต่หากมองภาพที่ใหญ่กว่านั้น ทุนนิยมก็ต้องการคุณเช่นกัน และเมื่อเผลอแวบเดียว คุณก็กลายเป็นฟันเฟืองที่ทำให้ทุนนิยมเคลื่อนไป ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรความเหลื่อมล้ำในสังคมที่ไม่เคยจบสิ้น

แม้ว่าจะฉลาดเพียงใดแต่สุดท้ายเรื่องก็แสดงให้เห็นว่าเขากลายเป็นผู้รับกระสุนจากเบอร์ 6 เข้าที่ขาแบบเต็มเปา ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าความรู้ก็ยังพ่ายต่อระบบที่บูดเบี้ยว

Photo: Courtesy of Netflix

หมายเลข 8 ผู้ปกครองที่วิปลาส

ในขณะที่อันธพาลเบอร์ 6 แสดงถึงความฮึกเหิมอย่างโจ่งแจ้ง แต่เบอร์ 8 กลับมาพร้อมกับคาแรกเตอร์ที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ เธอมีความจิตอ่อนๆ และไร้ซึ่งความปราณีกับเพื่อนมนุษย์

โดยเมื่อเธอรับรู้ถึงอำนาจที่มีอยู่ในมือ เธอเลือกได้ว่าจะเก็บอาหารหรือน้ำไว้กับตัวเองหรือแบ่งปัน เธอจึงไม่แคร์เพื่อนร่วมโลกคนไหนและใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือยบนคอหอยเบอร์ 8 เธอใช้เวลาส่วนกลางสั่งซื้ออะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เสื้อผ้า หมา อ่างอาบน้ำ ฯลฯ โดยไม่มีใครกล้าหือ

เธอคือผู้ปกครองสังคมที่ปล่อยให้มีระบอบประชาธิปไตยไว้พอหอมปากหอมคอ แต่สามารถสั่งเปลี่ยนผลประชามติ ผลการเลือกตั้งอย่างไรก็ได้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับอำนาจของเธอ

Photo: Courtesy of Netflix

เธอดึงคนที่อ่อนแอกว่ามาสวามิภักดิ์เพื่อสร้างอาณาจักร เธอสั่งให้คนอื่นทำงานให้และมองเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีความสุข เธอใช้ความแข็งแกร่งของเบอร์ 6 มาเป็นอาวุธ ก่อนจะยิงปืนช็อตไฟฟ้าจนเขาหลังหัก 2 ท่อนในบทสุดท้าย

เธอดึงเบอร์ 4 มาเป็นทาสรับใช้ เธอดึงเบอร์ 7 ใช้ช่วยเป็นกุนซือให้กับระบบปกครองอันบูดเบี้ยว เธอดึงเบอร์ 5 ให้มาช่วยปฐมพยาบาลเหยื่อจากการกระทำอันวิปลาสต่างๆ

แต่แท้จริงแล้ว ‘ความอภิสิทธิ์’ เป็นแค่ความบังเอิญ เธอไม่ได้รู้ก่อนหน้าด้วยซ้ำว่าเบอร์ 8 คือห้องที่โชคดีที่สุด ไม่ต่างอะไรกับอำนาจที่ไปตกอยู่ในมือผู้ที่มีจิตใจมืดบอด

Photo: Courtesy of Netflix

แต่คำถามคือหากคุณเป็นเธอแล้วรู้ว่าตัวเองได้อยู่ในห้องเบอร์ 8 คุณจะแสดงความเมตตา ยอมเอาเงินอันมหาศาลนี้ซื้อสิ่งของที่จำเป็นกับทุกคน แล้วแจกจ่ายลงไปยังลิฟต์ขนของหรือไม่ หรือคุณจะแสดงอำนาจและดึงดูดคนให้ทำงานให้ และสร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไป โดยที่ผลลัพธ์สุดท้ายเงินที่เหลืออยู่จะกลายเป็นเงินในชีวิตจริงของคุณ

 

และคำถามสุดท้ายคุณเป็นใครในระบบทุนนิยมในชีวิตจริง?

Photo: Courtesy of Netflix

Words: Varichviralya Srisai

Photo: Photo: Courtesy of Netflix

you might like

Scroll to Top