โน้ส-อุดม แต้พานิช หรือชื่อเล่นที่เขาเรียกตัวเองเมื่ออยู่กับมารดาว่า ‘อู๊ด’
อุดมเป็นคนแรกที่ทำเดี่ยวไมโครโฟน หรือ Stand-up Comedy ในเมืองไทย ทั้งเขียนบท ออกแบบเวที และแสดงเอง (ก็แหงสิ) ตั้งแต่ปี 1995 ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา อุดมทำเดี่ยวไมโครโฟนมาแล้ว 13 เวอร์ชั่น และชุดการแสดงพิเศษอีก 5 ชุด ล่าสุดกับ ‘เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์’
เรารู้จักอุดมครั้งแรกในฐานะ ‘เสนาโน้ต’ ตัวโจ๊กน้องเล็กแห่ง รายการยุทธการขยับเหงือก ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาทำเดี่ยวไมโครโฟน 1 เมื่อวันที่ 23-25 สิงหาคม 1995 จากคำแนะนำของครูสอนการแสดงที่เห็นว่า “เล่าเรื่องเก่งแบบนี้ ไม่ลองทำ Stand-up Comedy ดูล่ะ?”
แน่นอนว่าอุดมไม่รู้จักว่า Stand-up Comedy คืออะไร เช่นเดียวกับคนไทยส่วนใหญ่ในเวลานั้น
Photo: ร้านกิตติหนังสือเก่า
นอกจากสร้างชื่อจากการทำเดี่ยวไมโครโฟนแล้ว อุดมยังเป็นหนึ่งใน ‘คนดังหันมาเขียนหนังสือ’ ที่เป็นกระแสร้อนแรงในยุคนั้น เขาออกงานเขียนเล่มแรกในปี 1994 โทษฐานที่รู้จักกัน ซึ่งตีพิมพ์ 3 ครั้งภายในปี 4 เดือน และยังขายดีต่อไปเรื่อยๆจนตีพิมพ์ครั้งที่ 35 โดย Book Smile ในปี 2012 จนอุดมได้สมญาว่า ‘ตลกริเขียนหนังสือ’
ไม่ว่าจะเป็นเดี่ยวไมโครโฟนหรืองานเขียน อุดมมักหยิบเรื่องราวที่เกิดกับตัวเองหรือคนใกล้ตัวมาเรียบเรียงใหม่
“ผมเป็นเหมือนเชฟ ทำ Chef’s Table วิธีการเล่าเรื่องของผมเหมือนศิลปะในการจัดจาน อยู่ที่ว่าเราจะเล่าตอนไหนของเรื่องก่อน-หลัง” อุดมกล่าว “เรื่องที่ผมเล่าเป็นเรื่องจริงทุกเรื่อง เพราะถ้าเป็นเรื่องแต่ง ผมจะเล่าไม่ได้ เพราะผมจำไม่ได้”“เรื่องที่เอามาเล่าให้คนอื่นขำ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องขมขื่นทั้งนั้น แต่การที่เราจะก้าวข้ามความขมขื่นได้ เราต้องมองมันด้วยความขำขันเสียก่อน เหมือนเป็นการบำบัด”
เรื่องขมขื่นของเขานั้นมีมากเสียจนเคยถามพระว่า “ทำไมชีวิตผมถึงได้รายล้อมไปด้วยคนแปลกๆ พระตอบว่า ‘คนแบบไหนก็ดึงดูดคนแบบนั้น’”
Photo: FB: เดี่ยว
‘คนแปลก’ ตามนิยมของอุดมก็เช่น แม่ลูกที่คุกเข่าอ้อนวอนให้เขาไปร่วมทริปด้วย ปรากฏว่าเป็นทริปดำน้ำดูฉลาม
หรือผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นแฟนตัวยงเอาหนังสือมาให้เซ็นถึงบ้าน และขอยืมเงิน 2.5 แสนบาท บอกว่าจะคืนให้ถ้าถูกหวย แต่ถ้าไม่ถูกจะคืนให้ด้วยบุญกุศล
หรือแม้แต่ไปกินข้าวแล้วเจอเด็กเอนต์ที่ขอเงิน 4 หมื่นไปทำนม โดยให้สัญญาว่าถ้าโน้สให้เงิน เขาจะได้ดูนมที่ทำศัลยกรรมเป็นคัพ E ของเธอเป็นคนแรก เป็นต้น
อุดมเปรียบการทำเดี่ยวไมโครโฟนว่าเหมือน ‘ศิลปะของการเอาตัวรอดเพียงลำพัง’ ที่ไม่มีตัวช่วยจำบทเวที ราวกับตัวเขาเป็นนักปีนเขาด้วยมือเปล่าที่ไร้อุปกรณ์ ถ้าพลาดก็ร่วง หล่น เดดแอร์ เช่น ระหว่างที่เรื่องเล่าในเดี่ยวครั้งหนึ่ง หางตาเขาเห็นดาราสาวชื่อดังมากับแฟน แต่ไม่ใช่คนที่เป็นข่าวด้วย เขาสติหลุด หัวคิดไปว่าเธอมากับใคร นั่นเขากำลังงอนกันอยู่แน่เลย และแน่ๆเลย…เขาลืมบทบนเวที
