การระบาดของโควิด 19 ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้าน โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งในระดับตัวบุคคล เศรษฐกิจ สังคม และประเทศ แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก แต่อีกด้านหนึ่งโควิด 19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการนำอินเทอร์เน็ต หรือออนไลน์มาใช้ ซึ่งเป็นโอกาสในการลงทุนของ 3 ธุรกิจหลักที่จะเติบโตในยุคเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ต
ทีมผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนเกิดใหม่ของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน องค์กรการจัดการการลงทุนระดับโลก ที่ให้บริการลูกค้ามากกว่า 165 ประเทศทั่วโลก เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง จากสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งเป็นตัวเร่งความเร็วการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คล้ายคลึงกับกรณีการระบาดของโรคซาร์ส 1 ที่กระตุ้นการเกิดยุคดิจิทัลในประเทศจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังมีปัจจัยเกื้อหนุนมากมายที่มาตรงจังหวะกับการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางอิเล็กทรอนิกส์กับองค์กรธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประชากรรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับมือถือ (Mobile First) การปรับปรุงเครือข่ายด้านการสื่อสารและราคาสมาร์ทโฟนที่จับต้องได้ ล้วนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนบริการอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ในภูมิภาค
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 40 ล้านคน
เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยในปี 2563 เพียงปีเดียว มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใหม่เพิ่มขึ้น 40 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 11% จากปี 2562 ใน 6 ประเทศหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งพวกเขาใช้อินเทอร์เน็ตในกิจกรรมที่จำเป็น เช่น การทำงาน การศึกษา และอื่น ๆ
“สิ่งที่พวกเรามองเห็นคือองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังสุกงอมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางอิเล็กทรอนิกส์ประกอบกับโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งสำคัญ และมีโอกาสในการสร้างการเติบโตระยะยาวที่โดดเด่นใน 3 ธุรกิจด้วยกัน นั่นก็คือ อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และอุตสาหกรรมเกม” ทีมผู้เชี่ยวชาญจากแฟรงคลิน เทมเพิลตันระบุ
อีคอมเมิร์ซ: อีคอมเมิร์ช ถือเป็นสมรภูมิที่แข่งขันดุเดือนที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยแฟรงคลิน เทมเพิลตัน คาดว่าในปี 2568 การซื้อขายสินค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้มีมูลค่าประมาณ 172,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2563 ที่มีมูลค่า 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอัตราการซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ยังมีสัดส่วนเพียง 6% ขณะที่จีนมีมูลค่าการซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซถึง 20% และเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้ามาแข่งขันในระบบดิจิทัลมากขึ้น
เทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค): ปัจจุบันจำนวนผู้ไม่มีบัญชีธนาคารมีมากกว่า 290 ล้านบัญชีทั่วภูมิภาคนี้ ถือเป็นโอกาสของผู้ที่จะลงทุนด้านฟินเทคที่สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ประชากรกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคารและใช้เงินสดเป็นหลักได้หลั่งไหลเข้าสู่บริการจากบริษัทฟินเทคหลายแห่ง โดยบริษัทฯ ส่วนใหญ่นำเสนอบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallets) เป็นประตูด่านแรกเพื่อเปิดไปสู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้น ในปี 2563 ธุรกรรมการชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่า 620,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2568 หรือมีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อุตสาหกรรมเกม: อุตสาหกรรมเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นจากความซับซ้อนของเกมบนมือถือ รวมถึงการแข่งขันอีสปอร์ตที่ไม่สามารถจัดอีเว้นท์ได้ในช่วงของการล็อกดาวน์ ซึ่งดึงผู้ใช้เข้าสู่โลกของเกมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยตลาดเกมมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ปัจจุบันเกมต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จได้นั้นเป็นเพราะการขยายฐานผู้เล่นไปทั่วโลก โดยหลาย ๆ เกมยังเดินหน้าพัฒนาไปสู่ความเป็นโซเชียลที่รวมฟังก์ชั่นการแชทและโหมดความบันเทิงเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เล่นและเสริมศักยภาพในการสร้างรายได้
ในปี 2563 เงินลงทุนได้หลั่งไหลเข้าสู่เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีบริษัทระดับยูนิคอร์น หรือ มีมูลค่าธุรกิจมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า 10 บริษัทในภูมิภาคนี้ เช่น Grab ของสิงคโปร์ หรือ Bukalapak ผู้ให้บริการเรียกรถของอินโดนีเซีย ประกอบกับกฎ ระเบียบที่เข้มข้นของจีนในการกำกับดูแลธุรกิจอินเทอร์เน็ต ทำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงการลงทุนมายังธุรกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา และมีกฎ ระเบียบไม่เข้มช้นเท่ากับจีนเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และเกม อุตสาหกรรมต่างๆ มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ขณะนี้จึงเป็นเวลาสำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาศึกษาธุรกิจอินเทอร์เน็ตเหล่านี้เพื่อโอกาสในระยะยาว
#อุตสาหกรรมออนไลน์ #Internet