กว่าจะมาเป็นสบู่ฟองฟอดฟอกหน้าตาเนื้อตัวได้ ต้องผ่านกรรมวิธีคือเทส่วนผสมทุกอย่างลงไปแล้วเปิดสวิตช์ให้เครื่องกวน เทใส่แม่พิมพ์ รอให้แห้ง แล้วใช้ได้เลย
แต่นั่นไม่ใช่วิธีการทำสบู่ของ กวาง – วิภาวรรณ จันทรโกศล และ ตั๋ม – ถิรพันธุ์ บรรพพงศ์ แห่ง Soap but True
ถ้าอยากได้สบู่ส้ม พวกเขาจะนั่งขูดเปลือกส้ม
ถ้าอยากได้สบู่ไวน์ พวกเขาจะเอาไวน์แดงไปต้ม
ถ้าอยากได้สบู่สีเหลือง พวกเขาจะนั่งขูดแคร์รอต เอาไปตากแห้ง 2 สัปดาห์ เอามาแช่น้ำมัน แล้วค่อยใช้น้ำมันนั้นมาทำเป็นเบส แล้วค่อย…
ค่อยขายในอีก 4 เดือนถัดมา!
กว่าจะได้สบู่ดีๆส่งให้ลูกค้าใช้สักก้อน Soap But True ต้องผ่านท่ายากหลายกระบวน ไหนจะชวนให้คนซื้อต้องรอนานอีก หากนั่นก็ไม่ทำให้แบรนด์สบู่คราฟต์เอาแต่ใจ(คนทำ)นี้เป็นขวัญใจสายฟองสะอาด
Soap But True ยังทำคอลแล็บเฉพาะกิจน่าสนใจหลายครั้ง ทั้งจับมือกับคุณแม่ช่วยนำน้ำนมที่ปั๊มแล้วเหลือมาทำเป็นสบู่น้ำนมแม่ หรือแม้แต่กระแสมูเตมูบูมบานในเมืองไทย พวกเขาก็ส่ง ‘สบู่สายมู’ มาให้ล้างพลังงานลบ เรียกเงินทองไหลมาเทมา และเรียกมหาเสน่ห์ผ่านสบู่เบสน้ำมนต์อาบแสงจันทร์!
The Optimized พาไปอ่านเบื้องหลังการสร้างแบรนด์สบู่คราฟต์ที่ใส่ความครีเอทีฟฟองฟ่อดของ Soap But True
ทำใช้เอง เหลือก็ขาย
เมื่อ 5 ปีก่อน กวางที่เป็นโรคสะเก็ดเงินไม่หายสักที ได้ลองใช้สบู่โฮมเมดของเพื่อน ปรากฏว่าโรคผิวหนังกับเธอได้โบกลากันได้เสียที
สะเก็ดเงินจากไป ทว่าสบู่ที่กวางทำใช้เองงอกเต็มบ้าน
ด้วยวิชาชีพกราฟิกดีไซเนอร์ของกวาง บวกกับทักษะด้านการถ่ายภาพและรีทัชของตั๋ม ผนึกกำลังกันกวน แพ็ก โพสต์ เปลี่ยนสต๊อกล้นบ้านให้กลายเป็นแบรนด์สบู่เสียเลย
ทำไมต้อง Soap But True?
