สสว. ผนึก ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย และ เอวีโปรเจคท์ เปิดตัว‘เหว่ยไท่กว๋อ’มินิเอพีพี หรือแพลตฟอร์มข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไทยสำหรับคนจีน

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำโดย ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการ จับมือ บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท เอวีโปรเจคท์ จำกัด พร้อมด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมพัฒนา เหว่ยไท่กว๋อ’  มินิเอพีพี หรือ Hello Thailand ที่ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีน ให้เข้าถึงร้านอาหาร โรงแรม แพ็คเกจทัวร์ 66 เมืองใหญ่และเมืองน่าเที่ยว ไปจนถึงบริการ Payment on Service และ Payment on Ground ที่จำเป็นได้อย่างไร้รอยต่อ ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ สสว. ในการขับเคลื่อนการส่งเสริม SME ให้เป็นไปตามเป้าหมายหลักเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SME เป็น 37% ภายในปี 2567

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่ง เสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม  กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและแผนการส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในภาพรวมของทั้งประเทศ ด้วยการทำงานร่วมกันกับทุกภาค ส่วนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ตลอดจนยังทำหน้าที่เป็น System Integrator ในการขับเคลื่อนและสนับสนุน การดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม SME ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นางสาวปณิตา ชินวัตร เผยว่า ที่ผ่านมา สสว. ทำงานร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การเอกชน ในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศให้เติบโตภายในประเทศ และด้วยวิสัยทัศน์จากการทำงานมากว่า 20 ปี เชื่อมั่นว่าการจับมือกับ ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทยและ เอวีโปรเจคท์ ครั้งนี้จะช่วยผลักดันผู้ประกอบการ SME ให้มีพื้นที่เติบโตในตลาดต่างแดน สอดคล้องไปกับ พันธกิจของ สสว. ที่ต้องการส่งเสริม SME ให้มีพื้นที่เติบโตทางธุรกิจ เราจึงลงพื้นที่เพื่อคัดสรรผู้ประกอบการกว่า 100,000 ราย ทั่วประเทศ ทั้งผู้ประกอบการร้านค้า บริการ สินค้า การท่องเที่ยว ให้มาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ เหว่ยไท่กว๋อ’  มินิเอพีพี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นของ เหว่ยไท่กว๋อ’  มินิเอพีพี หรือแพลตฟอร์มข้อมูลการท่องเที่ยว ในประเทศไทย ที่ครอบคลุม 66 เมืองใหญ่และเมืองน่าเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ สมุย กรุงเทพฯ และอุบลราชธานี ช่วยทลายกำแพงด้านภาษาเนื่องจากข้อมูลทั้งจะเป็นภาษาจีน นักท่องเที่ยว จึงสามารถเข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่น ซื้อสินค้าจากชุมชน ซื้อแพ็คเกจทัวร์ รวมไปถึงบริการ Payment on Service ที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองไทยอย่างง่ายดาย โดยสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน WeChat Pay ได้สะดวกยิ่งขึ้น การใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ถูกจังหวะและถูกเวลา จะช่วยให้ขับเคลื่อน SME ไทยก้าวสู่ตลาดจีนได้แบบก้าวกระโดด”

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 80.6% เป็นกลุ่ม FIT (Free Independence Traveler) ที่นิยมการท่อง เที่ยวแบบอิสระ มีเงินใช้จ่ายประมาณ 40,000- 100,000 บาท โดยมีไลฟ์สไตล์การเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เน้นความหรูหรา มองหาสถานที่และกิจกรรมสำหรับคู่รัก ไปจนถึงการพักผ่อนเพื่อบำบัดกายใจ และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น กลายเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

โดย ในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 จะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สสว.,WeiTaiGuo Mini App (เหว่ยไท่กว๋อ มินิ เอพีพี), WeChat Pay (วีแชท เพย์) และ Xiaohongshu (เสี่ยงหงชู) ถือเป็นโอกาสเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

you might like

Scroll to Top