ผ้าอะไรเอ่ยคือเอกลักษณ์ของ CHANEL ที่แบรนด์ไหนเอาไปทำก็ไม่เกิด

แม้ในยามที่ Chanel ไม่มีครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ เนื่องจากอยู่ในช่วงสุญญากาศหลังจาก Virginie Viard ลูกหม้อที่อยู่กับแบรนด์มาหลายทศวรรษลาออกไป ทว่าทีมดีไซน์ของแบรนด์ก็รู้กันดีว่าจะทำคอลเล็กชั่น Spring-Summer 2025 อย่างไรให้ตะโกนว่า Chanel! ดังกึกก้องไปทั่ว Grand Palais สถานที่จัดแฟชั่นโชว์ของแบรนด์มานานกว่า 20 ปี

เมื่อลุคต่างๆ เกินครึ่งใน SS25 โดยไม่ต้องมีโลโก้ตัวซีคู่ หรือชื่อแบรนด์ CHANEL ทุกคนรับรู้ได้ทันทีว่า นี่ละ Chanel ที่แท้ทรูโดยดูจาก ผ้าทวีด

Photo: X@jacquemusx

ผ้าทวีดกลายเป็นเอกลักษณ์หนึ่งตั้งแต่ Coco Chanel ก่อตั้งแบรนด์ยุคแรกๆ โดยในปี 1924 เธอมีแฟนใหม่เป็นหนุ่มผู้ดีอังกฤษ High Grosvenor หรือดยุคที่สองแห่งเวสต์มินสเตอร์ ชายที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษในยุคนั้น ทั้งสองคบหากันโดยที่ดยุคยังแต่งงานอยู่ โกโกสาวฝรั่งเศสมักพักแรมที่ Reay Forest ‘คฤหาสน์สำหรับการกีฬา’ ของแฟนหนุ่มทางตะวันตกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ เธอได้คอนเน็กชั่นเพื่อนพ้องชนชั้นสูง ไอเดียธุรกิจ และเสื้อผ้าจากแฟนหนุ่มผู้ร่ำรวย

โกโก ชาแนลใส่แจ็กเก็ตทวีดของดยุคแห่งเวสต์มินสเตอร์ (คนซ้ายมือ) จุดกำเนิดสไตล์ Boyish

Photo: www.dailyrecord.co.uk

เวลาไปพักที่คฤหาสน์ในสกอตแลนด์ ดยุคและเพื่อนพ้องผู้ชายสังคมชั้นสูงจะใช้เวลาไปกับการตกปลาล่าสัตว์ และพวกเขาแต่งตัวเหมือนกันราวกับใส่ยูนิฟอร์มประจำชนชั้น นั่นคือจะต้องใส่แจ็กเก็ตผ้าทวีดเมื่อออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ล่าสัตว์ ตกปลา เล่นโปโล ตีกอล์ฟ ฯลฯ ในทางหนึ่ง ทวีดจึงไม่ใช่แค่ผ้า แต่เป็นเครื่องแสดงชนชั้นและวิถีชีวิต

โกโกเองก็ชอบตกปลาเหมือนกัน เธอชอบขโมยแจ็กเก็ตทวีดของแฟนหนุ่มมาใส่ ซึ่งพออยู่ตัวบนเธอแล้วหลวมโคร่ง กลายเป็นเทรนด์เซตเตอร์สไตล์โอเวอร์ไซซ์มาตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อน

ผ้าทวีดได้ชื่อมาจาก River Tweed แม่น้ำทางตะวันออกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์ นิยมทอจากวูลเพื่อสร้างความอบอุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศทารุณของดินแดนแห่งที่ราบสูงสกอตแลนด์ และมักเป็นผ้าทวีดสีทึมๆ อย่างสีเขียว ม่วง แดง เพื่อปกปิดรอยสกปรกและเป็นสีของชนบทสกอตแลนด์

ในสกอตแลนด์มีโรงงานผ้าทวีดดีๆ หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ Linton Tweeds ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1912 วันหนึ่งในปี 1928 Captain Molyneux กูตูริเยร์จากห้องเสื้อชั้นสูงในปารีสแนะนำให้เจ้าของโรงงานผ้าทวีดได้รู้จักกับสุภาพสตรีชาวฝรั่งเศส หลังจากนั้นเป็นต้นมา ห้องเสื้อ Chanel ได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดของ Linton Tweeds ตราบจนถึงปัจจุบัน

เป็นโรงงานแห่งนี้เองที่โกโกร่วมกับเจ้าของโรงงานทดลองใช้วัสดุอื่นๆ มาทำให้ผ้าทวีดที่หนาหนักสีทึมทึบไม่สวย ให้กลายเป็นผ้าน้ำหนักเบา ใส่ง่าย เตะตา และชวนให้ผู้หญิงซื้อมากขึ้น เช่น ผสมกำมะหยี่ ริบบิ้น ขนนก หนัง คอตตอน ฯลฯ  จุดนี้เองที่ทำให้นักประวัติศาสตร์แฟชั่นยกย่องให้ โกโก ชาแนลเป็นผู้คิดค้นผ้าทวีดยุคใหม่

โกโก ชาแนล ใส่แจ็กเก็ตทวีดกำลังฟิตติ้งแจ็กเก็ตทวีดให้นางแบบในยุค 1960s

Photo: Hatami/Shutterstock

แม้ทวีดจะคลอดที่สกอตแลนด์ แต่ไปสร้างชื่อระดับโลกเมื่อโกโกนำผ้าชนิดนี้ไปให้โรงงานผ้าในฝรั่งเศสทอขึ้นมา “ฉันนำผ้าทวีดจากสกอตแลนด์ (ซึ่งเป็น)ผ้าทอตามบ้านที่ใช้แทนผ้าเครปและผ้ามัสลินได้ ฉันใช้เส้นใยวูลแบบฟอกน้อยครั้ง เพื่อรักษาความนุ่มเอาไว้” โกโกกล่าวถึงผ้าเปลี่ยนโลกแฟชั่นนี้ในหนังสือปี 1946 L’Allure de Chanel ของ Paul Morand.

Chanel เริ่มทำแจ็กเก็ตผ้าทวีดอันลือลั่นในไซซ์ผู้หญิงในปี 1954 และกลายเป็นของแรร์ที่สาวๆ เมืองหลวงแฟชั่นโลกควานหามาใส่ แต่ไม่ใช่เพื่อให้ผู้หญิงดูสวยหวาน แต่เป็นแจ็กเก็ตผ้าทวีดที่ดูแข็งแรง ทว่าใส่สบาย ทำให้ผู้หญิงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยไม่เปลี่ยนแอตติจูดหรือกิริยาท่าทางไปตามเสื้อผ้าที่ใส่ ซึ่งเป็นงานท้าทายมากสำหรับแฟชั่นดีไซเนอร์ แต่โกโกทำสำเร็จด้วยการออกแบบแจ็กเก็ตที่เหมือนคาร์ดิแกน กล่าวคือทรงเสื้อไม่เข้ารูป ปลายแขนสั้นขึ้น มีโซ่ถ่วงที่ขอบเสื้อ ช่วยรักษาทรงเสื้อไม่ให้กระพือสะดิ้งไปมา ที่สำคัญทำจากผ้าทวีดหลากสีที่เบาสบาย

หลังจากนั้น ผ้าทวีดกับ Chanel ได้กลายเป็นสองเกลอที่แยกกันไม่ขาด

หลังจากยุคของโกโก Chanel หาทางทำให้ผ้าทวีดมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนำไปทำกรอบแว่น สนีกเกอร์ ทอด้วยวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเดนิม ชีฟอง ยาง ขนนก หรือปักเลื่อม กลิตเตอร์ ไข่มุก ฯลฯ แม้แต่เครื่องประดับก็ยังใช้เทคนิคการทอและลวดลายของผ้าทวีด ออกมาเป็นสร้อย ต่างหู กำไล ที่ดูเหมือนผ้า แต่ทำจากอัญมณีเลอค่าในคอลเล็กชั่น Tweed de Chanel จนแน่ใจได้ว่าหากโกโก ชาแนลได้มาเห็นผ้าทวีดในยุคนี้ ยานแม่คงปลื้มว่าลูกหลาน Chanel มีดีเอ็นเอคิดใหม่ทำใหม่ไม่ต่างจากเธอ

