เบียร์ช้าง หนึ่งในผู้นำตลาดเบียร์ของประเทศไทย สร้างเซอร์ไพรซ์ให้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนักดื่มเบียร์ชาวไทยส่งท้ายปี เปิดตัวนวัตกรรมเบียร์รูปแบบใหม่ “ช้าง อันพาสเจอไรซ์” กับ 3 ความโดดเด่นได้แก่ 1) ครั้งแรกของนวัตกรรมเบียร์ที่โดดเด่นด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่ผ่านความร้อน (Unpasteurized) เพื่อคงความหอมและสดใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ 2) ครั้งแรกของนวัตกรรมเบียร์ที่ผลิตด้วยกระบวนการไนโตรจิเนชัน (Nitrogination) เพื่อให้อณูฟองที่ละเอียดและนุ่ม และ 3) ครั้งแรกของระบบการขนส่งพิเศษแบบโคลด์เชน (Cold Chain) ควบคุมอุณหภูมิให้ไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส ตลอดการขนส่งตรงจากโรงงานกำแพงเพชร ถึงร้านอาหารและโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ภายในเวลา 4 – 6 ชั่วโมง เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเบียร์ช้างอันพาสเจอไรซ์ให้ถึงมือผู้บริโภคพร้อมเสิร์ฟให้ผู้บริโภครุ่นใหม่และนักท่องเที่ยว ณ ร้านอาหาร และโรงแรมชั้นนำ ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเท่านั้น
“ช้าง อันพาสเจอไรซ์” มั่นใจที่สุดของความสดใหม่ ผลิตจากโรงงานเบียร์มาตรฐานสูงระดับโลก
นายเลสเตอร์ ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากความพิเศษของช้าง อันพาสเจอไรซ์ ที่ผลิตโดยไม่ผ่านความร้อน เราจึงพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ผ่านกระบวนการผลิตในโรงงานที่ได้การรับรองระบบบริหารคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 และระบบมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม FSSC 22000 ทั้งการผลิตแบบปลอดเชื้อด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน แล้วตรวจสอบมาตรฐานทุกด้านอย่างเข้มงวดจนถึงการบรรจุขวด ซึ่งทุกกระบวนการได้รับการดูแลผ่านบรูว์มาสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี และจบหลักสูตรบรูว์มาสเตอร์จากสถาบันชั้นนำของโลกในหลายประเทศ”
นอกจากกระบวนการผลิตและการขนส่งที่เป็นหนึ่งเดียวของเบียร์ในประเทศไทยแล้ว “ช้าง อันพาสเจอไรซ์” ยังให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพในทุกมิติ ทั้งการอบรมพนักงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลเก็บรักษาการออกแบบตู้เย็นและอุปกรณ์การเสิร์ฟเบียร์ให้กับร้านอาหารและโรงแรม เพื่อเก็บรักษาคุณภาพของเบียร์ “ช้าง อันพาสเจอไรซ์” ให้คงความสดใหม่ มาพร้อมขวดทรงแชมเปญพรีเมียมสีเขียวขนาด 1.5 ลิตร ด้วยดีไซน์ลวดลายสุดละเมียดสีทองงดงาม
ประเดิมวางจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
เมื่อพิจารณาข้อมูลด้านการเติบโตในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดและยอดขายของพื้นที่เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของเบียร์ช้างที่เป็นเจ้าตลาด พร้อมวางแผนการบริหารตลาดในเชิงรุก นายเลสเตอร์ เชื่อมั่นว่า “ช้าง อันพาสเจอไรซ์” จะมาเสริมความแข็งแกร่งในตลาดพรีเมียมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยวางจำหน่ายเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายก่อน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ในช่องทางขาย ร้านอาหาร และโรงแรมชั้นนำ และคาดว่า “ช้างอันพาสเจอไรซ์” จะกลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของทั้งจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายของนักดื่มและนักท่องท่องเที่ยว”
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) (มกราคม-ตุลาคม 2565) พบว่าตลาดเบียร์ในประเทศไทย มีมูลค่า 110,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยการสนับสนุนจากการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด
