เอไอเอ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 85 ปี เดินหน้าลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง จัดงานเปิดตัว “เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ AIA East Gateway” อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกระดับพรีเมียมแห่งใหม่ บนทำเลยุทธศาสตร์ถนนบางนา-ตราด กม. 4.5 อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งโครงการแห่งนี้ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งที่ 3 ของเอไอเอ ประเทศไทย หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่ามาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ และเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ พิธีเปิดอาคาร ได้รับเกียรติจากนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธาน โดยมี ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย ดร. เอ็ดมันด์ ซือ ประธานอิสระ กลุ่มบริษัทเอไอเอ และนายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากเอไอเอ และพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 100 ท่าน เข้าร่วมงาน
เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าระดับพรีเมียมมาตรฐานอาคารสีเขียว ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ ESG และความมุ่งมั่นของเอไอเอในการเป็นผู้นำด้าน ESG ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนความตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐานอาคารสำนักงานให้ทัดเทียมสากล นอกจากนี้ อาคารแห่งนี้ยังตอบโจทย์ผู้เช่ารุ่นใหม่ที่มองหาอาคารสำนักงานที่ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกและไลฟ์สไตล์อันล้ำสมัย สอดรับกับแนวคิด “Harmony of Work, Wellbeing and Sustainability” ที่มุ่งสร้างสมดุลย์ของชีวิตและการทำงานให้ลงตัว
สำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทเอไอเอ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ด้านการลงทุนภายใต้นโยบายและการบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจและการประกันภัย โดยอาคารเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ สร้างขึ้นต่อจากโครงการเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ย่านรัชดาภิเษก และอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2557 และ 2559 ซึ่งอาคารทั้งสองแห่งได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ อีกทั้งยังมีอัตราการเช่าสูงกว่า 90% ด้วยอาคารทั้งสามแห่งของเอไอเอ ประเทศไทย ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของกรุงเทพฯ โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวมทั้งสิ้น 167,000 ตร.ม.
ในระหว่างพิธีเปิดอาคาร นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กล่าวแสดงความยินดีและยกย่องวิสัยทัศน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ในการเปิดตัวแลนด์มาร์คที่สำคัญแห่งใหม่ในย่านบางนา-ตราด ว่า “เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ เป็นโครงการที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับภูมิทัศน์โครงสร้างพื้นฐานของย่านบางนา” พร้อมเสริมว่า “ทำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยมนี้จะดึงดูดบริษัททั้งในและต่างประเทศที่ต้องการพัฒนาธุรกิจในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพราะบางนาถือเป็นหนึ่งในย่านการค้าที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในกรุงเทพฯ จึงมีโอกาสทางธุรกิจมากมาย อีกทั้งการพัฒนาโครงการครั้งนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป”
นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวถึงจุดเด่นและความพรีเมียมของอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของเอไอเอว่า “โครงการนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งสำหรับธุรกิจ SME และองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยทำเลที่ตั้งและการเดินทางที่สะดวกสบาย การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หาใครเทียบได้ยาก” พร้อมเสริมว่า “เรามั่นใจว่าอาคารแห่งนี้จะกลายเป็นผู้เล่นหลักในการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจและการค้าของอีอีซีในอีกไม่ช้า และยังทำให้เรามั่นใจและมุ่งมั่นในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โครงการนี้ยังถือเป็นอีกก้าวสำคัญของแผนการลงทุนด้านอสังริมทรัพย์ของเอไอเอ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นให้แข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ เอไอเอได้มอบการดูแลให้กับหลายล้านครอบครัวทั่วประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียมาหลายทศวรรษ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นับเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยสนับสนุนให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน”
อาคารสำนักงานของเอไอเอ ประเทศไทย ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงจากมืออาชีพในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2563 เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ ได้คว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติจากงานมอบรางวัล พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ 2020 อันได้แก่ รางวัลอาคารสำนักงานที่มีภูมิทัศน์สถาปัตย์ยอดเยี่ยม (Best Office Landscape) และรางวัลอาคารสำนักงานที่มีสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยม (Best Office Architectural Design Award)
เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ เป็นอาคารพรีเมียมเกรดเอ สูง 33 ชั้น มีสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกราว 60,000 ตร.ม. และ 10,000 ตร.ม. ตามลำดับ ได้รับการออกแบบตามระดับมาตรฐานอาคารสากล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) และ WELL Building Standard ระดับโกลด์ โดยตั้งแต่ชั้นที่ 6 ถึงชั้นที่ 33 พื้นที่ในอาคารได้รับการออกแบบให้ไร้เสา และมีขนาดตั้งแต่ 1,900 ตร.ม. ถึง 2,200 ตร.ม. พร้อมเพดานสูง 3 เมตร สำนักงานมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 85 ตร.ม. จนถึง 2,200 ตร.ม. ต่อชั้น นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งบันไดระหว่างชั้นเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น ในส่วนของพื้นที่ค้าปลีก ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 มีขนาดเริ่มต้นที่ 20 ตร.ม. พร้อมต้อนรับร้านค้า คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อต่างๆ ทั้งนี้ จะมีการให้บริการศูนย์ออกกำลังกายและสระว่ายน้ำระบบเกลือบนชั้น 4 พร้อมพื้นที่ทำงานopen-air working space บนชั้น 4 และ 5
และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เช่า บนชั้น 5 ของอาคาร จะมี AIA Vitality Zone ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพที่โดดเด่น รวมถึงพื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง ลู่วิ่งยาวขนาด 400 เมตร และโซนสวนผักออร์แกนิก (Urban Farming) นอกจากนี้ ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมกล้องวงจรปิดและระบบจดจำใบหน้า รวมถึงลิฟต์โดยสาร 18 ตัว ที่รับประกันการเข้าถึงที่ง่ายดายและปลอดภัยสำหรับผู้เช่าและผู้มาเยือนทุกคน พร้อมด้วยที่จอดรถ 1,250 คัน และจุดที่ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV
เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ เมกาบางนา เซ็นทรัลบางนา ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โรงเรียนนานาชาติชั้นนำหรือโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ และยังอยู่ใกล้เส้นทางเข้าออกกรุงเทพฯ และถนนสายหลัก ซึ่งสามารถเดินทางสัญจรไปมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ อาคารแห่งนี้ยังได้รับประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตของย่านบางนา-ตราด ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) แห่งใหม่ในโซนกรุงเทพตะวันออก ปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ลาดพร้าว-สำโรง) และในอนาคต อาคารเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ จะอยู่ห่างจาก MRT สถานีศรีเอี่ยม เพียง 350 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สำโรง-สวนหลวง ร.9)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของอาคารเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ สามารถเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.aiaeastgateway.com หรือติดต่อ ณ สำนักงานขาย หรือหากต้องการสอบถามเกี่ยวกับการเช่าอาคารสำนักงานหรือพื้นที่ค้าปลีก สามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์ 02-119-1500 วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.00 น.