เฮลีออน ในประเทศไทย มอบความสุขเนื่องในวันผู้สูงอายุไทย บริจาคฟันเทียมคืนรอยยิ้มไปแล้ว 1,000 ชุด
พร้อมสานต่อโครงการ CSR ให้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุนทำฟันเทียม ภายใต้แนวคิด #EveryMouthMatters
– ผู้สูงอายุ คือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในสังคมรวมถึงสถาบันครอบครัวของไทยมาตั้งแต่ยุคอดีตถึงปัจจุบัน แต่ด้วยโครงสร้างทางประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป การให้ความสำคัญด้านสุขภาพของผู้สูงอายุจึงมีความจำเป็นอย่างมาก จากข้อมูลล่าสุดของกรมอนามัยชี้ 58% ของผู้สูงวัยไทยที่มีอายุ 60-74 ปี กำลังประสบปัญหาสูญเสียฟันจนเหลือฟันตามธรรมชาติน้อยกว่า 20 ซี่ และยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการฟันเทียมอย่างเท่าเทียม เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เฮลีออน ในประเทศไทย (Haleon in Thailand) ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับผู้บริโภค มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ พร้อมเดินหน้าโครงการความร่วมมือภายใต้ชื่อ “เพราะรอยยิ้มไม่ควรต้องรอ ความสุขก็เช่นกัน (Smiles Can’t Wait)” เพื่อสร้างความตระหนักรู้และมุ่งช่วยเหลือคนไทยผู้สูญเสียฟันและขาดแคลนทุนทรัพย์ให้สามารถเข้าถึงบริการฟันเทียมได้ง่ายขึ้น ได้บรรลุเป้าหมายในการร่วมมอบฟันเทียม 1,000 ชุดแก่ผู้สูงวัยที่ขาดโอกาสด้านบริการฟันเทียมในประเทศไทยไปแล้ว พร้อมสานต่อโครงการ CSR ให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนทำฟันเทียม เพื่อมอบรอยยิ้มให้ผู้สูงอายุ ขยายโอกาสให้ได้รับฟันเทียมมากขึ้น สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการยกระดับการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้คนทั่วโลกภายใต้แนวคิด #EveryMouthMatters เพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้สูงวัยชาวไทย
นายฌอง ฟรองซัวส์ คูเว่ ผู้จัดการทั่วไป เฮลีออน ในประเทศไทย กล่าวว่า “เฮลีออนเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรมีโอกาสในการมีสุขภาพในช่องปากที่แข็งแรงให้นานที่สุดไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม แต่เนื่องจากความต้องการฟันเทียมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขในประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทั่วถึง ส่งผลให้ผู้สูญเสียฟันบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงฟันเทียมและไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายจากการทำฟันเทียมได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยที่จัดเป็นประชากรกลุ่มที่เปราะบางที่สุด เฮลีออน ในประเทศไทย จึงจัดทำโครงการ Smiles Can’t Wait ด้วยความเชื่อที่ว่าการช่วยเหลือให้ผู้สูงวัยมีโอกาสเข้าถึงการทำฟันเทียม จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของพวกเขา ทั้งยังลดผลกระทบด้านอารมณ์และจิตใจ คืนความมั่นใจในรอยยิ้ม อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียฟัน กล่าวได้ว่า โครงการครั้งนี้ทำให้ เฮลีออน ในประเทศไทย มุ่งหน้าสู่เป้าหมายการสร้างสรรค์ ‘สังคมที่ผู้คนทุกเพศทุกวัย มีสุขภาพพลานามัยที่ดีอย่างเท่าเทียม’ ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
เฮลีออน ในประเทศไทย ได้เริ่มเดินหน้าในการสนับสนุนและแก้ปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, กองทันตกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงพยาบาลคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมร้านขายยาแห่งประเทศไทย ในการจัดทำฟันเทียมและส่งมอบให้แก่ผู้สูงอายุ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการมอบอย่างน้อย 1,000 ฟันเทียมให้ผู้สูงวัยในประเทศไทยที่มีปัญหาการสูญเสียฟันและต้องการฟันเทียมให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขและรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง พร้อมยังเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนมอบรอยยิ้มในผู้สูงอายุได้มากขึ้น ด้วยการร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุนทำฟันเทียมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการสแกน QR Code กองทุนเติมรอยยิ้มคืนความสุขได้โดยตรงที่มูลนิธิของทั้ง 3 โรงพยาบาลที่สนับสนุนโครงการนี้
ร่วมมอบ 1,000 ฟันเทียมขึ้นไป คืนรอยยิ้มและความสุขเพื่อช่วยเปลี่ยนชีวิตผู้สูงวัยได้ โดยการสแกน QR Code ด้านล่าง
นางเมธิกา ศรีโรจน์ อายุ 72 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับชุดฟันเทียมจากโครงการ Smiles Can’t Wait กล่าวว่า “เมื่อแก่ตัวลง ก็เสียฟันไปกว่า 20 ซี่และต้องใช้ชีวิตกับปัญหานี้มานานกว่า 3 ปี เมื่อไม่มีฟันเหมือนเดิม นอกจากเคี้ยวอาหารไม่ไหว ไม่มั่นใจ ส่งผลให้ความสุขในชีวิตลดน้อยลง เรื่องนี้ใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ นานวันเข้าปัญหานี้ก็ทำให้กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย ตอนที่ได้รู้ข่าวว่ามีโครงการดี ๆ แบบนี้ จึงรู้สึกดีใจมาก เมื่อติดต่อไปก็ใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์ที่ลงชื่อกับทางโรงพยาบาลที่สนับสนุนโครงการ ก็ได้รับชุดฟันเทียมแล้ว ดีใจและตื้นตันใจมาก ๆ ตอนแรกก็ยังไม่ชินกับการใส่ฟันเทียม แต่หลังได้ลองใช้ประมาณ 4 อาทิตย์ก็เริ่มปรับตัวได้ เคี้ยวอาหารได้ง่ายขึ้น กลับไปทานอาหารที่ชอบได้แล้ว ดีใจมาก ทำให้เราใช้ชีวิตได้มีความสุขมากขึ้นจริง ๆ ขอบคุณเฮลีออนในประเทศไทย ขอบคุณโครงการ และทันตแพทย์ที่มอบความสุขให้กับคนสูงวัยอย่างเรา อยากให้มีโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไป เพื่อสร้างความสุขให้คนสูงวัยอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน”