‘แม่หยัว’ หญิงร้ายเพราะความแค้น หรือแม่ยั่วเพราะคบชู้ใฝ่สูง

ซีรีส์ย้อนยุคฟอร์มใหญ่แห่งปี ‘แม่หยัว’ ซึ่งใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ สวมบทสตรีแห่งอยุธยาที่เคยขึ้นสูงสุด แล้วตกต่ำสุด จนประวัติศาสตร์จารึกว่า เธอเป็นหญิงชั่วยั่วเมือง คบชู้ฆ่าลูกตัวเอง แล้วขึ้นเป็นใหญ่ หรือบ้างก็ว่าแม่หยัวเป็นผู้ถูกกระทำด้วยเป็นผู้หญิงที่โดนสังคมชายเป็นใหญ่กดขี่…

ไม่ว่าเรื่องราวในซีรีส์จะตีความ ‘แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์’ สนมเอกของกษัตริย์อยุธยาผู้เรืองอำนาจอย่างไร The Optimized ชวนมองจุดเริ่มต้นและจุดจบของแม่หยัวจากมุมมองของสองนักประวัติศาสตร์ไทย

สุจิตต์ วงษ์เทศ นักเขียน นักประวัติศาสตร์และผู้ก่อตั้งนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ได้เล่าที่มาของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ไว้ดังนี้ ย้อนความไปถึงพระรัษฎาธิราช โอรสหน่อพุทธางกูร (สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ) อายุ 5 พรรษา เสวยราชย์ 5 เดือน เพราะโดนพระไชยราชาจับตัวไปสำเร็จโทษ แล้วขึ้นครองราชย์แทนเป็นกษัตริย์อยุธยาพระนามว่า พระไชยราชาธิราช มีมเหสีเอกชื่อท้าวศรีสุดาจันทร์

Photo: oneD

ในการรับรู้ของคนทั่วไปมักคิดว่าศรีสุดาจันทร์คือหญิงชาวบ้าน เพราะเคยมีนักเขียนนิยายสมัยหนึ่งเขียนว่า ศรีสุดาจันทร์เป็นหญิงโสเภณี เป็นหญิงชาวบ้านชื่ออีจัน เที่ยวได้ไปติดสินบนหลับนอนกับผู้มีอำนาจเพื่อหาทางไต่เต้าทางสังคม ซึ่งล้วนเป็นจินตนาการเพ้อฝันใส่ร้ายศรีสุดาจันทร์เท่านั้น

ศรีสุดาจันทร์คือ 1 ใน 4 สนมของกษัตริย์สมัยอยุธยา ซึ่งในยุคนั้นกษัตริย์ถือคติจักรพรรดิราช จึงต้องมีสนม 4 ทิศที่มาจากธิดาเจ้าเมืองที่เป็นใหญ่ในทิศทั้งสี่ มีตำแหน่งในกฎมณเฑียรบาล ได้แก่ ท้าวอินทรสุเรนทร์ ท้าวศรีสุดาจันทร์ ท้าวอินทรเทวี ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ศรีสุดาจันทร์จึงไม่ใช่หญิงสามัญชน แต่เป็นธิดาเจ้าเมือง

ด้วยความเข้าใจผิด ตำราประวัติศาสตร์เขียนว่าท้าวศรีจุฬาลักษณ์ (มีเรื่องแต่งว่าเป็นนางนพมาศผู้ริเริ่มการลอยกระทง) เป็นธิดาเจ้าทางสุโขทัย แต่ผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลป์หาหลักฐานมาคัดง้างว่า ท้าวศรีจุฬาลักษณ์เป็นธิดาเจ้าเมืองสุพรรณภูมิ ส่วนท้าวอินทรสุเรนทร์และท้าวอินทรเทวีเป็นธิดาเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชและสุโขทัย ท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นเจ้าเชื้อสายเมืองละโว้

