“ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่” หลายคนคงเคยได้ยินเนื้อเพลงท่อนนี้จากเพลง “HOME” ของบอย โกสิยพงษ์ แม้จะฟังมานานร่วม 20 ปี แต่เพลงนี้ยังอยู่ในใจของผู้คน ที่สำคัญอยู่ในใจคนที่จะซื้อบ้าน เหมือนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของคำว่า “บ้าน” ไปแล้ว
โฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand Strategy บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะนักสร้างแบรนด์ เล่าถึงที่มาของแคมเปญล่าสุด ‘Home is Everything’ ของ เอสซี แอสเสท ซึ่งพบว่า จากการทำวิจัย สำรวจความเห็นของผู้บริโภคทุกครั้ง ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะต้องมีคนพูดถึงเพลงนี้ขึ้นมาทุกครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าเพลงนี้สามารถสะท้อนทุกสิ่ง ทุกอย่างที่แสดงถึงความเป็นบ้าน
“ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่จะนำเพลงนี้มาใช้ในแคมเปญล่าสุด ‘Home is Everything’ เพราะในช่วงสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ทำให้คนคิดถึงบ้านมากกว่าครั้งไหนๆ” โฉมชฎากล่าว
โฉมชฎา เข้าร่วมงานกับ เอสซี แอสเสท ในปี 2012 พร้อมกับการรีแบรนด์ครั้งใหม่ของเอสซี แอสเสทในปี 2013 กับสโลแกน “For Good Mornings” ชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งถูกคิดมาจากปรัชญาของแบรนด์ที่ SC ASSET ยึดถือตลอดมาในการทำธุรกิจที่เชื่อว่า วิถีชีวิตเปลี่ยนไปในทุกช่วงเวลา บ้านที่สมบูรณ์แบบจึงไม่ได้หยุดอยู่แค่ความพอใจในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน แต่ยังต้องตอบสนองการเดินทางของชีวิตในวันข้างหน้าด้วย แคมเปญดังกล่าวช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์เอสซีฯในวงกว้าง
เธอมักจะใช้เพลงช่วยในสื่อสารเรื่องราวระหว่างผู้คนกับบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ บางครั้งเป็นแคมเปญแบบฮาร์ดเซลส์ ก็อดไม่ได้ที่จะใส่เพลงประกอบเข้าไป เพลงจะช่วยกระตุ้นความรู้สึก ทำให้ผู้บริโภครู้สึกร่วมกับแคมเปญนั้นๆ เพราะคนชอบฟังเพลง เมื่อมีเพลง ประกอบกับเรื่องราว บ้านสวยๆ สร้างความรื่นรมย์ จนทำให้คนรู้สึกอยากเข้ามาดูโครงการจริง เพราะฉะนั้นแคมเปญที่ผ่านมา มักจะใช้ มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง เข้ามาช่วยเพื่อให้การสื่อสารได้ตรงใจของผู้บริโภค
สำหรับเพลง “HOME” ของบอย โกสิยพงษ์ ซึ่งติดอยู่ในหู และติดอยู่ในใจมาเนิ่นนาน ถึงเวลาที่จะนำเพลงนี้มาใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนซื้อบ้าน “เพราะไม่มีช่วงเวลาไหน ที่คนรู้สึกอยากกลับไปอยู่บ้านเท่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว” โฉมชฎาระบุ
“ช่วงเวลานี้เหมาะสมที่จะสื่อสารความรู้สึกนี้ เป็นความรู้สึกร่วมในการอยู่อาศัยร่วมกันในสังคม ผู้คนกำลังลำบาก การใช้ชีวิตกับเพื่อนฝูง การกลับบ้าน เป็นความรู้สึกที่ยาก แต่ในฐานะผู้สร้างบ้าน เราเห็นครอบครัวที่อยู่ในบ้าน เฝ้ามองลูกค้า และฐานะที่เป็นคนหนึ่งในสังคม มันมีพลังบางอย่างในบ้าน เวลาที่ท้อแท้ หลับตา เราจะรู้สึกถึงคนที่บ้าน ในฐานะผู้นำตลาดเราต้องการสื่อสารว่าเราจะสร้างบ้านที่ดีที่สุด ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน และส่งต่อพลังใจต่อกันได้”
