‘โรเซ่’ ในวันที่เป็น ‘โรซี่’ ผู้โอบรับความเปราะบางของตนเอง และไม่ขอเป็น ‘number one girl’

เจ้าของเพลงฮิตแห่งปี ‘APT’ ให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาต่อความรู้สึกของตัวเองที่สุดเท่าที่ศิลปินเคป๊อปจะทำได้ ‘โรเซ่’ เปิดใจกับ New York Times ถึงด้านที่เปราะบางของตัวเอง ความเหนื่อยล้าที่ต้องเป็นคนคิดบวกปล่อยพลังสดใส การแต่งเพลงที่ฮีลใจ และอนาคตของ BLACKPINK

โรเซ่ vs. โรซี่

“สวัสดีค่ะ โรซี่ค่ะ”

“ให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรดีคะ โรซี่หรือโรเซ่”

“เอ้อ มันติดปากน่ะค่ะ ครอบครัวกับเพื่อนสนิทจะเรียกฉันว่าโรซี่ คุณจะเรียกฉันว่าอะไรก็ได้ โรซี่หรือโรเซ่ก็ได้”

“แล้วต่างกันไหมคะ เวลาที่คุณเรียกตัวเองสองแบบนี้”

โรเซ่กล่าวว่า ‘โรเซ่’ คือตัวตนที่สร้างขึ้นมาในการเป็นศิลปินเคป๊อป เป็นคนที่เต้นเก่ง ร้องเพลงดี ส่วน ‘โรซี่’ คือตัวตนเวลาอยู่ที่บ้าน นอนเปื่อยบนเตียง

‘rosie’ อัลบั้มที่รอมาทั้งชีวิต

‘rosie’ สตูดิโออัลบั้มแรกของโรเซ่ในฐานะศิลปินเดี่ยวจะปล่อยในวันที่ 6 ธันวาคม 2024 ซึ่งโรเซ่กล่าวว่า “เป็นอัลบั้มที่รอมาทั้งชีวิต” เพราะเธอโตมากับการฟังเพลงของศิลปินหญิงมากมาย ซึ่งบทเพลงของพวกเธอเหล่านี้ได้ช่วยให้โรเซ่ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาได้ เธอจึงฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้มีอัลบั้มเพลงเป็นของตนเองบ้าง

Photo: IG roses_are_rosie

ความกลัวของโรเซ่: ไม่เคยฝึกตัวเองให้เปราะบาง

แม้จะมีฐานแฟนคลับมากมายทั่วโลก แต่โรเซ่กลับไม่มั่นใจว่าเธอจะทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองได้ เพราะ “ฉันไม่เคยฝึกตัวเองให้เปราะบาง ไม่เคยซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองว่าฉันกลัว การทำอัลบั้มนี้ฉันจึงพยายามซื่อตรงและเปิดเผยด้านเปราะบางของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นความรู้สึกที่หลายๆ คนเองก็น่าจะเชื่อมโยงได้ด้วย”

สารตั้งต้นดนตรี

โรเซ่เกิดที่นิวซีแลนด์ ก่อนที่ครอบครัวจะย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งชีวิตในวัยเด็กที่นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่า ไปโรงเรียนแล้วกลับบ้านวนลูปไป โรซี่น้อยเบื่อหน่ายกับกิจวัตรซ้ำเดิมนี้ พ่อแม่ของเธอจึงให้เธอเรียนเปียโน ต่อมาโรเซ่เริ่มหัดเล่นกีตาร์และคัฟเวอร์เพลงของศิลปินต่างๆ เธอสนุกกับการเป็นศิลปินสุดคูลคนนั้นคนนี้ เป็นความสุขบริสุทธิ์ที่ได้เล่นกีตาร์ร้องเพลง