Photo: IG@davikah

สนมทั้งสี่เสมอภาคกัน แต่ใครที่มีพระโอรสจะได้เป็นสนมเอก ซึ่งจะได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าแม่อยู่หัวเมือง ภาษาพูดได้กร่อนคำไปเป็น แม่หยัวเมือง ไม่ใช่แม่ยั่วเมือง หมายถึงสตรีที่เป็นใหญ่ในเมืองนั้น ท้าวศรีสุดาจันทร์มีพระโอรส 2 องค์ คือพระยอดฟ้าและพระศรีศิลป์ จึงขึ้นเป็นสนมเอกและถูกเรียนขานว่า แม่อยู่หัว หรือแม่หยัวเมืองด้วยเหตุนี้

ศรีสุดาจันทร์มีเชื้อสายละโว้ ซึ่งถูกล้มล้างทำลายด้วยเจ้าเชื้อสายสุพรรณ ความแค้นฝังหุ่นจึงตกทอดกันมาในใจของเจ้าเชื้อสายละโว้ เมื่อศรีสุดาจันทร์ได้มาเป็นสนมของพระไชยราชา กษัตริย์พระองค์ที่ 13 แห่งกรุงศรีอยุธยาในสมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิ แม่อยู่หัวฯ จึงคิดจะกอบกู้ศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูลคืนมา และได้สมคบคิดกับญาติ คือขุนวรวงศา ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ มีขุมกำลังอยู่ทางบ้านมหาโลก เป็นแหล่งผลิตเหล็กทำมีดดาบอาวุธขาย

Photo: oneD

ในเอกสารโบราณเขียนไว้ว่า ขุนวรวงศามีตำแหน่งเป็นขุนชินราช คือเป็นพนักงานเฝ้าหอพระปราสาทพระเทพบิดร หรือกษัตริย์บรรพชนและสรรพตำรา ในด้านหนึ่งขุนวรวงศาจึงเป็นเหมือนพระอาจารย์ที่คอยเล่าพงศาวดารให้โอรสธิดากษัตริย์ฟัง (เหมือนเป็นครูสอนประวัติศาสตร์)

ขุนวรวงศาสมคบคิดกับท้าวศรีสุดาจันทร์ปลงพระชนม์พระไชยราชาเพราะความแค้นทางสายเลือดในอดีต แล้วยกพระยอดฟ้า พระโอรสขึ้นครองราชย์ขณะอายุได้ 11 พรรษา ท้าวศรีสุดาจันทร์จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระยอดฟ้าครองราชย์ได้ 1 ปี 2 เดือน ในเอกสารของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพบันทึกว่า พระยอดฟ้าถูกลอบปลงพระชนม์โดยกลุ่มขุนนาง แต่ข่าวลือหรือเฟกนิวส์กล่าวว่า พระยอดฟ้าถูกปลงพระชนม์โดยขุนวรวงศาและแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์

ศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาวางแผนจะทวงอำนาจคืน แต่สุดท้ายแพ้ให้แก่ขุนพิเรนทรเทพ (พระบิดาของพระนเรศวร) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองสุโขทัย แต่ถูกลดยศให้มาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา และเป็นขุนนางดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจในยุคที่พระไชยราชาขึ้นครองราชย์

ขุนพิเรนทรเทพจึงยึดอำนาจจากขุนวรวงศาและท้าวศรีสุดาจันทร์ แล้วถวายคืนให้กับพระเทียรราชา น้องชายพระไชยราชาที่บวชอยู่ให้ขึ้นเป็นพระมหาจักรพรรดิ ขุนพิเรนทรเทพขอบำเหน็จรางวัลเป็นการขอกลับไปอยู่สุโขทัย พระเทียรราชาได้ยกพระธิดาให้ขุนพิเรนทรเทพเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กันไว้ พระมารดาของพระนเรศวรก็คือพระธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กษัตริย์อยุธยานั่นเอง

 Photo: oneD

ส่วนการค้นคว้าของ ศ.ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ร่วมเขียนบทหนังสุริโยไทกับท่านมุ้ย ได้พบว่า ครั้งหนึ่งพระไชยราชาธิราชขึ้นไปรบที่เชียงใหม่ ขากลับเกิดสิ้นพระชนม์กะทันหัน ในหนังสุริโยทัยกล่าวว่าทรงถูกลอบวางยาพิษโดยท้าวศรีสุดาจันทร์ แต่ในพงศาวดารไม่ได้กล่าวเช่นนั้น แต่กล่าวว่าประชวรแล้วสวรรคต

แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงสถาปนาพระแก้วฟ้า (หรือพระยอดฟ้า) พระโอรสซึ่งบ้างก็ว่าอายุ 11 หรือ 13 พรรษาขึ้นเป็นกษัตริย์ ด้วยความยังทรงพระเยาว์อยู่มาก แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงเป็นฝ่ายว่าราชการหลังม่าน เป็นผู้สำเร็จราชการรอจนกว่าพระแก้วฟ้าจะเติบโต

ในช่วงที่แม่อยู่หัวฯ เป็นผู้สำเร็จราชการได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ฝ่ายหน้า แล้วผ่านพระที่นั่งพิมานรัตยา จึงได้เห็นพันบุตรศรีเทพ ซึ่งตามความในพระราชพงศาวดาร ขุนวรวงศารั้งตำแหน่งพันบุตรศรีเทพ เป็นตำแหน่งผู้ควบคุมหรือดูแลหอพระฝ่ายหน้า แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์เกิดมีใจเสน่หาต่อผู้ดูแลหอพระฝ่ายหน้าผู้นี้ จึงให้คนนำหมากที่ห่อผ้าไว้นำไปให้พันบุตรศรีเทพ ซึ่งจับกิริยาได้ว่าแม่อยู่หัวฯ มาจีบ จึงให้ดอกจำปากลับมา บอกเป็นนัยว่ามีจิตสัมพัทธ์เช่นกัน

Photo: IG@davikah

เวลานั้นแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์มีอำนาจมาก จึงสั่งขุนวังให้ย้ายพันบุตรศรีเทพเข้ามาเป็นขุนชินราช ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้ดูแลหอพระฝ่ายใน ซึ่งน่าจะอยู่ในรั้วกำแพงวังหลวง แล้วย้ายขุนชินราชเดิมไปประจำตำแหน่งพันบุตรศรีเทพ เพื่อเปิดโอกาสให้แม่อยู่หัวฯ และขุนชินราชคนใหม่มีสัมพันธ์กันได้มากขึ้น

แม่อยู่หัวฯ ปลูกเรือนให้อยู่ และจัดทาสให้เป็นขุมกำลัง เพราะขุนชินราชมาอย่างหัวเดียวกระเทียมลีบ ทำให้มีคนเขียนประวัติศาสตร์ว่า แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ฆ่าพระยอดฟ้าที่เป็นพระโอรส แล้วตั้งขุนชินราชเป็นกษัตริย์ วาดภาพให้แม่อยู่หัวฯ เป็นผู้หญิงร้ายกาจคบชู้ และมีผู้สันนิษฐานอีกว่า พระยอดฟ้าอาจไม่ใช่ลูกของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ แต่เป็นลูกของมเหสีเอกที่สิ้นไปแล้วของพระไชยราชา ส่วนลูกแท้ๆ ของแม่อยู่หัวฯ คือพระศรีศิลป์

การฆ่าพระยอดฟ้ามีคนไม่เห็นด้วยคือออกญามหาเสนา ผู้คุมกลาโหม จึงไปพูดกับขุนนางคนหนึ่งในตลาดว่า “แผ่นดินเป็นทุรยศ”

แม่อยู่หัวฯ จึงเรียกตัวออกญากลาโหมให้ไปพบท้ายวัง ขากลับออกมามีคนไปลอบแทงจนตาย แสดงให้เห็นว่าแม่อยู่หัวฯ มีอำนาจมาก ผู้คุมกลาโหมยังสั่งฆ่าได้

เมื่อสิ้นพระยอดฟ้า แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงให้ขุนชินราชขึ้นเป็นกษัตริย์พระนามว่า ขุนวรวงศาธิราช การเมืองในอยุธยาอยู่ในมือของขุนวรวงศาและแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เพราะให้อ้ายจัน น้องชายของขุนวรวงศาขึ้นมาเป็นเจ้าฝ่ายหน้า เป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าวังหน้ามีมาตั้งแต่สมัยพระไชยราชาแล้ว

Photo: oneD

แม้กุมอำนาจส่วนกลางได้ แต่ทั้งสองยังกุมอำนาจหัวเมืองเหนือไม่ได้ เพราะเจ้าหัวเมืองเหนือไม่ยอมรับขุนวรวงศา มีอาการกระด้างกระเดื่อง เจ้าหัวเมืองเหนือมีหลายเมือง เช่น พิษณุโลก สุโขทัย พิชัย ศรีสัชนาลัย (สวรรคโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์) แม่อยู่หัวฯ จะให้เจ้าเมืองเหนือทั้งหมดลงมาอยู่ในอยุธยา ผู้คุมหัวเมืองฝ่ายเหนือคือขุนพิเรนทรเทพจึงไม่พอใจ เพราะทำเช่นนี้ถือเป็นการลดอำนาจของตน จึงปรึกษาขุนนางกลุ่มหนึ่งคิดจะลอบสังหารขุนวรวงศา และจะยกพระเทียรราชาขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่กลุ่มผู้ก่อการไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ จึงพากันมาเสี่ยงเทียนที่วัดใหญ่ชัยมงคล มีเทียนของพระเทียรราชากับเทียนของขุนวรวงศา โดยชั่งน้ำหนักขี้ผึ้งและวัดไส้ในของเทียนให้เท่ากัน แล้วนำมาจุดไฟพร้อมกัน ดูว่าเทียนของใครจะดับก่อน

ขุนพิเรนฯ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะจะทำการใหญ่ขนาดนี้ หากเสี่ยงเทียนแพ้ก็จะไม่ปฏิวัติอย่างนั้นหรือ อย่างไรก็ดี เสียงข้างมากลงมติว่าต้องเสี่ยงเทียน จึงพากันมาเสี่ยงเทียนกันที่อุโบสถวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งอยู่นอกกำแพงเมือง ไกลจากสายตาผู้คน

เทียนของขุนวรวงศาสว่างโชติช่วง เทียนของพระเทียรราชาทำท่าจะดับ ขุนพิเรนฯ เห็นดังนั้นก็โกรธมาก จึงโวยวายถุยหมากทิ้ง ปรากฏว่าชานหมากไปโดนเอาเทียนของขุนวรวงศาดับ คณะผู้ก่อการจึงลงความเห็นว่า จะปฏิวัติสำเร็จ

ในเวลาต่อมา ขุนพิเรนทรเทพสถาปนาพระเทียรราชาสถาปนาขึ้นพระมหาจักรพรรดิ กษัตริย์องค์ใหม่ของอยุธยา

Photo: oneD

เหตุที่คณะปฏิวัติทำการสำเร็จเนื่องจากขุนพิเรนฯ ส่งหมื่นราชเสน่หา (นอกราชการ) ให้มาเป็นทนายเลือก เพื่อคัดนักมวยขึ้นชก (ทนาย หมายถึง ตัวแทน) ซึ่งหมื่นราชเสน่หาเป็นคนมีความรู้อยู่ไม่น้อย ใช้อาวุธได้ จึงรับหน้าที่เป็นคนซุ่มยิง อ้ายจัน น้องของขุนวรวงศาออกมาทางท้ายวัง ซึ่งชวนให้คิดว่าจะออกไปดูความเรียบร้อยที่เพนียดคล้องช้าง หรือว่ามีสายของตัวเองที่ระแคะระคายว่าจะมีการก่อกบฏ อ้ายจันจึงนั่งช้างเพื่อไปวังหลวง

แต่ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพวางแผนมาดี จึงออกมาสกัดฆ่าอ้ายจันไว้เสียก่อน ไม่ให้ไปบอกข่าวกับขุนวรวงศา

ขุนวรวงศากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ถูกหลอกให้ออกไปคล้องช้างเผือก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นบ้านเพนียดที่อยู่เหนือคลองสระบัวขึ้นไป ทั้งสองพากันออกไปคล้องช้างกันแต่เช้ามืด โดยพาพระศรีศิลป์และพระโอรสที่ยังเป็นทารกซึ่งเกิดกับขุนวรวงศาไปด้วย แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ระแคะระคายเลยถึงการลอบสังหาร เพราะออกไปคล้องช้างทำเหมือนไปปิกนิก พาเมียและลูกเล็กๆ ไปด้วย ไม่ได้เตรียมกำลังทหารไว้ป้องกันมากเท่าที่ควร

