‘เคอร์บี้’ คนมองไกล-มองขาดที่ ‘คัลแลน-พี่จอง’ แห่งยกให้เป็นทีมลีดเดอร์ที่แท้ทรู

แฟนๆที่ติดตาม Vlog การผจญภัยตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเมืองไทยของ ‘คัลแลน-พี่จอง’ จะรู้สึกว่ามีตัวละครลับที่สองหนุ่มมักพูดถึงบ่อยครั้งเมื่อทำอะไรแผลงๆว่า ‘เคอร์บี้จะโมโห’ จนมาถึงอีพีที่ 100 ที่เคอร์บี้ตัวจริงออกมาเฉลยว่าขี้โมโหจริงหรือเปล่า รวมไปถึงทิศทางของช่อง และพอดังแล้วช่องนี้จะเปลี่ยนไปไหม

สายตาที่เฉียบคมกับชั้นเชิงการเล่าเรื่อง

หากตามช่อง Cullen Hateberry ย่อมเคยได้เห็นเคอร์บี้ เพื่อนดีเจและโปรดิวเซอร์ร่วมทีม Hateberry ของคัลแลนมาแจมตามคลิปต่างๆประปราย ด้วยบุคลิกหนุ่มสายแฟนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่พูดทีก็มักให้ทัศนคติเฉียบคม ต่างจากคัลแลนที่ลิงโลดสดใสและชอบยั่วให้ ‘เคอร์บี้จะโมโห’ อยู่เสมอ กลายเป็นส่วนผสมที่ทำให้แฟนๆมักเรียกร้องให้เคอร์บี้ออกกล้องบ่อยๆ

ตัวอย่างการแสดงวิสัยทัศน์ของเคอร์บี้ที่ทำให้หมดสงสัยเลยว่า เหตุใดช่อง Cullen Hateberry จึงประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้ก็เช่น

ในอีพี ‘พาพี่จองเปลี่ยนสไตล์’ ที่เคอร์บี้รับหน้าที่แปลงโฉมให้พี่จอง ก่อนจะเริ่มออกช้อปปิ้งที่สยามสแควร์ สามหนุ่มไปนั่งคาเฟ่กันก่อน เมื่อคัลแลนถามว่าพี่จองเหมาะกับสไตล์แฟชั่นแบบไหน แทนที่ จะตอบว่า แคชวลสมาร์ต , สตรีท , สปอร์ต , คลาสสิก ฯลฯ เคอร์บี้กลับตอบแบบนี้ว่า

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

“ก่อนอื่นขอบอกแบบนี้นะว่า ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น…จะขอแนะนำจากความคิดเห็นส่วนตัวนะ อย่างแรกเลยคือความสนใจ นาย (หมายถึงคัลแลน) สนใจพวกไอที โทรศัพท์ใช่ไหม ส่วนผมนั้นยังแยกไอโฟน 13, 8 หรือ 7 ไม่ออกเลย แต่พวกนายก็ไม่เคยว่าฉันล้าสมัย แต่นายแค่มองแว้บเดียวก็รู้แล้วว่าไอโฟนรุ่นอะไร พอนายมีความสนใจแล้วก็จะหาซื้ออันที่เหมาะกับนาย

Photo: @cullen_hateberry

“เมื่อวันก่อนฉันดูยูทูบกงยู เขาใส่เสื้อที่สะดุดตามากในรายการ พอดูแล้วถึงรู้ว่าเสื้อสไตล์นี้มันสวยแบบนี้นี่เอง แล้วจู่ก็มีคลิปหนึ่งเด้งขึ้นมา มันเป็นคลิปของช่องนาย ก็เลยกดเข้าไปดู แล้วก็เห็น ‘เสื้อคล้ายๆของกงยู’ มีบางคนกำลังใส่มันอยู่ ‘เป็นยากูซ่าที่กำลังบดกาแฟกลางชายหาดที่ระยอง’ ตอนนั้นรู้เลยว่าเสื้อสวยไม่สำคัญ ‘แต่เป็นเสื้อที่เข้ากับตัวเองต่างหาก’ วันนี้เลยจะหาเสื้อที่เข้ากับพี่จองให้”