พ่อผู้ผลักดัน

โรเซ่ก็เป็นเหมือนเด็กอีกมากมายที่ดูวิดีโอศิลปินเคป๊อปแล้วฝันอยากเป็นไอดอลบ้าง แต่เธอคิดว่าคงเป็นเพียงแค่ความฝันสนุกๆ แบบเด็กๆ ที่ไม่มีทางเป็นจริง แต่แล้วในวัย 15 ปี YG มาเปิดออดิชั่นที่ออสเตรเลีย คุณพ่อของโรเซ่สะกิดบอกให้ลูกสาวไปออดิชั่นนี้ซะ ซึ่งโรเซ่เองก็งงว่า หนูเนี่ยนะ จะไปออดิชั่นกับ YG จนพ่อของเธอชี้ความจริงว่า ‘โรซี่ หนูชอบดนตรีมากนะลูก หนูเล่นร้องเพลงเลยเที่ยงคืนทุกวัน พ่อกับแม่ต้องลากหนูไปนอน’ และพ่อยังบอกด้วยว่า ก็แค่ไปลอง ถ้าไม่ผ่านก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ จะได้ไม่นึกเสียใจตอนอายุ 26 แล้วคิดว่า ‘รู้งี้ตอนนั้นฉันน่าจะไปลองนะ’ โรเซ่จึงไปร้องเพลงเล่นกีตาร์ในการออดิชั่นกับ YG และบอกกับตัวเอง ‘เย้ ก็หนุกดีนะ ไปล่ะ’ แต่เธอต้องประหลาดใจที่ YG ติดต่อกลับมาและบอกว่า บินมาเกาหลีใต้ภายใน 2 เดือนนี้จะได้ไหม?

Photo: IG roses_are_rosie

เพิ่งรู้ว่าศิลปินฝึกหัดต้องทำอะไรบ้าง

โรเซ่เล่าว่า แม่ไม่อยากให้เธอเป็นศิลปิน ส่วนพ่อสนับสนุน สุดท้ายพ่อชนะ โรเซ่เองยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอยังไม่คิดไปถึงเลยว่าต้องไปอยู่หอกับเด็กฝึกคนอื่นๆ ดังนั้น ตอนที่พ่อแม่บินไปส่งที่เกาหลีใต้และบอกลาเพื่อจะบินกลับบ้านที่ออสเตรเลีย โรเซ่ยังงงว่าพ่อกับแม่จะไปไหน ไม่อยู่ด้วยกันที่โซลหรือ เป็นตอนนั้นเองที่ความเป็นจริงเริ่มตีแสกหน้าโรเซ่ที่เพิ่งตระหนักเธอต้องอยู่ต่างแดนเพียงลำพัง ซึ่งเล่นเอาเธอไปไม่เป็นในช่วงแรกๆ ที่ต้องปรับตัวอย่างหนัก แม้จะรู้มาบ้างจากการดูยูทูบว่าเด็กฝึกต้องทำอะไรบ้าง แต่โรเซ่บอกว่า วิดีโอในยูทูบค่อนข้างจะทำให้ระบบการฝึกศิลปินดูดี เป็นเรื่องของการไล่ล่าตามหาความฝัน แต่ของจริงที่เจอ “เล่นเอาช็อกไปเลย” โรเซ่กล่าว “แต่ฉันก็รอดมาได้”

ชีวิตประจำวันของศิลปินฝึกหัด

สมัยเป็นเทรนนี โรเซ่กับเด็กฝึกทุกคนจะมีกิจวัตรดังนี้: ตื่นประมาณ 9.30 น. อาบน้ำ แล้วไปซ้อมกับเด็กฝึกอื่นๆ อีก 7-8 คน แต่ละวันต้องซ้อมเต้น เรียนร้องเพลง เรียนภาษา และไปเลิกฝึกเอาตอนตี 2 ซึ่งโรเซ่จะอยู่ซ้อมต่ออีกหลายชั่วโมงเพราะอยากจะตามเพื่อนให้ทัน กิจวัตรจะดำเนินซ้ำไปแบบนี้