ขุนพิเรนทรเทพวางแผนว่าจะไปจับขุนวรวงศาที่บริเวณคลองสระบัว จึงนำกำลังทหารไปซุ่มอยู่ เพื่อสกัดขุนวรวงศาไม่ให้ขึ้นไปถึงเพนียด และให้ขุนอินทรเทพตามมาจากท้ายขบวน เพื่อให้ขบวนเรือของขุนวรวงศาหนีไม่ได้ ทางเหนือและทางท้ายขบวนของขุนวรวงศากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงถูกปิดไว้หมดทุกด้าน

Photo: oneD

ตามพงศาวดารเล่าว่า เรือของขุนอินทรเทพขึ้นเทียบเรือของขุนวรวงศากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ในขณะที่ขุนวรวงศามัวพะวกพะวงกับเรือที่ลงจากทางเหนือ และร้องถามว่าเรือใคร ขุนพิเรนทรเทพร้องตอบกลับไปว่า เราจะมาเอาชีวิต ซึ่งคนที่สังหารขุนวรวงศาคือขุนอินทรเทพที่วาดเรือมาจากท้ายขึ้นมาขนาบเรือของขุนวรวงศากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ จึงสันนิษฐานได้ว่าขุนวรวงศากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์อาจจะโดนฆ่าตั้งแต่อยู่บนเรือ จากนั้นจึงนำศพไปเสียบประจานที่วัดแร้ง ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เป็นการจู่โจมที่วางแผนรัดกุม ความลับไม่รั่วไหล ทำการฉับไว

พระศรีศิลป์ โอรสของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์บวชเป็นพระอยู่ได้คิดกบฏ จึงได้มาขอให้พระพนรัตน์วัดป่าแก้วดูฤกษ์ให้ว่าจะนำทหารบุกวังเพลาไหนดี แต่สุดท้ายทำการไม่สำเร็จ เป็นเหตุให้พระพนรัตน์ถูกจับในฐานะคนดูฤกษ์ ถูกสึกแล้วนำตัวไปประหาร

ในช่วงหมดยุคพระไชยราชา แล้วแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ขึ้นเป็นใหญ่ พระเทียรราชาจึงออกบวช เพราะถ้าอยู่ในฆราวาสจะไม่ปลอดภัย

พระเทียรราชาเป็นพี่ของพระไชยราชา แต่อันที่จริงต้องบอกว่าพระเทียรราชาเป็นราชนิกูล แต่ไม่แน่ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกับพระไชยราชามากน้อยแค่ไหน แต่อยู่ในสถานะที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ แม้ไม่เทียบเท่าทายาทอย่างพระแก้วฟ้า พระเทียรราชาไม่มีขุมกำลังมากนัก จึงต้องรีบไปบวช เพราะประเมินแล้วว่าคงสู้แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ไม่ได้

ขุนพิเรนทรเทพ (ตำแหน่งเหมือนอธิบดีกรมตำรวจ) มีปัญหากับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศา เพราะสองคนนี้จะไปเปลี่ยนคนคุมหัวเมืองเหนือ ที่ขุนพิเรนฯ เลือกพระเทียรราชาเพราะเห็นว่าน่าจะควบคุมได้ง่าย ไม่มีขุมกำลังทหาร เมื่อพระเทียรราชาขึ้นเป็นกษัตริย์จึงแต่งตั้งพระโอรสสององค์ให้คุมกำลังทหาร และมีบทบาทในการปราบกบฏพระศรีศิลป์พระโอรสของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์

Photo: IG@davikah

จึงกล่าวได้ว่า ผู้โค่นอำนาจของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ก็คือขุนพิเรนทรเทพ ซึ่งขึ้นเป็นพระมหาธรรมราชา กษัตริย์อยุธยาต่อจากพระมหาจักรพรรดิ หรือพระเทียรราชา ผู้ที่ขุนพิเรนฯ สถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์อยุธยาองค์ต่อจากขุนวรวงศา ชู้รักของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์นั่นเอง

ซีรีส์แม่หยัวออนแอร์ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20:30 น. ดูสดทีวีช่อง one31 เวอร์ชัน TV | ทางแอป oneD เวอร์ชัน UNCUT และ Netflix

Words: Sritala Supapong

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top