แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดผลสำรวจอัตราเงินเดือนประจำปี 2564-2565 หลากหลายอาชีพที่มีความต้องการสูงรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ชูปัจจัยการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วของเทคโนโลยี เร่งภาคธุรกิจขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ พร้อมเปิดค่าตอบแทนในหลากหลายมิติ หลากหลายระดับ ครบทุกประเภทการจ้างงาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ แนะหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมมือพัฒนาแรงงานตรงความต้องการตอบโจทย์ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมหวังลดปัญหาขาดแคลนทั้งระยะสั้นและระยะยาวในระดับประเทศอย่างยั่งยืน
มร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดแรงงานในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคอุตสาหกรรม, ธุรกิจต่างๆ รวมทั้งแรงงานต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ยังมีส่วนขับเคลื่อนให้การเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สืบเนื่องจากวิกฤตด้านสุขภาพ เชื่อมโยงไปยังเศรษฐกิจโลกและสังคม องค์กรธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญกับแนวโน้มและทิศทางการดำเนินงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่งผลให้องค์กรจำเป็นต้องปฏิรูปวิธีการทำงานรวมถึงการวางแผนกำลังคน การตรวจสอบทักษะและความสามารถของพนักงานที่จำเป็น เพื่อการปรับตัวและเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีขึ้น
แนวโน้มในอนาคตของโลกการทำงานตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของโครงสร้างทางประชากร มีการปฏิวัติเทคโนโลยี ทางเลือกของแต่ละบุคคลและความซับซ้อนต่างๆ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย มีความตระหนักถึงสถานการณ์และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในองค์กรธุรกิจต่างๆ และประสงค์เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทุกองค์กรและกลุ่มแรงงานให้ทุกคนสามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน ล่าสุดได้จัดทำ “ManpowerGroup Thailand Salary Guide 2021 – 2022” โดยรวบรวมข้อมูลจากทุกมิติของกลุ่มงานต่างๆ ให้มีความครอบคลุมทุกทักษะในแต่ละระดับและประเภทของการจ้างงานที่หลากหลาย ซึ่งการจัดทำและเตรียมข้อมูลทั้งหมดมีความเป็นปัจจุบันเพื่อเป็นแนวทางสำหรับองค์กรธุรกิจนำไปใช้ในการวางแผนกำลังคนและการจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นอกจากนี้แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยยังได้เห็นสัญญาณของตลาดงานในปีนี้ซึ่งมีการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมยังเห็นทิศทางการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ โดยเฉพาะการจ้างงานแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource) เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานระยะสั้นเป็นสำคัญ ผู้ประกอบการต่างๆ ปรับเปลี่ยนองค์กรมีให้ความยืดหยุ่น คล่องตัว และใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ภาคแรงงานกำลังเร่งเพิ่มทักษะ (Upskill) และทักษะใหม่ (Reskill) เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานและอาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่
อย่างไรก็ตาม นายจ้างจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตด้านกำลังคน (แรงงาน) และแผนการจัดการความปลอดภัยของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการติดตั้งมาตรการคัดกรองที่ชัดเจนและเป็นระบบ จัดให้มีการทดสอบ COVID-19 ก่อนกลับไปทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการความปลอดภัยส่วนบุคคลทั้งหมดถูกนำมาใช้ ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากาก การล้างมือ การฉีดวัคซีน การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ และการประเมินผลกระทบใดๆ รวมทั้ง
ความพร้อมเชิงรุกจะนำไปสู่การปรับตัวที่ดีขึ้น โดยมีระบบการจัดการสำหรับพนักงานและนายจ้าง มีการวิเคราะห์สถานการณ์จากทุกมุม โดยเฉพาะการประเมินความเสี่ยงจะช่วยให้ทุกคนมีทางเลือกที่ดีขึ้น ความเข้าใจที่ดีขึ้นและความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่ายจะช่วยให้ทุกคนผ่านสถานการณ์ปัจจุบันและพร้อมที่จะไปสู่ภาวะปกติต่อไปได้สำเร็จ
ทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยต่อว่า สำหรับแนวโน้มด้านค่าตอบแทนในกลุ่มสายงานต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะหลังวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด (COVID-19) เป็นอัตราเร่งให้ทุกองค์กรมีการปรับวิถีชีวิตและการทำงานสู่รูปแบบใหม่ จากวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)สู่วิถีชีวิถัดไป (Next Normal) ทำให้รูปแบบการทำงานขององค์กรเปลี่ยนไปเป็นการทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา “Work Anywhere Anytime” เป็นการทำงานแบบรีโมทและทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น อย่างไรก็ตามในแต่ละองค์กรมีค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ขึ้นอยู่กับกลุ่มธุรกิจ โดยโครงสร้างเงินเดือนของบุคลากรในสายต่างๆ ตั้งแต่ระดับบัณฑิตจบใหม่ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร โดยเริ่มตั้งแต่ต้นที่ 15,000 ไปจนถึง 850,000 ต่อเดือน ทั้งนี้อยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ ทักษะด้านเทคโนโลยีและทักษะด้านภาษา
สำหรับการจ้างงานแบบพนักงานประจำ ในระดับผู้จัดการจนถึงระดับผู้บริหารในกลุ่มสายงานต่างๆ มีระดับเงินเดือนแตกต่างกัน ดังนี้ งานระดับผู้บริหารระดับเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 67,200 – 850,000 บาทต่อเดือน งานทรัพยากรมนุษย์ระดับเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 42,000 – 340,000 บาทต่อเดือน งานบัญชีและการเงินเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 40,000 – 189,500 บาทต่อเดือน งานขายและการตลาดเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 45,000 – 460,000 บาทต่อเดือน งานภาคการผลิตและวิศวกรเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 55,000 – 250,000 บาทต่อเดือน งานบริการลูกค้าเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 48,000 – 120,000 บาทต่อเดือน งานบริการสำนักงานเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 35,000 – 120,500 บาทต่อเดือน งานซัพพลายเชนและโลจิสติกส์เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 28,000 – 250,000 บาทต่อเดือน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 42,000 – 340,000 บาทต่อเดือน งานด้านไอทีเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 40,000 – 525,000 บาทต่อเดือน
จับตากลุ่มงานสัญญาจ้าง, งานชั่วคราว รวมถึงงานโปรเจกต์ วิถีเปลี่ยนความต้องการโตต่อเนื่อง ในระดับผู้จัดการเป็นต้นไป งานบริการลูกค้าเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 60,000 – 120,000 บาทต่อเดือน งานบัญชีและการเงินเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน งานขายและการตลาดเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 35,000 – 80,000 บาทต่อเดือน เภสัชกรรมและสุขภาพการแพทย์เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 150,000 – 200,000 บาทต่อเดือน งานภาคการผลิตและช่างเทคนิคเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 120,000 – 200,000 บาทต่อเดือน งานโครงการโยธาเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 70,000 – 120,000 บาทต่อเดือน
ในส่วนการจ้างงานชาวต่างประเทศในระดับผู้บริหาร ในกลุ่มหัวหน้าฝ่าย ผู้อำนวยการ ประธานเจ้าหน้าที่ และกรรมการผู้จัดการ เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 140,000 – 1,000,000 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในแต่ละสายงานมีตัวเร่งและปัจจัยในการขับเคลื่อนที่แตกต่างกันบ้างตามแต่ละสายงาน แต่มีหนึ่งเครื่องมือที่ในยุคดิจิทัลปฏิเสธไม่ได้ก็คือ การนำเทคโนโลยี (IT) เข้ามามีบทบาทในการทำงานส่งผลให้บุคลากรต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดทั้งการรีสกิล (Reskill) และ อัพสกิล (Upskill) เพื่อมาช่วยในการทำงาน รวมทั้งทักษะการทำงานร่วมกัน การสื่อสารที่เข้าใจและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทักษะความสามารถเฉพาะทางที่สำคัญเหล่านี้นับเป็นการสร้างความได้เปรียบ รวมไปถึงเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าทำงานในบริษัทหรือองค์กรชั้นนำอีกด้วย สำหรับการก้าวสู่ยุคความปกติถัดไป (Next Normal) ทิศทางแรงงานอาจเปลี่ยนแปลงไปเปิดกว้างสำหรับการจ้างงานแบบระยะสั้นประเภทต่างๆมากขึ้น สำหรับวิถีชีวิตและการทำงานแบบออนด์ดีมานด์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา บูรณาการเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเข้าด้วยกัน เพราะความสำเร็จอยู่ที่การออกแบบชีวิตของแต่ละคน องค์กรควรเตรียมความพร้อมตั้งรับวิถีคนทำงานภายใต้บริบทใหม่ โควิด ดิสรัปชั่น นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปรับตัวได้ก่อน รับมือก่อน เพราะความสำเร็จ…คุณออกแบบได้