คอมเมนต์ของเคอร์บี้ทำให้แฟนๆมาคอมเมนต์ชื่นชมมากมายว่ามีชั้นเชิงในการชงเข้าเรื่องมาก ขณะเดียวกันก็สะท้อนว่าเขาเป็นคนมองขาดและรู้ว่าใครเหมาะกับอะไร                                                                          

คนสำคัญหลังกล้อง

ในอีพี 100 เป็นตอนพิเศษที่สองหนุ่มคัลแลนและพี่จองไปพูดคุยกับสมาชิกทุกคนในทีม โดยเริ่มจากเคอร์บี้ที่คัลแลนเกริ่นว่า “เคอร์บี้เป็นคนไม่ชอบออกหน้ากล้อง แต่ข้างหลังเป็นคนสำคัญที่สุดในทีมยูทูบครับ คิดว่าเคอร์บี้เป็นหัวหน้าทีมยูทูบ ทำทุกอย่างหมดเลยครับ แล้วรับงานอะไรไม่ดี อะไรดี ทุกอย่างเคอร์บี้เลือกครับ”

Photo: @kirby_hateberry

ตัวตนของช่อง Cullen Hateberry

เคอร์บี้พูดถึงแก่นความเป็นช่องที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ของ Cullen Hateberry ว่า “รูปแบบช่องของเรานั้นจะเรียกว่าคอนเทนต์ท่องเที่ยวเลยก็ไม่เชิง เพราะเราไม่ได้ให้ข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวอะไรเลย บางทีผู้ชมบางคนอาจจะรู้เยอะกว่าพวกเราอีก ผมว่าเราแค่ไปเที่ยวถ่ายคลิปแบบ vlog มากกว่า สไตล์ของเราคือแฮปปี้ คิดบวก ทุกคนดูได้ทุกเพศทุกวัย ผมอยากจะทำคอนเทนต์ที่เฮลตี้ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำคอนเทนต์”  

คัลแลนรับบทพิธีกร ช่วยยิงคำถามจากทางบ้านว่า “เราตัดสินใจทำคอนเทนต์นี้ได้อย่างไร”

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

เคอร์บี้: ตอนแรกคิดหนักมาก งานทำเพลงหรือวิดีโอ ผมทำมานานมาก แต่ทำยูทูบครั้งแรก ผมเลยพยายามนึกถึงยูทูบที่เคยดูตอนอยู่เกาหลี จำได้ว่าเคยดูยูทูบที่เป็นชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวแถวยังพย็อง ตอนนั้นผมรู้สึกแบบนี้ เวลาเราอยู่เกาหลี เราไม่เคยไปที่แบบนั้น มีสถานที่ดีๆสวยๆในประเทศเราด้วย เราอยู่เกาหลีมาประมาณ 30 ปี ไม่เคยได้ไปสัมผัสเกาหลีในมุมมองของชาวต่างชาติเลย ผมเลยนำเอาสไตล์และนิสัยของคัลแลนมารวมเข้าด้วยกัน ผมคิดว่าคนไทยที่ดูคอนเทนต์ของพวกเราอาจจะรู้สึกเหมือนผมตอนนั้น ในมุมมองคนไทย ‘โอ๊ะ ในไทยก็มีที่สวยๆแบบนี้ด้วย?’ บางครั้งคนไทยอาจรู้สึกถึงเสน่ห์ในจุดนี้จากคอนเทนต์ของเรา

Photo: @cullen_hateberry

คลิปที่คนดูหลักล้านควรยาวกี่นาที ต้องอัปโหลดทุกกี่วันดี?

ต่อมาเป็นคำถามจากทางบ้านเช่นกันว่า ระยะเวลาในการอัปโหลดคลิปของช่องคือทุกๆกี่วัน

เคอร์บี้: เราไม่ได้กำหนดความยาวของวิดีโอ อาจจะ 40, 50 นาที หรือมากกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากถ่ายทำ ตัดต่อและขั้นตอนอื่นๆเสร็จ เราจึงจะอัปโหลด แต่ที่เราตั้งใจไว้คือ 5-7 วัน อย่างช้าสุดคือ 8 วัน ถ้านานกว่านั้นเราจะแจ้งผ่านช่องเราว่าเหตุผลที่ช้าคืออะไร นี่คือกฎที่แน่นอนแล้วจะเป็นแบบนี้ต่อไป