แรงผลักดันของโรเซ่คือ เธออุตส่าห์บินมาตั้งไกล ถ้าล้มเลิกหรือล้มเหลวแล้วต้องบินกลับไปออสเตรเลีย ต้องไปตอบคำถามเพื่อนๆ ว่าเธอหายไปไหนมา โดยที่ไม่ได้เข้าใจว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง โรเซ่ไม่อยากเจอสถานการณ์แบบนั้น จึงยิ่งมุ่งมั่นตั้งใจซ้อมอย่างหนัก

Photo: IG roses_are_rosie

วันหยุดของโรเซ่กับลิซ่า

เด็กฝึกจะมีวันหยุด 1 วันทุกๆ สองสัปดาห์ โรเซ่ใช้วันหยุดอันมีค่าไปโบสถ์ตอนเช้า และไปช้อปปิ้งกับลิซ่า รูมเมตในเวลานั้น เวลาเดินผ่านร้านรองเท้าก็จะได้แต่มอง Nike Jordan กันตาละห้อยเพราะไม่มีเงินซื้อสนีกเกอร์แพงๆ แบบนั้น และจะพากันหาซื้อเสื้อผ้าที่จะใส่ตอนร้องเพลงและเต้นโชว์ให้ผู้บริหารทำการประเมินในแต่ละเดือน เด็กฝึกต้องแต่งเนื้อแต่งตัวกันเอง พวกเธอจะเก็บเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ไปหาซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ในวันประเมิน เพื่อแสดงออกว่า ‘นี่คือศิลปินในแบบที่ฉันอยากจะเป็น’ ในสงครามแห่งการพิสูจน์ตัวตนต่อบริษัท โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องแฟชั่นมากนักในเวลานั้น

คิดถึงช่วงเวลาที่อุทิศเวลาทั้งชีวิตให้กับดนตรี

ทุกวันนี้โรเซ่ยังพูดกับโปรดิวเซอร์ของเธออยู่เลยว่า คิดถึงตอนเป็นศิลปินฝึกหัดที่เธอทุ่มเทชีวิตจิตใจทั้งหมดให้กับดนตรี โดยไม่ต้องคิดถึงสิ่งอื่นใด แม้จะเจอเรื่องยากๆ หากก็เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่เธอคิดว่าไม่อาจจะหวนคืนมาได้อีกแล้วที่จะอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับดนตรี

ศิลปินฝึกหัด vs. ศิลปินมืออาชีพ

ส่วนตัวแล้ว โรเซ่คิดว่าความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้คือ ตอนเป็นศิลปินฝึกหัดยังมีพื้นที่นอกจอให้ทำผิดพลาดได้ แต่เมื่อเป็นศิลปินอาชีพแล้ว ทุกอย่างโดนกล้องบันทึกไว้หมดและไม่มีพื้นที่ให้กับการทำผิดพลาด ช่วงปีแรกๆ จึงยากมากสำหรับโรเซ่ และทุกวันนี้เธอก็ยังปรับตัวอยู่

Photo: IG roses_are_rosie

ศิลปินเคป๊อปที่ต้องสมบูรณ์แบบตลอดเวลา

โรเซ่คิดว่า อุตสาหกรรมเคป๊อปหล่อหลอมให้ศิลปินต้องเผยด้านที่สมบูรณ์แบบของตัวเองออกสู่สายตาสาธารณชนอยู่ตลอดเวลา ต้องเต้นให้เป๊ะ ทุกอย่างต้องดีเสมอเมื่อออกกล้อง ต้องนำเสนอสิ่งที่แฟนๆ คาดหวังว่าจะได้เห็นจากศิลปิน ก็คือการเป็น ‘perfect girl’ ทำให้โรเซ่อยากจะทำดนตรีที่เชื่อมโยงกับตัวเองให้มากที่สุดในอัลบั้ม rosie เพราะเธอเชื่อว่าศิลปินควรจะเปราะบางได้ แต่วัฒนธรรมเคป๊อปไม่ได้ฝึกฝนศิลปินให้เปิดเผยด้านเปราะบางของตัวเองออกมา