กรอบแว่นผ้าทวีดจาก Chanel Fall-Winter 2014

Photo: lofficielsingapore.com

สร้อยคอลายผ้าทวีดจาก Tweed de Chanel คอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี่จาก Chanel ปี 2020

Photo: Chanel

นอกจากใช้ผ้าทวีดจาก Linton Tweeds แล้ว Chanel ยังใช้ทวีดจาก Harris Tweed โรงงานเก่าแก่ในสกอตแลนด์ที่รวบรวมผ้าทวีดทอตามบ้านบนหมู่เกาะ Hebrides ของสกอตแลนด์ ซึ่งยังคงทอทวีดด้วยมือและด้วยเทคนิคดั้งเดิมมาตั้งแต่ปี 1840

นอกจากนี้ยังมีผ้าทวีดจาก Maison Lesage สำนักงานมือเก่าแก่ของฝรั่งเศสที่ Chanel เข้าซื้อกิจการเพื่ออนุรักษ์งานฝีมือโบราณของประเทศให้คงอยู่ เลอซาจขึ้นชื่อเรื่องงานปักอันละเอียดวิจิตร แต่ในปี 1998 ได้ริเริ่มทำผ้าทวีดไปนำเสนอกับ Chanel จนกลายเป็นผู้ผลิตผ้าทวีดให้กับทั้ง Chanel และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง สะพายกระเป๋าทวีดสีเบอร์กันดีจาก Chanel เตรียมบินไปร่วมปารีสแฟชั่นวีค

Photo: IG@becca

เบ็คกี้ในลุคทวีดที่ดูเหมือนงานปักลูกปัดจากคอลเล็กชั่น Cruise 2024/2025 ใส่ไปชมแฟชั่นโชว์ Chanel Spring-Summer 2025 ที่ปารีส

Photo: IG@becca

 

เบ็คกี้ปรากฏตัวช่วงปารีสแฟชั่นวีคในลุคเรียบสุดคลาสสิกที่เห็นแค่เค้าโครงทรงสอบกับผ้าทวีดก็รู้ได้ว่าเป็น Chanel ซึ่งต้องให้ 10/10 กับสไตลิสต์ที่แกะโค้ดของ Chanel ได้ถูกต้อง และครีเอตลุคที่หลากหลายแต่ดูเป็น Chanel ให้เบ็คกี้ที่เดบิวต์เป็นฟรอนต์โรว์ของ Chanel ในซีซั่นนี้

Photo: X@lucirpa, X@LOvSoshi

โกโก ชาแนลพบผ้าทวีดเมื่อเธอพบรักกับดยุคแห่งเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งในเวลาต่อมา ขอเธอแต่งงาน ทว่าโกโกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า ดัชเชสแห่งเวสต์มินสเตอร์มีได้หลายคน (เพราะเป็นบรรดาศักดิ์ที่สืบทอดตามสายเลือด) แต่ Chanel มีได้คนเดียว เธอเลิกรากับเขา กลายเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งในยุคสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นชื่อที่ผู้คนยังคงกล่าวขานถึงจากผลงานและความสามารถ และเป็นนักบุกเบิกที่ส่งอิทธิพลมากมายต่อวงการแฟชั่น

หนึ่งในมรดกที่โกโก ชาแนลทิ้งไว้คือ ผ้าทวีด แม้แบรนด์อื่นๆ จะใช้ผ้าชนิดเดียวกัน แต่ไม่มีใครทำให้ทวีดเป็นเสมือนเครื่องหมายการค้าที่ไม่ต้องติดโลโก้ได้เหมือนที่ Chanel ทำได้

 

Words: Sritala Supapong

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top