คำถามนี้จะหมดไป หากคุณพินิจหน้าและหนวดของตั๋ม มันจะทำให้คุณเดาได้ไม่ยากว่าพ่อค้ากวนสบู่คนนี้คงเป็นแฟนพันธุ์แท้เพลงร็อกแน่นอน และก็ใช่ เขาเป็นแฟนเพลงวง Metallica ซึ่งมีเพลงชื่อดีความหมายซึ้ง Sad But True จนปัญญาที่กวางจะทัดทานว่ามันจะเป็นชื่อแบรนด์สบู่ไปได้ยังไง
Soap But True แบรนด์สบู่ที่คนทำใช้เอง คนซื้อใช้ดีก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
สบู่นมข้าวโอ๊ตเชียร์บัตเตอร์ได้ฟีลเหมือนอาบน้ำนมบำรุงผิว
สบู่+คราฟต์
“สรรพคุณใช้ได้อยู่แล้วแหละ สบู่ดีๆมีเยอะแล้ว ตอนนี้แข่งกันที่ความคิดสร้างสรรค์” ตั๋มเกริ่นนำ ก่อนจะเล่าถึงความช่างคิดหาทำในการทำสบู่ก้อนเล็กกว่าฝ่ามือที่แลกมาด้วยหงาดเหงื่อแรงมือล้วนๆ
“วิธีการทำสบู่ของเราเป็นแบบเอ็กซ์สตรีม เช่น สบู่ไวน์ เราใช้ไวน์แดงขวดละเป็นพันที่ได้มาฟรีตอนปีใหม่ เอามาต้มทำสบู่ ตัวนี้ไม่ใช้น้ำเลย เบสเป็นไวน์ล้วนๆ สีมันดูไม่ดีเลย แต่ใช้ดีมาก และเราขายในราคาเดิม เพราะไวน์ได้มาฟรี
“สบู่ที่ทำยากก็อย่างเช่น สบู่ว่านหางจระเข้ที่ต้องเอาปลอกเปลือก ล้างให้สะอาด ไม่อย่างนั้นเวลายางโดนน้ำด่าง เนื้อสบู่จะกลายเป็นสีน้ำตาล ล้างแล้วก็เอาไปฝานเป็นชิ้นๆก่อน แล้วค่อยนำไปปั่นและกรองออกมาเป็นส่วนผสมในสบู่
“สบู่ส้มเป็นตัวที่ประทับใจมาก แต่วิธีทำคือเอ็กซ์ตรีมสุด ไม่ใช่เราเอาสบู่มาใส่กลิ่นส้มแล้วจบ เราซื้อส้มฝรั่งมานั่งขูดผิว เอาไปตากแห้ง 2 อาทิตย์ เอามาบด แล้วค่อยใส่ในสบู่ แต่วิธีนี้ไม่ได้สบู่สีส้มนะ ได้สบู่กลิ่นส้ม ถ้าอยากได้สบู่สีส้มต้องใส่ผงปาปริก้า
สบู่อโวคาโดที่ใช้เนื้ออโวคาโดเน้นๆมาปั่นใส่สบู่จริงๆ
“ส่วนสบู่แคร์รอตต้องขูดเป็นฝอยๆก่อน และเอาไปต้มให้เละเหมือนโจ๊ก ปรากฏว่าพอไปเอาทำสบู่จะได้สีเหลือง ไม่ได้สีส้ม และสีส้มเลอะติดอุปกรณ์ หม้อ กะละมัง ไม้พายทุกอย่าง กว่าจะล้างออกได้ก็ขัดอยู่นาน
“วัตถุดิบที่ทํางานด้วยยากคือเกลือ เพราะเกลือจะดูดน้ำและทําให้สบู่แห้งเร็วมากเวลา สบู่อื่นเรากวนเสร็จก็เทใส่แม่พิมพ์ รอให้แห้งหนึ่งวัน แต่สบู่เกลือทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงแล้วต้องหยิบเอามาตัดเลย ไม่อย่างนั้นมันจะแข็งมากจนตัดไม่ได้ เคยอ่านในในเพจคนทําสบู่ด้วยกันบอกว่าลืม ทิ้งไว้หนึ่งสัปดาห์ ปรากฏว่าสบู่เกลือแข็งเหมือนหินเลย สุดท้ายต้องใช้เลื่อยหั่น
สบู่น้ำนมแม่
“สบู่นมแม่ก็ขายดีมากในช่วงโควิด เริ่มจากมีคุณแม่ท่านหนึ่งติดต่อมา เขามีน้ำนมเหลือ จะทิ้งก็เสียดาย ก็เลยส่งน้ำนมของเขามาให้เราทำเป็นสบู่ ซึ่งสบู่นมแม่มีการทำมานานแล้ว แต่เราไม่เคยทำ กลายเป็นว่าผลตอบรับดีมาก มีคุณแม่หลายรายเลยที่ส่งน้ำนมมาให้เราทำสบู่ สบู่นมแม่จะเป็นงานคัสตอมเมด น้ำนมของใคร สบู่ก็เป็นของคนนั้น ที่ผ่านมาเราทำสบู่นมแม่ไปแล้วเป็นพันก้อน นี่เฉพาะรายที่เราสามารถขับรถไปรับน้ำนมเองได้นะ แต่มีคุณแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดติดต่อมาเยอะมากที่เราไม่สามารถไปรับน้ำนมมาได้ จะขนส่งก็ลำบาก เดี๋ยวของจะเสีย” ตั๋มเล่าด้วยสีหน้าเหนื่อย แต่แววตาสุกใส
สบู่สองสีของชำร่วยงานแต่ง
“เราสนุกตรงที่ได้ทดลองนี่แหละ” นักทำสบู่ท่ายากสรุป “เราทำแม้กระทั่งจับเวลาตอนเทน้ำหอมลงไป นับเป็นวินาทีเลยนะ เทปุ๊บ จับเวลา 3 วินาที แล้วกวนสบู่ 10 วินาที แล้วค่อยเทลงในโมลด์อะไรแบบนี้ การทำสบู่มันเป็นวิทยาศาสตร์มาก บางคนวัดอุณหภูมิด้วยซ้ำ แต่เรายังไม่ละเอียดถึงขั้นนั้น จะโฟกัสที่หน้าตาสบู่ให้สวยงามกลิ่นหอมน่าใช้มากกว่า”
สบู่มูเตลู
ใดใดในโลกล้วนเป็นมูเตลูได้ทั้งสิ้น เมื่อวันหนึ่ง Soap But True ได้รับการติดต่อจาก ‘หมอดู’ ที่ทักถามว่า “รับทำสบู่แบบสายมูหรือเปล่า”
“เราก็ว่าน่าสนุกดี” กวางบอก และเริ่มปฏิบัติการครั้งใหม่ว่าจะตีโจทย์ ‘สบู่ล้างพลังงานลบ’ ตามรีเควสต์คุณหมอดูออกมาเช่นไร
สบู่ล้างพลังงานลบ
“ในสังคมหมอดูของเขาจะมีการล้างพลังพลังงานลบหลังจากดูดวงให้ลูกดวง บางทีหมออาจไปรับพลังงานลบมา คนที่เป็นหมอดูต้องทํากันอยู่แล้ว” นักทำสบู่เล่า ส่วนผสมหลักของสบู่สายมูรุ่นแรกนี้คือ ‘เกลือและเสจ (sage)’ ซึ่งเชื่อกันว่ามีอานุภาพชำระล้างพลังงานลบได้ ขั้นตอนของสบู่บ้านนี้ก็ไม่ง่าย เริ่มจากนำใบเสจไปแช่หรือ infuse ในน้ำมันเพื่อให้มีกลิ่นเสจ ส่วนเกลือใช้เป็นเกลือหิมาลายันที่เลือกเกล็ดเล็กหน่อย เพื่อให้ได้เท็กซ์เจอร์ที่ละเอียด เวลาฟอกจะได้ไม่บาดผิวลูกค้า
“ส่วนกลิ่น หมอดูให้โจทย์มาเลยว่าอยากได้กลิ่นลาเวนเดอร์บวกกับเสจ เราก็ต้องทดลองผสมกัน ไม่ใช่ว่าสัดส่วน 5:5 อาจจะเป็นลาเวนเดอร์ 6 หรือเสจ 4 เรื่องนี้ต้องทดลองเบลนด์เยอะมาก” กวางกับตั๋มเล่า
สบู่ล้างพลังงานลบ Cosmina Tarot x Soap But True ได้ผลตอบรับดีเยี่ยม จนต้องกวนสบู่คอลเล็กชั่นตามมา 3 สูตร ได้แก่
1.Relief Salt Sage สูตรผ่อนคลาย ลดความเครียด ขจัดพลังงานด้านลบ ด้วยส่วนผสมของเกลือและสมุนไพรเสจ เบลนกลิ่นเสจเข้ากับลาเวนเดอร์ทำให้ผ่อนคลายและมีสมาธิ ใช้หลังจากกลับมาจากทำงาน ก่อนการทำสมาธิ ก่อนอ่านหนังสือ ก่อนอ่านดวง
2.Charming Lavender สูตรมหาเสน่ห์ สูตรนี้ภูมิใจนำเสนอด้วยน้ำมนตร์จากพิธีอาบแสงจันทร์ พร้อมแผ่นทองคำแท้ ตามความเชื่อ ผู้ใดอาบน้ำมนต์ในพิธีคืนจันทร์เพ็ญ (full moon) ผู้นั้นจะมีเสน่ห์ คนรักใคร่ เทวดาเอ็นดู พร้อมการผสมผสานกลิ่นลาเวนเดอร์และเจอเรเนียม ลึกลับทรงเสน่ห์
3.Money Menthol สูตรเงินทองไหลมาเทมา สบู่สูตรเย็นสดชื่น ช่วยกระตุกให้จักระในร่างกายได้ตื่นตัว พร้อมรับวันใหม่ กลิ่นหอมเย็นของลาเวนเดอร์และเบอกามอต ทำให้สมองโปร่งโล่งสบาย มีไอเดียสร้างสรรค์คิดอะไรได้เป็นเงินเป็นทอง ใช้เป็นพิเศษบริเวณลำคอ ช่วยการเจรจาค้าขาย ปิดดีลง่ายๆ ไม่ติดขัด
