กลับมาอีกครั้ง Agri-Food Tech Expo Asia 2024 (AFTEA 2024) มหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีอาหารเกษตรแห่งภูมิภาคเอเชีย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมมารีเบย์แซนส์ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขับเคลื่อนภูมิภาคอาเซียนสู่ภูมิภาคแห่งนวัตกรรมการเกษตรและอาหารแห่งเอเชีย
แถลงข่าวประกาศความพร้อมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Agri-Food Tech Expo Asia 2024หรือ AFTEA 2024 มหกรรมการแสดงสินค้า บริการและโซลูชั่นนวัตกรรมอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรแห่งภูมิภาคเอเชียที่ไม่ควรพลาด
ภายในงานแถลงดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ดร.ดาเรศร์ กิตติโยภาส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานการวิจัยการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรว่า มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาและขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทย โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture & Food Hub) เป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าเกษตรและอาหาร ด้วยการเน้นใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างรายได้ สร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้เกี่ยวข้องในภาคการเกษตรที่มีอยู่ร้อยละ 40 ของประเทศ ให้มีรายได้มากขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี ซึ่งประเทศไทยเองมีความแข็งแกร่งทางด้านวัตถุดิบของการผลิต แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเพิ่มมูลค่า ตลอดจนพัฒนาอาหารและการเกษตรให้เดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น
ด้าน Mr. Chen Yuyuan – Portfolio Director, บริษัท คอนสเทลลาร์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานกล่าวว่า Agri-Food Tech Expo Asia 2024 เป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ด้วยการรวบรวมผู้นำ สตาร์ทอัพ และหน่วยงานต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรระดับโลกมาร่วมไว้ที่งานนี้ เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ โชว์เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ สำหรับสร้างความร่วมมือความปลอดภัยและยั่งยืนในอุตสาหกรรม รวมถึงเปิดโอกาสทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนภูมิภาคอาเซียนสู่ภูมิภาคแห่งนวัตกรรมการเกษตรและอาหารแห่งเอเชีย โดยปีนี้จะถูกจัดขึ้นบนพื้นที่มากกว่า 10,000 ตร.ม. ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมมารีเบย์แซนส์ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าว ยังมีเวทีเสวนา “ประเทศไทย:ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตร–อาหาร และเกษตรอัจฉริยะที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในแวดวงอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารมาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมอง ประกอบด้วย ‘ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์’ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร, ‘คุณเกียรติกมล ตั้งงามจิตต์’ อุปนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย, ‘คุณธนาภูมิ ม่วงเอี่ยม’ นายกสมาคมแมลงไทย, ‘คุณปาลลิน พวงมี’ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โดยมี ‘คุณสันติ อาภากาศ’ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท Tastebud Lab เป็นผู้ดำเนินรายการ
‘ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์’ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารปัญหาที่ทั่วโลกจับตามอง คือ ความไม่มั่นคงของอาหาร ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะจากภาวะโลกร้อนที่อาจทำให้อาหารบางชนิดสูญพันธุ์ได้ ทำให้เรื่องของ Future Food หรืออาหารแห่งอนาคตเข้ามาตอบโจทย์และได้รับความสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็น Plant base อาหารจากพืช และ Function Food อาหารที่มีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเรสเตอรอล เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฯลฯ รวมถึงอาหารเหมาะสมกับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม อย่างผู้สูงวัย เป็นต้น
‘คุณเกียรติกมล ตั้งงามจิตต์’ อุปนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวว่า นอกจากการผลิตที่เป็นต้นน้ำแล้ว ความท้าทายในการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารช่วงกลางน้ำและปลายน้ำก็มีมากเช่นเดียวกัน เพราะประเทศไทยมีการพัฒนาตามหลังต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ดังนั้น การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ได้ แทนการสู้ด้วยราคาหรือวอลุ่ม จึงเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นโจทย์ที่ประเทศไทยต้องคิด
ขณะที่ ‘คุณธนาภูมิ ม่วงเอี่ยม’ นายกสมาคมแมลงไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแมลงไทยมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลต่อวงจรชีวิตของแมลง ตั้งแต่การผสมพันธุ์ การฟักตัว และทำให้ราคาของพืชที่ใช้มาทำอาหารแมลงสูงขึ้น จึงเป็นโจทย์ว่า จะหาพืชอะไรมาปลูกทดแทนเป็นอาหารของแมลงแทน โดยต้องทนอากาศร้อน ปลูกได้ทั้งปี เพื่อลดการนำเข้า ช่วยบริหารต้นทุน เนื่องจากอาหารถือเป็นต้นทุน 40-50% ของการทำธุรกิจนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดราคาโปรตีนทางเลือกจากแมลงให้ผู้บริโภคจับต้องได้ และเพิ่มการบริโภคให้มากขึ้นด้วย
‘คุณปาลลิน พวงมี’ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อภาคการเกษตร โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตน้อยลง มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ และมีคุณภาพลดลง ซึ่งในฐานะที่ทางกรมฯดูแลเกษตรกรกว่า 5-6 ล้านครัวเรือนจึงต้องเข้าไปส่งเสริมและหาทางออก ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้ในพื้นที่จริง เริ่มจาก ระบบน้ำอัจฉริยะ เพื่อใช้น้ำที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ระบบโดรนในการดูแล และการใช้เครื่องจักรกลในการเก็บเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนและลดเวลาในการเก็บเกี่ยวลงไป
สำหรับงาน Agri-Food Tech Expo Asia 2024 เป็นงานสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของ Singapore International Agri-Food Week (SIAW) จัดโดย คอนสเทลลาร์ ร่วมกับสมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน (German Agriculture Society: DLG) ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “มุ่งสู่อนาคตของความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร” ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมมารีเบย์แซนส์ ประเทศสิงคโปร์ มีประเทศเข้ามาร่วม 9 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, เนเธอร์แลนด์, สเปน, สิงคโปร์, อิสราเอล, ญี่ปุ่น, สวีเดน และฮังการี
ไฮไลท์ของงานในปีนี้จะอยู่ที่การออกบูธในโซนต่างๆ ประกอบด้วย โซนเทคโนโลยีอาหารใหม่ๆ (Novel Food Technology) โซนโปรตีนทางเลือก (Alternative Proteins) โซนการทำเกษตรกรในเมือง (Urban Farming) โซนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture) โซนความปลอดภัยและความยั่งยืน (Safety & Sustainability) โซลูชั่นด้านเทคโนโลยี
รวมถึงมี The Cultivated Meat Pavilion พาวิลเลียนเนื้อสัตว์แห่งอนาคต จัดโดยสมาคมการเกษตรแบบเซลล์แห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Society for Cellular Agriculture: APAC-SCA) ที่รวบรวมเครือข่ายกับตลาดชั้นนำของเอเชียในอุตสาหกรรมเกษตรกรอาหาร ตั้งแต่ระดับชุมชนจนไปถึงระดับโลก เริ่มจากผู้เพาะปลูก ผู้ให้บริการเทคโนโลยี บริษัทข้ามชาติ สตาร์ทอัพ นักลงทุน ผู้ค้าส่ง ฯลฯ เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชั่น ตลอดจนกลยุทธ์ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรให้มีความมั่นคงและเกิดความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คนจากทั่วทุกมุมโลก ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับงาน ได้ที่ https://www.agrifoodtechexpo.com/
Post Views: 11