และในเมื่อบทเพลงท่อนที่ว่า “ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่” ฝังลึกอยู่ในใจของผู้ซื้อบ้านมาตลอด โฉมชฎา จึงประกอบ 5 คำสำคัญของบทเพลง ‘Home’ ได้แก่ ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย และต้นไม้ใหญ่ ให้เป็นความหมายแทน 5 แกนเสาหลักของปรัชญาแนวคิดการพัฒนาบ้านของเอสซี แอสเสท ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัย และย้ำพันธกิจขององค์กรในการมุ่งเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ดังนี้คือ
1.ดอกไม้ หมายถึงการดูแลชุมชนหลังการขายและไม่ทิ้งลูกค้า เพื่อช่วยทุกเรื่องราวของลูกบ้าน พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่สวยงามให้สดชื่นได้ทุกวัน
2.ประตู คือ การพัฒนาบ้านและทุกพื้นที่การใช้งานในแบบ Human-centric ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
3.แจกัน เปรียบกับการดูแลความปลอดภัยของลูกบ้าน ที่เกิดจากระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีและอุ่นใจได้สำหรับทุกชีวิตในบ้าน
4.ดินทราย คือเรื่องของ Home Quality เน้นความใส่ใจกับคุณภาพของงานก่อสร้าง ทั้งวัสดุและความคงทน
5.ต้นไม้ใหญ่ คือ Living Solutions การดูแลตั้งแต่วันแรกของการเข้าอยู่อาศัย ด้วยรู้ใจคลับ ‘ช่วยเรื่องบ้านจัดการเรื่องชีวิต’
สำหรับเพลง ‘Home’ เวอร์ชันนี้ ได้ร่วมกับ บอย โกสิยพงษ์ สร้างสรรค์บทเพลงในเวอร์ชันพิเศษ ที่มีความทันสมัยและแตกต่างจากเวอร์ชันดั้งเดิมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ทุกเพศทุกวัย ทั้งเรื่องของจังหวะและศิลปินนักร้อง โดยผสมผสานเสียงร้องระหว่างศิลปินในเวอร์ชันที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง ‘ธีร์ ไชยเดช’ ร่วมกับ ‘แซมมี่-ภัคธีมา ชิลเล่อร์’ ศิลปินหญิงรุ่นใหม่ที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์จากค่ายยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) ทายาทของเกริก ชิลเลอร์
“เราเชื่อว่า บ้านทุกหลังมีพลังงานซ่อนอยู่ พลังงานแห่งความห่วงใยซึ่งกันและกันของทุกคนในครอบครัวที่จะคอยช่วยเติมเต็มกำลังใจที่ดีซึ่งกันและกัน บ้านไม่ได้สื่อความหมายแค่สิ่งของ บางคนต้องอยู่แต่ในกรุงเทพฯ กลับบ้านต่างจังหวัดไม่ได้ บางคนอยู่ต่างประเทศกลับมาไม่ได้ คำว่า อยากกลับบ้าน กลายเป็นคำที่มีความหมายกับจิตใจมาก งานชุด ‘Home is Everything’ ชิ้นนี้ จึงขอส่งความรู้สึกที่ดีจากในบ้านเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคน” โฉมชฎาบรรยายความรู้สึกที่สัมผัสได้ในยามนี้
ขณะที่การพัฒนา ออกแบบบ้านของเอสซี แอสเสท ได้ปรับให้อยู่ภายใต้แนวคิด ‘Home is Everything’ เป็นแบบบ้านในยุค Post Covid Home ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกคนในบ้าน ที่อาจต้องใช้ชีวิตร่วมกันมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใส่ใจเรื่องสุขภาพ ความสะอาด และความปลอดภัย
“ในฐานะของนักสร้างแบรนด์ ยามที่ลูกค้ายากลำบาก ทุกคนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงที่เขามืดมน หดหู่ และสิ้นหวัง ทำอย่างไรที่เราจะเป็นแสงสว่างให้เขาได้ ด้วยการทำหน้าที่เป็นแบรนด์ที่ดี สร้างกำลังใจ เราต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป หยุดทำไม่ได้” โฉมชฎากล่าวทิ้งท้าย
#โฉมชฎา