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

ทริปสุพรรณบุรีที่แม้ยาวถึง 1 ชั่วโมง 40 นาที แต่เป็นหนึ่งในคลิปที่มียอดวิวสูงสุดของช่องเพราะความสนุกดูเพลินจนลืมเวลา

คัลแลน: แฟนๆอยากดูบ่อยกว่านี้

เคอร์บี้: ใช่ ฟีดแบ็กแบบนี้เยอะมาก และผมอยากจะบอกว่า ในส่วนนี้ทีมท่องเที่ยวก็มีส่วน และคนที่ทำงานหนักที่สุดตอนนี้คืออิง คนตัดต่อที่ได้นอนวันละ 2 ชั่วโมงเอง และผมก็อยากแก้ปัญหานี้เหมือนกัน เราจะลองจ้างคนตัดต่อเพิ่มดีไหม แต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้เรื่องระยะเวลาอัปโหลดคลิป ไม่ว่าจะมีคนตัดต่อเพิ่ม 2 หรือ 3 คน รอบการอัปโหลดก็จะเหมือนเดิมที่ทุกๆ 5-7 วัน

เหตุผลคือการถ่ายทำของทีมท่องเที่ยว ผมคิดว่ามันไม่ง่ายที่จะออกไปถ่ายทำ 2-3 วันที่ต่างจังหวัดทั้งวัน ถ้าเราอัปโหลดทุกๆ 3-4 วัน จะเป็นการกดดันและเร่งรัดทีมท่องเที่ยวเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมตัวก่อนไปถ่ายสำหรับทีมท่องเที่ยวคือ ต้องมีความจริงใจ แฮปปี้ และสนุก ผมคิดว่าเวลาในการลงคลิปลงตัวแล้ว ถ้าเร่งรัดกว่านี้ พวกนายอาจจะไม่สนุกก็ได้ นั่นหมายความว่าเราจะไม่สามารถทำคอนเทนต์ให้ออกมาสนุกได้ อิงบอกว่าถ้าอย่างนั้น อิงจะทำทำทั้งหมดเอง ไม่ว่าคนตัดต่อจะเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้การอัปโหลดคลิปเร็วขึ้นได้

Photo: @cullen_hateberry

ภาพสวย อุปกรณ์ดี สำคัญแค่ไหนที่ทำให้คนกดเข้ามาดู

คัลแลนยิงคอมเมนต์จากแฟนๆ ที่อยากให้ปรับปรุงคุณภาพของภาพและเสียง เช่น กล้องสั่นมาก เวียนหัว อยากดูวิวดีๆ ใช้โดรนได้ไหม ไม่ค่อยได้ยินเสียงเลย ใช้ไมค์หน่อย

เคอร์บี้: เกี่ยวกับอุปกรณ์ถ่ายทำ ผมจะตอบที่นี่ครั้งเดียวนะ จริงๆแล้วพวกเราสามารถอัปเกรดอุปกรณ์ถ่ายทำทุกอย่างให้มีคุณภาพสูงกว่านี้ได้นะ นี่เป็นความคิดและวิธีการของผม เวลาถ่ายทำ สิ่งที่ผมใส่ใจที่สุดและต้องรักษาไว้ให้ได้คือผู้ชมของเราที่ต้องมีความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวด้วยกันกับเรา เวลาพวกนายถ่ายทำ กล้องที่อยู่กับพวกนายทุกที่ตลอดเวลา พอพวกนายวิ่งมันก็จะสั่น ถ้านายไปที่ที่เสียงดัง เราก็จะได้ยินเสียงด้วยเหมือนกัน ที่เราทำแบบนี้ เพราะอยากทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนไปเที่ยวด้วยกัน ผมเลยพอใจกับคุณภาพการถ่ายทำของเราตอนนี้   

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

ทริปทรหดเดินเท้าขึ้นภูกระดึง ทริปโปรดของสมาชิกของช่อง

คัลแลน: ผมเห็นด้วย เราคือทีมที่ไปถ่ายในสถานที่จริง เราไม่อยากเสียความเป็นธรรมชาติไปกับกล้องหรืออุปกรณ์ แค่เอากล้องไป 1 ตัว แล้วทำอะไรที่เราอยากทำอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าเรากังวลกับเสียงที่ดังเกินไป เราอาจจะไม่ได้ไปที่ที่เราอยากไปก็ได้ ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนสไตล์การถ่ายทำ เราจะสูญเสียความเป็นเรียลลิตี้และธรรมชาติที่เราต้องการ