‘rosie’ เหมือนกับการหายใจ

เมื่อต้องอยู่กับตัวเอง สำรวจลึกถึงความรู้สึกภายใน เพื่อจะถ่ายทอดตัวตนออกมาผ่านบทเพลง โรเซ่กล่าวถึงกระบวนการทำอัลบั้ม rosie ว่า “เหมือนได้หายใจ” เธอถ่ายทอดสิ่งที่เธอพร่ำบอกกับคนรอบตัวมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่เปิดเผยต่อคนฟังทั่วโลก เพราะไม่เคยเปิดเผยตัวตนลึกๆ ข้างในมาก่อน บางครั้งก็มีสะดุ้งใจว่า “นี่เราจะพูดเรื่องนี้ออกไปหรือ” “เราพูดแบบนี้ได้หรือ” “หรือเราไม่น่าทำแบบนี้หรือเปล่านะ” ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นแค่เรื่องราวธรรมดาของคนในช่วงอายุ 20 แต่เป็นเรื่องที่โรเซ่ไม่เคยแสดงออกมาก่อน เธอจึงแอบกลัวว่าจะเธอจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองได้หรือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ ความกลัว หรือความโกรธ

Photo: IG roses_are_rosie

number one girl แด่เธอผู้คอยพลีสคนอื่น

Tell me I’m that new thing

Tell me that I’m relevant

Tell me that I got a big heart

Then back it up with evidence I need it and I don’t know why

This late at night

Isn’t it lonely I’d do anything to make you want me
I’d give it all up if you told me

That I’d be The number one girl in your eyes

โรเซ่พูดถึงเบื้องหลังของซิงเกิลใหม่ ‘number one girl’ ที่เกิดจาก ‘ค่ำคืนอันเลวร้าย’ ที่เธอดันเข้าไปอ่านคอมเมนต์ที่พูดถึงเธอในแง่ลบต่างๆ นานาในโลกโซเชียล  และดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์สุดลบจนถึง 6 โมงเช้าก่อนจะไปห้องอัดแบบแบดมู้ดขั้นสุด โดยที่โรเซ่เองก็ไม่รู้ว่าจะอ่านคอมเมนต์ลบๆ พวกนั้นไปทำไม หรือที่จริงเธอพยายามมองหาการยอมรับว่าเธอทำดีพอแล้ว

“ฉันรู้สึกแย่มาก เหนื่อยเหลือเกินกับการพยายามจะทำให้ทุกคนพอใจ” เธอพยายามจะเป็น ‘เวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง’ แต่กลับรู้สึกหลงทาง รู้สึกว่าทำเท่าไรก็ดีไม่พอ จนกลายเป็นความโกรธขึ้งโลก กราดเกรี้ยวใส่จักรวาล และอยากจะเขียนออกมาเป็นเพลงอย่างซื่อสัตย์จริงใจว่าเธอเกลียดตัวเองแค่ไหนที่คิดแบบนั้น แม้จะเป็นความคิดที่เธอเองก็ไม่อยากจะยอมรับว่าคิดเช่นนั้น เพราะมันช่างสวนทางกับสิ่งที่เธอพยายามแสดงออกเสมอมาว่าเป็นคนคิดบวก ปล่อยพลังสดใส

แต่นี่ละคือด้านที่เปราะบางของเธอ ซึ่งคงมีผู้คนอีกมากมายที่เหมือนกัน และแง่มุมนี้ของเธอไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เลย

