เมษาหน้าโง่ หรือ April Fool’s Day ตรงกับวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการก่อกวน (แต่ในทางที่ดีนะ) และเสียงหัวเราะ เพื่อเฉลิมฉลองและเข้าร่วมปาร์ตี้ใน April Fool’s Day นี้ หลาย ๆ แบรนด์จึงได้คิดไอเดียเจ๋ง ๆ เพื่อสีสันและการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ มาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนได้สร้างตำนานแคมเปญ April Fool’s Day ได้แสบและถูกใจผู้บริโภคกันบ้าง
1.Google Nose (2013)
Google ได้ประกาศให้บริการการค้นหารูปแบบใหม่ที่ใช้ “กลิ่น” เข้ามาเกี่ยวข้อง โดย Google Nose จะรองรับกลิ่นต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นพืช กลิ่นขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ กลิ่นอาหาร กลิ่นน้ำหอม และก็กลิ่นสัตว์เลี้ยงตามบ้าน รวมๆ แล้วก็กว่า 15 ล้านกลิ่น
โดยในฝั่งคอมพิวเตอร์ Google Nose จะจำลองกลิ่นของสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่ และส่งต่อกลิ่นผ่านทางคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ เมื่อการจำลองกลิ่นเสร็จสิ้น ผู้ใช้ก็จะสามารถเข้าไปดมกลิ่นของสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่ได้ แต่สำหรับฝั่ง แอนดรอยด์ Google จะเพิ่มความสามารถในการค้นหา “กลิ่นปริศนา” ผ่าน Google Nose เข้ามาด้วย โดยเราสามารถใช้ตัว Google Nose ทำการค้นหากลิ่นต่างๆ ว่ากลิ่นที่เรากำลังสนใจอยู่ในตอนนี้ คืออะไรบ้าง เป็นไอเดียที่น่าสนใจเลยใช่ไหมหล่ะถ้าเราได้นั่งดูรายการทำอาหารและมีกลิ่นออกมาจริง ๆ คงได้อรรถรสไม่น้อย
สุดท้ายแคมเปญนี้ก็ถูกเฉลยภายหลังว่าเป็นการอำกันเล่นเฉย ๆ จะว่าไปGoogle ก็ลงทุนก็ไม่น้อยกับการแกล้งในครั้งนี้ทั้งมีการเป็นเพจและทำวิดีโอโปรโมทฟีเจอร์ก็มา แต่เฉลยแล้วคนก็เสียดายกันไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็หวังว่าจะมีการพัฒนาฟีเจอร์นี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
2.Tinder (2018)
คุณเคยเจอเหตุการณ์นัดเดตแล้วเจอคู่เดตไม่ตรงปกไม่ใช่แค่หน้าตาแต่รวมไปถึงความสูงด้วยหรือเปล่า หากเคยนี้เป็นนการแก้ปัญหาของแอพเดตออนไลน์ยอดนิยมอย่างทินเดอร์ ที่นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ “ทินเดอร์ยืนยันส่วนสูง” จุดประสงค์ของฟีเจอร์นี้เพื่อให้ผู้ใช้งานซื่อสัตย์ต่อเพื่อนร่วมแอพ ทั้งเรื่องทที่ควรเปิดเผยหากคุณอยากจะมาเดตกับฉันจริง ๆ ทินเดอร์ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้งานและเข้าใจผู้ใช้งานว่าบางเรื่องเป็นสิ่งที่ยากที่จะถามหรือตอบอีกฝ่ายเช่น ส่วนสูงหรือน้ำหนัก แหม่ใครจะกล้าถามเนอะ สถิติบอกว่ามีผู้ชายที่สูง180 เซนติเมตรหรือถึงเกินกว่านั้นมีเพียง เพียง 14.5% ในอเมริกา และในไม่ช้าจำนวนคนที่สูงเกิน 180 เซนติเมตรจะลดลงเรื่อย ๆ
แคมเปญนี้ถูกพูดถึงในวงกว้างทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ประเด็นที่ทินเดอร์ทำให้คนพูดถึงมากที่สุดคือการที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น ดังนั้นหยุดเสแสร้งเป็นคนอื่นนะจ๊ะ ถ้าเขาจะรักเป็นตัวของตัวเองเขาก็รักค่ะ
3.Paypal
ปี 2018 Paypal ได้ทวีตเกี่ยวกับ “จะเป็นอย่างไรถ้าคุณสามารถปริ้นเงินได้จากโทรศัพท์คุณโดยตรง ฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวในแอพPaypal” ทวีตนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก หนำซ้ำยังมีคนแสดงความคิดเห็นว่า นี้เป็นไอเดียที่ดีมากเลยนะ แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในแง่การรับรู้และพูดถึงแบรนด์ แต่อย่างไรก็ตามไอเดียนี้น่าจะไม่ได้ไปต่อเพราะเรื่องของกฎหมายและในปัจจุบันโดนแซงทางโค้งด้วยสังคมไร้เงินสดที่เราไม่ต้องพกแบงค์หรือปริ้นแบงค์ก็ได้แล้วจ้า
