สัตว์เลี้ยงที่ดูอันตรายที่สุดที่คุณเคยเลี้ยงคือสัตว์ชนิดใด? แล้วมันโจมตีคุณมั๊ย? เพราะสำหรับ กิลแบร์โต เชดเดน (ชิโต) ชาวประมงจากคอสตาริกาผู้นี้ เขาเลี้ยง “จระเข้” ไว้เป็นเพื่อนมานานกว่า 20 ปี “เขาคอยดูแลด้วยความจริงใจห่วงใยและคอยให้ความรัก เพราะกังวลว่ามันจะตาย (ในช่วงแรก) จึงคอยเอาใจทุกอย่าง” ทั้งการมอบความรักแบบที่มนุษย์เราทำกัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับคนจำนวนไม่น้อยว่า จระเข้เนี่ยนะ จะเชื่องได้จริงหรอ?
มิตรภาพอันน่าอัศจรรย์ของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 ขณะกำลังเตรียมจะแล่นเรือบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Reventazón จู่ ๆ ชิโตก็เหลือบไปเห็นร่างอันร่อแร่ของจระเข้หนุ่มที่หนักประมาณ 70 กก. นอนซมอยู่ ซึ่งผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า จระเข้ดังกล่าวถูก “ยิง” เข้าที่ตาข้างซ้ายผ่านสมองเข้าไป โดยฝีมือของเกษตรกรที่โกรธจัดเพราะจระเข้ดังกล่าวมาแอบกินวัวของเขานั่นเอง
ด้วยความที่เป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว ชิโตไม่รอช้าที่จะพาเจ้าจระเข้เคราะห์ร้ายกลับบ้านไปด้วย เขาเพียงคิดว่า ณ ตอนั้นอยากจะทำให้มันกลับมามีชีวิตปกติอีกครั้ง ซึ่งในทุก ๆ สัปดาห์เขาต้องเตรียมเนื้อไก่และปลากว่า 30 กก. เพื่อดูแลจระเข้ตัวนี้ ซึ่งในช่วงแรกมันแทบไม่ยอมกินอาหารเลย ทำให้ชิโตถึงขนาดต้องจำลองวิธีการกินและเคี้ยวให้มันดู ยิ่งไปกว่านั้นเขายังคอยกอด จูบ และลูบไปตามผิวหนังของจระเข้เพื่อมอบความรักให้กับมัน
“ผมแค่อยากให้มันรู้สึกว่า มีคนที่รักและห่วงใยมันอยู่ อยากให้มันรู้ว่ามนุษย์ไม่ได้ใจร้ายทุกคน ผมเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้ว โดยเฉพาะสัตว์ที่เจ็บป่วย เพราะฉะนั้นถ้าผมปรารถนาให้มันมีชีวิตอยู่ ผมก็จะมอบความรักให้กับมัน” ชิโตกล่าว
หลังจากนั้น 6 เดือน เมื่อจระเข้หนุ่มกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงเป็นปกติ ชิโตก็พามันไปปล่อยในแม่น้ำ เพื่อให้สัตว์ได้กลับไปใช้ชีวิตในป่า แต่ทว่า ในเช้าวันถัดมาจระเข้ตัวนี้กลับโผล่มาบริเวณเฉลียงบ้านของชิโตอีกครั้ง ซึ่งในตอนนั้นกฎหมายของคอสตาริกาอนุญาตให้เลี้ยงจระเข้ได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ปิดของตนเอง ดังนั้นชิโตจึงไม่รอช้าที่จะโอบรับเจ้าจระเข้หนุ่มเข้ามาอยู่ในครอบครัวพร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า “โพโช่” (Pocho) โดยเจ้าโพโช่จะอาศัยอยู่ในบึงใกล้บ้านของชิโต เรื่องนี้ทำให้ภรรยาคนแรกของเขารับไม่ได้และต้องขอหย่าในที่สุด เพราะน้อยใจที่สามีทุ่มเวลาให้กับจระเข้โดยไม่สนใจเธอเลย
มิตรภาพต่างสปีชีส์ของทั้งคู่ยาวนานมากว่า 2 ทศวรรษ โดยใน 10 ปีแรก ชิโตมักจะออกไปว่ายน้ำในตอนกลางคืนเพื่อเล่นกับโพโช่ พร้อมทั้งคอยมอบความรัก และฝึกให้เจ้าโพโช่เป็นจระเข้ที่เชื่องให้ได้ กระทั่งใน 10 ปีถัดมา ชิโตได้นำเรื่องราวของพวกเขามาจัดแสดงโชว์ในบ้านเกิด ณ ตอนนั้นเรื่องราวมิตรภาพของพวกเขาดันเป็นพลุแตก จนมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาชมโชว์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
เรื่องราวของเขาทั้งคู่ได้ถูกนำไปทำสารคดีเรื่อง “The Man Who Swims With Crocodiles” โดยโรเจอร์ ฮอร์รอกส์ ผู้อำนวยการสร้างสารคดีนี้แสดงความคิดเห็นว่า “เป็นไปได้ที่บาดแผลที่เจ้าจากกระสุนปืน น่าจะทำลายบางส่วนของสมองเจ้าโพโช่ จนทำให้มันขาดสัญชาตญาณนักล่าของมันเปลี่ยนไป”
Photo : tolkoludi.ru
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเศร้าที่เจ้าโพโช่ได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2011 ด้วยสาเหตุตามธรรมชาติ ซึ่งได้มีการจัดพิธีศพให้กับโพโช่ราวกับพิธีศพของมนุษย์ ซึ่งมีผู้คนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยซากศพของมันยังถูกนำไปจัดแสดงในฐานะจระเข้ผู้น่ารัก ณ พิพิธภัณฑ์เมืองซิควาเรส ประเทศคอสตาริกา แต่แม้มันจะจากไปนานกว่าทศวรรษแล้ว แต่เรื่องราวความน่ารักของพาโช่ และมิตรภาพระหว่างมันกับเจ้าของยังคงเป็นตำนานสำหรับชาวคอสตาริกาอยู่จนถึงทุกวันนี้
โดยหลังจากการสูญเสียครั้งนั้น ชิโตก็ได้พบกับจระเข้ตัวใหม่พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า “พาโช่ ทู” (Pacho II) โดยหวังว่าจะทำให้มันเชื่องพอที่จะนำไปแสดงโชว์ได้ แม้ว่าหลาย ๆ คนจะเป็นกังวลว่า มิตรภาพและความรักที่เขาเคยได้รับจากจระเข้ผู้น่ารักตัวก่อน อาจไม่เกิดขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้
ข้อมูลจาก
https://ticotimes.net/2015/10/11/pocho-dead-legend-lives
https://nilepost.co.ug/features/212957/pocho-the-crocodile-how-giant-croc-became-a-mans-best-friend
https://animalsaustralia.org/our-work/wildlife/amazing-croc-story/
Photos
https://pixabay.com/photos/crocodile-alligator-reptile-animal-7564834/
https://pixabay.com/photos/sunset-lake-fisherman-landscape-7339628/
https://tolkoludi.ru/mujchina-spas-krokodila-i-podrujilsya-s-nim/