Photo: IG roses_are_rosie

‘Vampirehollie’ ตัวตนที่เป็นและที่ลบไปแล้วของโรเซ่

‘Vampirehollie’ คือบัญลีอินสตาแกรมส่วนตัวของโรเซ่ซึ่งแตกต่างไปจากบัญชีทางการ @roses_are_rosie ที่มีผู้ติดตามกว่า 81 ล้านบัญชี แต่ Vampirehollie เป็นพื้นที่ที่เธอไม่ต้องแคร์ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไรกับ ‘โรเซ่’ เป็นตัวเองในแบบที่ไม่ต้องคูลตลอดเวลา แต่ที่สุดแล้วมีแฟนๆ ที่รู้ว่าเป็นบัญชีของโรเซ่ เธอรู้ว่ามีคนบางจำพวกที่คอยจ้องหาเรื่องเธอเสมอ คอยสร้างเรื่องลบๆ จุดกระแสดราม่าใส่เธอ หมกมุ่นกับการคอยควบคุมเธอ แต่สุดท้ายโรเซ่ก็ปล่อยวาง และปลดแอกตัวเองจากการหมกมุ่นกับคอมเมนต์ลบๆ เหล่านั้นมาได้

โรเซ่ที่จิตใจแข็งแกร่งและอ่อนแอเป็น

เมื่อถูกถามถึงคอมเมนต์ลบๆ ว่าส่งผลต่อจิตใจเธออย่างไรบ้าง โรเซ่เสียงสั่นและร้องไห้ออกมา “ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนจิตใจแข็งแกร่ง และรู้ว่าจะจัดการกับคอมเมนต์ลบๆ อย่างไรไม่ให้กระทบจิตใจ” แต่โรเซ่ก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่รู้หนาวเจ็บร้อนเป็น กำแพงใจที่เคยปกป้องเธอจากคอมเมนต์แย่ๆ ได้พังทลายลง เธอถูกจู่โจมด้วยความคิดลบๆ “ฉันรู้สึกแย่มาก” โรเซ่กล่าว “ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องผ่านเรื่องอะไรแบบนี้เลย”

Photo: IG roses_are_rosie

ระบายความรู้สึกออกมาเป็นเพลงซะสิ!

สิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจของโรเซ่ได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ ระบายความรู้สึกออกมาเป็นเพลง เหมือนบีบความคิดลบๆ แบบบีบน้ำมะนาว โรเซ่จึงรู้สึกว่า การที่การแต่งเพลงเข้ามาสู่เธอนั้นราวกับเป็นของขวัญอันวิเศษ ทุกปัญหาที่รบกวนจิตใจถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงซึ่งเสมือนว่าปัญหาได้ถูกปลดปล่อยไปจากใจ ซึ่งมหัศจรรย์มากที่เธอเลิกคิดถึงเรื่องนั้นไปเลย แต่ก็มีบางครั้งที่เธอไม่ชอบที่เขียนขึ้นมาได้เหมือนกัน ฉะนั้น ในวันแย่ๆ แบบนั้น การระบายความรู้สึกออกมาเป็นเพลงจึงไม่ช่วยอะไร (ฮา) “เพลงนั้นไม่ถูกเลือกให้อยู่ในอัลบั้ม และฉันก็เศร้าใจต่อไป การแต่งเพลงเยียวยาฉันได้จริงๆ น่าสนใจมาก”

Photo: IG roses_are_rosie

อนาคตของ BLACKPINK

“พวกเราทั้งสี่คนล้วนรัก BLACPINK และได้ข้อสรุปตรงกันว่า หากเราจะทำวงต่อไปในแบบที่ดีได้ พวกเราต้องทำในสิ่งที่แต่ละคนชอบและต้องการจะทำจริงๆ เพื่อหล่อเลี้ยงแพสชั่นของพวกเราในระยะยาวได้ ” จึงเป็นที่มาของการทำงานเดี่ยวของเมมเบอร์แต่ละคนที่มีเส้นทางชัดเจน ได้ปล่อยของกันในแบบของตัวเองในช่วงเวลาหนึ่ง “แล้วพวกเราก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ปี 2025 จะมีผลงานใหม่ของ BLACPINK”

Words: Sritala Supapong

ข้อมูลจาก

you might like

Scroll to Top