4.ThinkGeek
และในทุกปีใครที่เป็นแฟนคลับ April Fool’s Day อาจจะเฝ้ารอการประกาศรายการสินค้าจาก ThinkGeek ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเกม นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่น ๆ ได้แก่เสื้อผ้า ของสะสม ของเล่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องดนตรี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าของ ThinkGeek มีความโดดเด่นเรื่องออกแบบและผลิตสินค้าเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีและสินค้าตามเทรนด์
ใน April Fool’s Day ThinkGeek ได้ปล่อยรายการสินค้า (ปลอม ๆ ) ที่เรียกความแปลกใจและเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยทุกปี อย่างเช่น เพจเจอร์ของกัปตัน มาร์เวล ที่นิค ฟิวรี่ใช้ติดต่อเพื่อเรียกกัปตันกลับมายังโลก หรือ เครื่องดูดฝุ่นพลังเคอร์บี้ เคอร์บี้เป็นตัวละครเอกจากซีรี่ย์วิดีโอเกมของนินเท็นโด และถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนินเท็นโดเลยก็ว่าได้ เคอร์บี้มีความสามารถในการดูดวัตถุและสิ่งมีชีวิตเพื่อนำทักษะมาใช้งาน คงจะดีไม่น้อยถามมีการผลิตเจ้าเครื่องดูดฝุ่นพลังเคอร์บี้มาจริง ๆ กล่องจดหมายโยเนียร์ (Thor Mighty Mjolnir Mailbox) ในจักรวาลมาเวล ค้อนโยเนียร์ของธอร์ได้ชื่อว่าเป็นอาวุธที่แข็งแรงในลำดับต้น ๆ ของจักรวาล จะดีไหมหากเรามีกล่องจดหมายที่แข็งแกร่งเหมือนค้อนโยเนียร์ของธอร์ กล้องจดหมายที่ไม่สามารถเปิดออก เคลื่อนย้าย หรือทำลายได้หากคนนั้นไม่คู่ควรกับมันจริง ๆ ตอนกลางคือก็สามารถเปล่งแสงได้ด้วยพลังเวทมนต์ของแอสการ์ดเห็นมั๊ยไอเดียนี้มันเหมาะสำหรับชาวซีเอฟโนซีซีจะสั่งอีกกี่ออร์เดอร์ก็ไม่ต้องกลัวโดนหิ้ว
5.McDonalds
หากผู้ถึงเรื่องแกล้ง ๆ เราจะลืมแบรนด์นี้ได้ยังไง! พี่ใหญ่แห่งวงการอำ แมคโดนัลด์ ที่ขนไอเดียความครีเอทมาหยอกบรรดาผู้บริโภคได้ทุกปี ในปี 2019 แมคโดนัลด์ได้ปล่อยสองเมนูใหม่ที่อาจจะถูกใจสำหรับบางคนและสร้างความสงสัยให้กับบางคนเช่นกันคือ McDonald’s Milkshake Sauce เอาใจคนที่ชอบดิปเฟรนฟรายลงในมิลค์เชค และ McPickle หรือ เบอร์เกอร์แตงกวาดอง สำหรับแตงกวาดองเลิฟเวอร์คงกดไลค์ให้สิ่งนี้ แต่หลายคนคงอุทานในใจนี่มันอะไรกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันเป็นแค่การแกล้งกัน แต่แมคบอกว่าถ้าใครอยากกินเมนูสามารถสั่งได้ เพียงแค่บอกพนักงานว่า บิ๊กแมค ไม่ใส่ซอส ไม่รับหอมใหญ่และเนื้อสัตว์ ขอพิเศษแตงกวาดอง เท่านี้คุณก็จะได้เมนู McPickle มาลองได้เลย
นี่เป็นแค่ตัวอย่างการทำเคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จในช่วงวัน April Fool’s Day สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความกล้าจะทดลองทำ ใส่ความสร้างสรรค์และใช้ข้อมูลที่มีให้เกิดประโยชน์ เท่านี้คุณก็จะได้รับการพูดถึงจากผู้บริโภคของคุณ สร้างเสียงหัวเราะและสิ่งสุดท้ายคือการสร้างความประทับใจจะช่วยให้ลูกค้ากลับมาหาคุณได้อีกครั้ง
siliconangle.com/2013/04/01/the-real-tech-behind-googles-nose-prank-smells-funny/
www.distractify.com/p/tinder-height-verification
https://twitter.com/M_TTL_TTL_/status/1112623020051320833?s=20
https://nerdist.com/article/thinkgeek-april-fools-day-2019/
https://www.thinkzap.co.uk/april-fools-day-marketing-10-famous-campaigns-with-a-sense-of-humour/