Photo: @cullen_hateberry

เลือกสปอนเซอร์แบบไหนไม่ให้รบการการรับชม

แฟนๆยังเป็นห่วงสถานะทางการเงินของช่อง ดังที่คัลแลนอ่านคอมเมนต์ว่า “ช่องอื่นโปรโมตสินค้าและโฆษณาเยอะมาก แต่ช่องเราไม่ค่อยมีเลย ช่องเราไม่มีโฆษณาเข้ามาเลยเหรอ”

เคอร์บี้: ก่อนหน้านี้ โฆษณาและบริษัทต่างๆยื่นข้อเสนอให้เรามาเยอะมาก เราคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เราอยากเลี่ยงการโฆษณาที่รบกวนการรับชม และเนื่องจากการถ่ายทำทั้งล่าช้าและไม่มีสคริปต์ เราไปที่ที่เราอยากไป และกินในร้านที่เราอยากกิน การติดต่อร้านไปก่อนและต้องไปพูดว่าอร่อย คอนเทนต์ของเราตอนนี้จะไม่แมตช์กับการทำแบบนั้น และถ้าจู่ๆเราเอาสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์มาโปรโมตในคลิป ผมจะรู้สึกไม่สบายใจมาก

มีหลายๆข้อเสนอจากโฆษณาและ tie-in สินค้าเข้ามา พวกเราต้องปฏิเสธเพราะเหตุผลนี้ เช่นเดียวกับ La Roche-Posay ที่อยากร่วมงานระยะยาวกับเรา แล้วเราจะได้โชว์สินค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ กันแดดเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทุกครั้ง ใช้จริงและจำเป็นจริงๆ เงื่อนไขเราเป็นแบบนี้ เลยไม่ง่ายที่จะหาได้ครับ น่าจะเร็วๆนี้ เราจะประกาศผู้สนับสนุนอาหารสุนัขและแมว และถ้าบริษัทอื่นๆที่สนใจเงื่อนไขของเรา ผมก็รอฟัง เผื่อบางทีผู้สนับสนุนของเรา เช่น รองเท้าหรืออะไรแบบนี้ ติดต่อเราได้เสมอครับ

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

ครั้งแรกที่พี่จองปรากฏตัวในช่อง Cullen Hateberry ในฐานะ ‘พี่ชายเกาหลี’ ของคัลแลน

เคอร์บี้จะโมโห…จริงๆเหรอ

แม้ว่าช่วงหลัง เคอร์บี้จะไม่ได้ไปร่วมทริปถ่ายทำกับคัลแลนและพี่จองแล้วก็ตาม เพราะต้องดูแลการผลิต แต่แฟนๆยังรู้สึกถึงการดำรงอยู่ เสมือนว่าเคอร์บี้ตามมาเที่ยวด้วยทุกครั้ง เพราะสองหนุ่มเห็นอะไรเป็นต้องซื้อไปฝาก หรือพอทำอะไรพิเรนทร์ก็จะมองหน้ากันและพูดพร้อมกันว่า ‘เคอร์บี้จะโมโห’ จนแฟนๆสงสัยจริงจังว่าเคอร์บี้ขี้โมโหมากเลยรึ

เคอร์บี้: ผมมาคิดๆดูเรื่องนี้ เพราะผมจะซีเรียสมากๆเวลาทำงาน แต่ที่ผมดูเหมือนโมโห เพราะสองคนนี้มักจะหยอกล้อเล่นกัน ผมก็เลยเหมือนดูโมโห อย่างที่รู้ว่าผมดูเหมือนคนหยิ่ง คนที่อยู่ฝั่งผมจะไม่ค่อยเยอะเท่าไร แต้ถ้าดูดีๆ ผมคือคนที่ตกเป็นเหยื่อต่างหาก

พี่จอง: ผมอยากจะบอกอย่างหนึ่งว่า เคอร์บี้จะคอยให้คำแนะนำเราเสมอ ถ้าเราไปผิดประเด็น เขาก็จะพูดจริงจังขึ้นมา พวกเราเลยพูดแบบนั้น(ว่าเคอร์บี้จะโมโห) แต่นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว เขาเป็นคนที่อบอุ่นและดีมากกว่าคนอื่นๆ

คัลแลน: ผมไม่เคยเห็นเขาโมโหเลย แต่เวลาทำงานก็จะเปลี่ยนไป คนจริงใจ

เคอร์บี้: จิ้งจก? ทำไมพูดถึงจิ้งจก? คนจิ้งจกเหรอ?