อุดมมีเรื่องเล่าเต็มหัวไปหมด แต่จะคัดแยกบางเรื่องเก็บไว้เล่ากับเพื่อน บางเรื่องหยิบไปเล่าได้บนเวที หลักการใหญ่ๆก็คือ เรื่องที่จะไปโผล่บนเวทีเดี่ยวไมโครโฟนต้องเป็นเรื่องที่เล่าแล้วเขาไม่เดือดร้อน อันเป็นบทเรียนจากเดี่ยว 11 ที่เขาเคยพูดถึงลุงคนหนึ่ง แล้วมีคนของลุงโทรมาบอกให้ทำเต็มที่ ให้อิสระเต็มร้อย แต่ระมัดระวังด้วย เดี่ยวครั้งหน้าไปดูแน่
Photo: FB: เดี่ยว
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเดี่ยวไมโครโฟนของอุดมคือ ฉากหลังบนเวทีตกแต่งด้วยงานศิลปะของเขา อุดมรู้จักศิลปะตอนเด็กที่แม่พาเขาหนีจากชลบุรีไปอยู่สุรินทร์หลังจากพ่อเสียชีวิต เด็กชายอุดมเรียนร่วมห้องกับชาวเขมร เขารู้สึกแปลกแยก ว้าเหว่ และไปหลบภัยกับหน้ากระดาษที่เขาวาดอะไรขยุกขยุยไปเรื่อย จนเป็นต้นกำเนิดบรรดาศิลปะตัวประหลาดของเขาในทุกวันนี้
ไม่มีวันไหนที่อุดมไม่สเก็ตช์รูป การวาดรูปและทำงานศิลปะคืองานประจำ เพราะทำทุกวัน แต่เดี่ยวไมโครโฟนคืองานอดิเรก เพราะนานปีจะทำสักครั้ง เขากล่าว
งานศิลปะของอุดมมีหลายแบบ บ้างก็วาดรูปบนไม้ปิงปองสูงเกือบเท่าคน บ้างปั้นตัวประหลาดที่เพ่นพ่านในหัว(ทุกวัน)ให้ออกเป็นงานเซรามิก งานหล่อปูน งานไฟเบอร์กลาส จนคล้ายว่าสตูดิโอศิลปะของเขาเหมือนเป็นโรงพยาบาลบำบัดจิตใจที่เต็มไปด้วยความหื่น อิจฉา กลัว เศร้า เหงา เกลียด หรือแม้แต่รูปปั้นหมา ‘ดม Dog’ ไซซ์ใหญ่เท่าบ้านก็เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจสมัยไปคบกับสาวที่เขามองว่าเป็นดอกฟ้า
Photos: FB: เดี่ยว
ขณะที่งานศิลปะบางชิ้นก็เป็นการเขียนคำคมบนรูปว่า “ความสุขอยู่ที่ทัศนคติ ไม่ใช่สิ่งที่มี”
งานศิลปะมากมายที่เขาทำไว้ หากวันหนึ่งขายไม่ได้ เขาจะยกใส่รถเข็นแล้วให้คุณนายทองสุข มารดาผู้เป็นตัวละครหลักในเรื่องเล่าของเขามาตลอดอาชีพตลกแสดงเดี่ยว เข็นไปขาย “อาร์ตไหมจ๊ะ อาร์ตมาแล้วจ้ะ”
หน้าห้องน้ำบ้านอุดมมีกระจกบานใหญ่สะท้อนเงาได้เต็มตัว ทุกครั้งที่เขาอาบน้ำเสร็จและสบตากับเงาตัวเองในกระจก ผู้ชายตัวเล็ก จมูกโต พุงโล ตูดแบน ขาโก่ง เล็ก ลาย เขาฉงนในใจเสมอว่าชายคนนี้มาถึงจุดนี้ได้อย่างไรในเมื่อไม่มีคุณสมบัติใดกับการเป็น ‘สตาร์’ เลย และมันทำให้ทุกครั้งที่เมื่อคนทางบ้านได้เจอตัวเป็นๆของอุดมแล้วพูดว่า “ตัวจริงหล่อจังเลย”
“ผมอยากจะโอนตังค์ให้เขาหมดบัญชีเลย” อุดมกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
งานศิลปะชิ้นสุดท้ายในชีวิต อุดมคิดเตรียมไว้แล้ว เขาจะให้คนมาเผาศพ นำกระดูกไปบดเป็นผง แล้วใส่ในนาฬิกาทราย ติดป้าย ‘อุดม แต้พานิช’
“นั่นคือชื่อผลงานชิ้นสุดท้ายของผม”
ซ้าย: เดี่ยว 1 ที่เชียงใหม่ปี 1995 ขวา: เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ปี 2024
Photos: FB: เดี่ยว
Words: Sritala Supapong
ที่มา
- Sit Down with Stand Up อุดม แต้พานิช, Netflix
- เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์, Netflix