“เราทดลองหลายหลายแบบมาก แต่โดยหลักการคืออยากทำสบู่ที่มีกลิ่นละมุน ใช้แล้วรู้สึกดี ผ่อนคลาย ซึ่งก็เหมือนหลักการทำสบู่อื่นๆ สบู่สายมูจึงไม่ใช่ว่าต้องมีกลิ่นธูป” ทั้งสองเล่า “เรื่องสีก็ต้องตีความ สูตรมหาเสน่ห์เราออกแบบให้เป็นสีม่วงทอง จากส่วนผสมของกลิ่นลาเวนเดอร์และเจอราเนียม ส่วนสูตรเงินทองไหลมาเทมา เราออกแบบให้เป็น ‘สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์’ และต้องเป็นกลิ่นที่กระตุ้นให้อยากออกไปหาเงิน ก็เลยออกมาเป็นลาเวนเดอร์ผสมมะกรูด เพรากลิ่นซิตรัสจะให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พร้อมตะลุยทํางาน
“มันสนุกตรงที่ว่าเราต้องหาวิธีที่จะตอบโจทย์ให้ได้ ล่าสุดหมอดูมีโจทย์ใหม่ให้ทำสบู่นะหน้าทอง เป็นสบู่สีขาวกลีบบัวลายวน (swirl) สีทอง หมอดูอยากให้ใส่สองคําเปลวลงไป และให้มีส่วนผสมของพาโลซานโต (เชื่อกันว่าเป็นไม้หอมศักดิ์สิทธิ์ โดยกลิ่น ควัน และน้ำมันมีฤทธิ์ในการผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวล และเชื่อกันว่าช่วยชำระล้างพลังงานลบได้) ซึ่งการจะทำกลิ่นพาลาซานโตที่เหมือนจุดกำยานในห้องทำพิธี แต่หอมเบาๆเหมือน Jo Malone ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก เราก็ต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไร ต้องรอติดตามเร็วๆนี้” อัตราเร็วของแบรนด์นี้มีขั้นต่ำอยู่ที่ 4 เดือนจะขอบอก
กราฟิกดีไซเนอร์และช่างภาพปล่อยความครีเอทีฟใส่ในสบู่ในทุกขั้นตอน
การตลาดแบบขาดแคลน
“ทำสบู่มา 5 ปีแล้ว เหมือนเป็นงานปล่อยของจากการทำงานประจำ” กราฟิกดีไซเนอร์สาวกับรีทัชเชอร์/ช่างภาพหนุ่มเล่า “ถ้าช่วงไหนงานประจำน่าเบื่อ สบู่จะยิ่งสวย วิธีการทำจะยิ่งยาก สบู่คือพื้นที่ปลดปล่อยทางความคิดของเรา”
“แต่เราก็ไม่ได้ทำแบบโลกสวย หรือทำเพื่อความชอบอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เราคิดเรื่องธุรกิจเยอะมาก คิดถึงขนาดว่านี่คือธุรกิจที่ไม่มีวันเจ๊ง เริ่มแรกไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ลงทุนกันก้อนแรกประมาณ 5,000 ไปซื้อกะละมัง หม้อ ไม้พาย เราค่อยๆใช้กำไรที่ได้มาซื้อของเพิ่ม ไม่มีการลงเงินตัวเองเพิ่มอีก และต้องได้กําไร 200 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าทำแล้วไม่ได้เงิน เราก็ไม่ทำ แต่ฟังดูเหมือนได้กำไรเยอะใช่ไหม ตั้ง 200 เปอร์เซ็นต์ แต่กลายเป็นเราก็ยังขายสบู่ถูกกว่าเจ้าอื่นอยู่ดี” เจ้าของแบรนด์หัวเราะเสียงอ่อนแบบกลัวจะรวย
แบรนด์สบู่ของคอร็อกที่ระยะแรกใช้กราฟิกและวิชวลแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีความพาสเทลละมุน
“พอมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ เราก็อยากจะซื้อของมาทดลองว่าน้ำหอมตัวนี้ตัวนั้นผสมกันแล้วจะได้กลิ่นอะไร วัตถุดิบอะไรต่างๆ กวางเป็นคนคิดสูตรก็จะอยากซื้อของเยอะ แต่เราจะคอยเบรกไว้ว่าเดือนนี้ซื้อได้เท่านี้ อยากได้เพิ่มอีกไว้ค่อยซื้อเดือนหน้า จนตอนนี้ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ถึงจะเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เราวางแผนรอบคอบในทุกด้าน แต่สบู่ของเราจะไม่ทำสต๊อกเก็บไว้ สั่งทำวันนี้รออีก 4 เดือน เราต้องตากสบู่ก่อน ทำทีละน้อยๆ เดี๋ยวเป็นที่นิยมเกินไป (หัวเราะ) สบู่ที่เราทำเป็นแบบกวนเย็น ต้องตากสบู่ก่อน อย่างสบู่ Aleppo ของซีเรียที่ดังๆ นั่นเขาตาก 2 ปีเลยนะ สบู่แข็งมาก ละลายน้ำยากมาก ก้อนเดียวใช้ได้นานหลายเดือน แต่ถ้าใช้วิธีกวนร้อนก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องรอตากก่อน”
งานวิชวลสายละมุนในเวลาต่อมา: สบู่สูตรขายดีของแบรนด์ ได้แก่ น้ำมันมะกอกเชียบัตเตอร์, นมข้าวโอ๊ต+น้ำผึ้ง เชียบัตเตอร์, ว่านหางจระเข้ เชียบัตเตอร์, ลาเวนเดอร์ เชียบัตเตอร์, อเมริกาโน่+ส้ม, เกลือชมพู+Rose Clay และเมนทอล
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การตลาดแบบ Scarcity Marketing ทั้งคู่ไม่ได้เจตนาจะให้ลูกค้าต้องรอคอย หรือสร้างความรู้สึกขาดแคลน พอมีของออกมาก็รีบกดเอฟ หรือทำสินค้าออกมาน้อยกว่าความต้องการเพื่อจะได้ดูเหมือนขายหมดไว แต่เพราะเงื่อนไขของสิ่งมีค่าที่สุดในยุคนี้อย่าง ‘เวลา’
“ตอนนี้การทำสบู่กว่างานประจำ เพราะเราทำเหมือนเป็นธุรกิจเสริมหรือเป็นงานอดิเรก แต่ถ้าข้ามไปสู่การทำเป็นธุรกิจจริงจังแบบลาออกจากงานประจำมาทำสบู่อย่างเดียว เราไม่รู้ว่าในวันที่เราขึ้นไปถึงตรงนั้น ลูกค้าเราจะเพิ่มมากขึ้นแค่กี่เปอร์เซ็นต์ และถ้ามีลูกค้ามากๆ เราจะเพิ่มกําลังการผลิตได้หรือเปล่า
“ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่สมดุล คือมีเวลาค่อยทำ มีออร์เดอร์เข้ามาค่อยกวน ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาก็ต้องเข้าใจว่าอยากได้แต่จะไม่ได้ของเลยนะ ต้องรอ 4 เดือน เราเป็นแบรนด์ที่ทุกคนด่าหมดว่าเอาแต่ใจตัวเองมาก แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะเงื่อนไขหลายอย่าง จากเวลา จากกระบวนการทำ และจากตัวเราเองด้วยที่อยากทดลองสิ่งใหม่ๆและคราฟต์ในทุกขั้นตอนจริงๆ
“เพราะการทำสบู่ดีๆ จำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์กับศิลปะผสมกัน”
Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: Courtesy of Soap But True
https://www.facebook.com/soapbuttrue/