YouTube :컬렌 Cullen HateBerry

คลิปเปิดตัวช่องยูทูบ Cullen Hateberry เมื่อ 7 เมษายน ปี 2022 ก่อนที่ช่องจะเติบโตจนมียอดซับกว่า 2.27 ล้านในวันนี้

รับมืออย่างไรเมื่อเกิดดราม่าในโลกโซเชียล

ปิดท้ายด้วยปัญหาคลาสสิกของโลกโซเชียลที่มีดราม่าเกิดใหม่ได้ทุกวัน ยิ่งโด่งดังมากก็ยิ่งเป็นที่จับตามาก คัลแลนและพี่จองจึงเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายอยู่หลายครั้ง

คัลแลน: ที่ไทยเรียกว่าดราม่าใช่ไหม เดือนที่ผ่านมามีประเด็นเกี่ยวกับเราเยอะมาก นายรู้แล้วใช่ไหม

เคอร์บี้: ฉันรู้แล้ว ถ้าให้พูดตามตรงนะ ผู้ติดตามของเราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีประเด็นดราม่าอะไร เราไม่เคยโต้ตอบ ถ้าให้พูดตรงๆ ไม่มีอะไรให้โต้ตอบเลย เรื่องแบบนี้ก็กลายเป็นประเด็นได้เหรอ? ตอนแรกผมพยายามตั้งใจดูดีๆนะ หลังจากเจอเรื่องแบบนี้ 2-3 ครั้ง ตัวผมและพวกเราทุกคน เราไม่ได้สนใจและไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยครับ

อย่างเช่น ประเด็นเรื่องค่าตัว เราต้องทำยังไงล่ะครับ ‘โอ้…ราคานั้นไม่ใช่ครับ’ หรือว่า ‘ค่าตัวเราคือเท่านี้ครับ’ ต้องพูดแบบนี้เหรอ แล้วก็ประเด็นเรื่องวีซ่า เราต้องอัปโหลดวีซ่าของพวกเรามาโชว์เหรอ ผมรู้ว่าแฟนๆของพวกเรากังวลกับประเด็นนี้ แต่เราไม่ได้สนใจหรือหวั่นใจ และเราก็ไม่แคร์เลยครับ และโดยพื้นฐานสไตล์ของเราคือ แค่โฟกัสกับงานของเราไปแบบเงียบๆก็พอครับ

คัลแลน: สุดท้ายช่วยพูดอะไรกับกล้องหน่อย

เคอร์บี้: ตอนนี้หลายๆคนที่ชอบพวกนายและช่องของเรา ผมรู้ว่าทุกคนกังวลอะไรที่สุด เรื่องที่ว่าพอช่องของเราโตแล้ว เราจะเปลี่ยนไปไหม ถ้าจะให้พูดตรงๆ เขาสองคน (คัลแลนและพี่จอง)เป็นคนที่ถ่อมตัว และเป้าหมายของพวกเราก็คือ ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ความโด่งดัง ถึงแม้เราจะทำเงินได้เยอะหรือดังมากๆ เราพูดได้ว่าเราจะไม่มีทางเปลี่ยนไปครับ

Photo: @cullen_hateberry

ได้ยินจากปากลีดเดอร์แล้วค่อยโล่งใจ ขอให้ด้อมใจฟูส่งกำลังใจและความรักเยอะๆให้เคอร์บี้ อิง คัลแลน พี่จอง แดน จูดี้ และคุณมาญ่า ผู้จัดการที่ดูแลคิวให้ทุกคนกันต่อไปนานๆ

 

Words: Sritala Supapong  

you might like

Scroll to Top